โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

โมดริชตัดพ้อ! บางครั้งทีมดีกว่าก็ไม่ชนะ, ชี้VARคือจุดเปลี่ยน

SMMSPORT

อัพเดต 16 ก.ค. 2561 เวลา 07.52 น. • เผยแพร่ 16 ก.ค. 2561 เวลา 00.52 น. • SMMSport.com
โมดริชตัดพ้อ! บางครั้งทีมดีกว่าก็ไม่ชนะ, ชี้VARคือจุดเปลี่ยน
ลูก้า โมดริช ชี้โครเอเชียคือทีมที่ดีกว่าฝรั่งเศส แม้พวกเขาจะตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 กรกฎาคม 2561) และเป็นได้แค่พระรองก็ตาม

          ลูก้า โมดริช กัปตันทีมชาติโครเอเชียเจ้าของรางวัลบอลทองคำ (Golden Ball) หรือ ผู้เล่นยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลกครั้งนี้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังเกมโดยเชื่อว่าทีมของเขาเล่นได้ดีกว่าฝรั่งเศสในรอบชิงชนะเลิศเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่จุดโทษจาก VAR (วิดีโอช่วยตัดสิน) เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมที่ทำให้ฝรั่งเศสเอาชนะไป 4-2 โดยที่โมดริชรู้สึกว่าจุดโทษคือตัวทำลายการแข่งขัน

          อย่างไรก็ตามโมดริชก็ยอมรับว่า 'บางครั้งทีมที่ดีกว่าก็ไม่ชนะ' โดยโมดริชสามารถคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมมาได้เช่นเดียวกับโอลิเวอร์ คาห์น, ซีเนดีน ซีดาน และลิโอเนล เมสซี่ ที่คว้ารางวัลดังกล่าวมาได้แต่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศ โดยกัปตันทีมวัย 32 กล่าวว่ารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รับรางวัลสำหรับตัวเองแต่ตัวเขานั้นต้องการคว้าแชมป์กับโครเอเชียมากกว่า

           เมื่อถามว่าคิดว่าโครเอเชียโชคไม่ดีหรือเปล่า โมดริชกล่าวว่า "ครับ ผมคิดแบบนั้น ทุกคนรู้สึกแบบเดียวกันว่าเราเล่นดี ผมคิดว่าเราเป็นทีมที่ดีกว่าแต่บางครั้งทีมที่ดีกว่าก็ไม่ได้ชนะเสมอไป" ดาวเตะเรอัล มาดริดเชื่อว่าประตูที่ 2 ของฝรั่งเศสในนาทีที่ 38 เป็นจุดเปลี่ยนของเกม ทั้งที่เกมตอนนั้นโครเอเชียเหนือกว่าหลังจากอิวาน เปริซิช ยิงตีเสมอให้ 'ตราหมากรุก' อย่างสวยงามชนิดที่ อูโก้ โยริส หมดปัญญาเซฟ 

          แต่ฝรั่งเศสก็กลับมานำอีกครั้งเมื่อ เนสเตอร์ ปิตาน่า กรรมการชาวอาร์เจนติน่า ดูวิดีโอในสนามและตัดสินให้จุดโทษจากการทำแฮนด์บอลของอิวาน เปริซิช และเป็นอองตวน กรีซมันน์ สังหารจุดโทษเข้าไป "เราประหลาดใจที่มีการให้จุดโทษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วลูกฟาล์วสำหรับประตูแรกนั้น (ลูกจากจังหวะฟรีคิกที่อองตวน กรีซมันน์ โยนมาในเขตโทษ และมาริโอ มานด์ซูคิช ขึ้นโหม่งบอลย้อนเข้าประตูตัวเอง) ไม่ได้เป็นลูกฟาล์วในความคิดผม และต่อมาพวกเราก็กลับสู่เกมจากตรงนั้นได้" "เราเล่นได้ดีและเล่นฟุตบอลที่ดีที่สุดและต่อมาเขาก็มาให้จุดโทษกับพวกเขา มันเป็นการฆ่าพวกเราเลยล่ะ เพราะมันไม่ง่ายที่จะกลับสู่เกมใหม่อยู่เรื่อยๆ" "แต่เราก็พยายาม เราต่อสู้จนถึงที่สุดและเราก็ภูมิใจในสิ่งที่เราทำรวมไปถึงวิธีการเล่นของเรา แต่ในที่สุดมันก็ไม่เพียงพอที่จะคว้าชัยชนะ"

         ในขณะที่โมดริชได้รับรางวัล 'บอลทองคำ' (Golden Ball) แต่อองตวน กรีซมันน์ หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสได้เหรียญแชมป์โลกและยังได้แมน ออฟ เดอะ แมทช์ เป็นนัดที่ 3 ของทัวร์นาเมนท์นี้ โดยดาวยิงวัย 27 กล่าวว่า "ผมยังไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น ฟุตบอลโลกมันมีความหมายมาก แต่ผมภูมิใจมากๆ กับทีมนี้, เหล่านักเตะ, สตาฟฟ์ เรารวมใจเป็นหนึ่งเดียวในฐานะทีมๆ นึง เราได้ทำบางสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ เราสร้างประวัติศาสตร์และเราก็จะสนุกกับมัน" 

         ดาวเตะแอตเลติโก มาดริด ยอมรับว่าเขาไม่รู้ว่าทำไมกรรมการถึงไปดู VAR จากเหตุการณ์ของเปริซิช ซึ่งเดิมทีมันเป็นลูกตั้งเตะจากผู้รักษาประตู "ผมพยายามอยู่ด้านข้างเล็กน้อยและต่อมาก็ทำในแบบที่ผมเคยทำเป็นประจำ ผมทำเหมือนกับว่ามันเป็นแมทช์ในลีกปกติ, นิ่งๆ, มีสมาธิ ผมใช้วิธีการเดียวกันกับที่เคยทำสำหรับจุดโทษและมันก็ได้ผล" ดาวยิง 'ตราหมี' กล่าวทิ้งท้าย
 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0