โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"โย่ง อาร์มแชร์" เผยทั้งน้ำตา อยู่เฝ้าพ่อจนวินาทีสุดท้าย รับปากจะดูแลแม่ให้ดี

Amarin TV

เผยแพร่ 16 ก.ค. 2563 เวลา 13.16 น.
“โย่ง อาร์มแชร์” เปิดใจหลังสูญเสียคุณพ่อ “พันเอก (พิเศษ) สุรชัย มณีเทศ” เผยทั้งน้ำตาวินาทีท่านจากไปด้วยอาการไขกระดูกเสื่อมจนติดเชื้อในปอด

"โย่ง อาร์มแชร์" เปิดใจหลังสูญเสียคุณพ่อ "พันเอก (พิเศษ) สุรชัย มณีเทศ" เผยทั้งน้ำตาวินาทีท่านจากไปด้วยอาการไขกระดูกเสื่อมจนติดเชื้อในปอด

16 ก.ค. 63 บรรยากาศภายในศาลาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า งานสวดอภิธรรมศพค่ำคืนแรกของ "พันเอก (พิเศษ) สุรชัย มณีเทศ" คุณพ่อของ "โย่ง อาร์มแชร์" ที่จากไปอย่างสงบเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 ก.ค. 2563 ที่ผ่านมา ในวัย 69 ปี ด้วยอาการติดเชื้อที่ปอด โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมาอย่างต่อเนื่องก่อนที่ท่านได้จากไปอย่างสงบ

ทั้งนี้ทางครอบครัว “มณีเทศ” ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลและสวดอภิธรรม ที่ศาลา 7 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร (บางเขน) ต่อมาในเวลา 16.00 น. ทางครอบครัวได้จัดพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรมค่ำคืนแรก โดยมีครอบครัวเป็นเจ้าภาพ การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ แก่ "พันเอก(พิเศษ)สุรชัย มณีเทศ" เวลาประมาณ 16.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ของกระทรวงวัฒนธรรมได้เชิญน้ำหลวงพระราชทานอาบศพ หลังจากนั้นเวลา 18.30 น.ได้มีการสวดอภิธรรมในลำดับต่อไป

ด้าน "โย่ง อาร์มแชร์" เปิดใจหลังสูญเสียคุณพ่อว่า "คุณพ่อเริ่มมีอาการป่วยด้วยโรคไขกระดูกเสื่อม ส่งผลให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดขาวออกมาได้น้อย เมื่อเม็ดเลือดขาวน้อยลงก็ทำให้ภูมิต้านทานในการต่อสู้กับเชื้อโรคน้อยลง และยังส่งผลให้ติดเชื้อได้ง่าย ขนาดที่เป็นไข้หวัดธรรมดาถึงขั้นต้องเข้าไอซียูเลยทีเดียว" 

"ทางครอบครัวทราบว่าคุณพ่อเป็นโรคไขกระดูกเสื่อมเมื่อช่วงเดือนธันวาคม ใกล้กับวันเกิดของท่าน ตอนนั้นเองครอบครัวก็ลำบากใจที่จะบอกโดยตรงกับทางคุณพ่อ เพราะโรคดังกล่าวนั้นไม่สามารถรักษาให้หายได้ อีกทั้งใกล้ถึงวันเกิดท่าน กลัวท่านจะทำใจไม่ได้ ครอบครัวเลยเก็บไว้เป็นความลับ รอหลังฉลองวันเกิดท่านเสร็จ"

"ส่วนการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนั้นหลังจากตรวจเจอในช่วงธันวาคมที่ผ่านมา ก็เข้าออกโรงพยาบาล 2 ครั้ง ครั้งแรกก็สามารถกลับบ้านได้ แต่ครั้งที่ 2 คือครั้งล่าสุด ท่านเหมือนภูมิคุ้มกันไม่ดี ให้ยาฆ่าเชื้อไปก็ไม่มีการตอบสนอง ทำให้ติดเชื้อที่ปอด"

"ที่ผ่านมาคุณพ่อต่อสู้มาตลอด มีสติและพยายามสื่อสารกับเรา และบอกกับครอบครัวว่ายังไหว ซึ่งก่อนที่ท่านจะเสียนั้นอาการท่านก็ดีขึ้นถึงขั้นจะออกจากโรงพยาบาล แต่อยู่ ๆ ก็เกิดทรุดลงจนทีมเเพทย์ต้องเรียกครอบครัวไปพูดคุยและให้ทำใจไว้ ครอบครัวเองภาวนาและหวังทุกวันแต่สุดท้ายก็ไม่มีปาฏิหาริย์จนคุณหมอใช้วิธีการเพิ่มยาให้ท่านหลับและค่อย ๆ จากไป เผยช่วงสุดท้ายทางตนและครอบครัวก็ได้แต่พูดอำลาท่านทุกวันบอกว่าท่านไม่ต้องเป็นห่วงพร้อมรับปากจะดูแลคุณแม่ให้อย่างดี และได้ยืนเฝ้าท่านจนถึงวินาทีสุดท้าย ผมเรียนเซฟมาแต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำอาหารให้กับท่านได้แต่มื้อเดียว เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าเสียดาย"

"โย่ง" ยังกล่าวต่ออีกว่า ถ้ามีโอกาสหากได้เจอกันอีกขอให้ท่านเกิดมาเป็นลูกของผมบ้าง ส่วนทางคุณแมาเองยอมรับว่าท่านเข้มแข็งมากกว่าที่คิด เพราะท่านมองว่าการจากลาครั้งนี้เป็นเพียงหนึ่งวาระที่จะทำให้ในอนาคตจะได้เจอกันอีก รับเผยวินาทีสุดท้ายของชีวิตส่วนตัวพร้อมทำหน้าที่ลูกได้ดีที่สุด

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0