โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

โพลชี้ “เพจตู่ดิจิทัล” หาเสียงล่วงหน้า

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

เผยแพร่ 21 ต.ค. 2561 เวลา 21.35 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

พลังประชารัฐปัดใช้หมื่นล้าน วรงค์แฉรุ่นเก๋ากดดัน

พท.ถล่ม ผบ.ทบ.ไม่เลิก “วรชัย” จี้ “บิ๊กแดง” เลิกคิดแต่เรื่องยึดอำนาจ ขวางกระแสโลก “พายัพ” หยัน ผบ.เหล่าทัพโชว์พาวพูดข่มขวัญให้คนไทยกลัว “ชวลิต” เหน็บเสียชีพอย่าเสียสัตย์ แหยงนายกฯบอกผู้นำเนเธอร์แลนด์ช้าสุดเข้าคูหา พ.ค.62 แกนนำ พท.เปิดสาขาเชียงใหม่ “วิโรจน์” ยันสู้ศึกในนามพรรคเดียว ไม่มีบ้านสำรอง “เจ๊หน่อย” โต้ข่าวเท็จ “ทักษิณ” คัมแบ็กการเมือง “เสรีพิศุทธ์” ขู่ ก.พ.62 ไม่มีหย่อนบัตร “ประยุทธ์” อยู่ไม่ได้แน่ ปูดบางคนถ่ายเททรัพย์สิน เตรียมไปอยู่ต่างประเทศ 3 บิ๊ก พปชร.หาเสียงเครือข่ายเอสเอ็มอี “สนธิรัตน์” ปัดทุ่มหมื่นล้านตั้งพรรคเป็นรัฐบาล-สลัดทิ้งกลุ่มสามมิตร อ่อยพร้อมจับมือทุกพรรค “อภิสิทธิ์” ซัดดูถูกประชาชนตั้งรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง โพลชี้ “ลุงตู่” เปิดเพจหาเสียงล่วงหน้า

กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมายืนยันว่าเรื่องการปฏิวัติเป็นเรื่องที่พูดกันไปเรื่อย ไม่มีใครอยากจะทำ แต่ยังไม่สามารถหยุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายการเมือง ภายหลัง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. รวมทั้ง ผบ.เหล่าทัพ แสดงท่าทีไม่รับประกันว่าจะไม่มีการทำรัฐประหารอีก

“วรชัย” จี้ ผบ.ทบ.เลิกคิดเรื่องยึดอำนาจ

เมื่อวันที่ 21 ต.ค. นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ไม่ยืนยันจะไม่มีการรัฐประหารว่าเป็นการพูดกันไปเรื่อย ไม่มีใครเขาอยากทำว่า ตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็น ผบ.ทบ.พูดยืนยันหลายครั้งว่าจะไม่มีการรัฐประหาร แต่ในที่สุดก็ทำและอยู่ในอำนาจมายาวถึงวันนี้ อีกทั้งยังพยายามวางกติกาให้ได้เปรียบคนอื่น เพื่อต่อท่ออำนาจในอนาคตอีก ผบ.ทบ. ออกมาพูดเปิดทางว่าหากไม่มีการก่อจลาจล จะไม่มีการรัฐประหารนั้น ความวุ่นวายที่ผ่านมา รัฐบาลประกาศกฎหมายพิเศษให้อำนาจทหารเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาความวุ่นวาย แทนที่จะใช้อำนาจพิเศษนั้นแก้ไขปัญหากลับไม่ทำ แต่เลือกวิธียึดอำนาจ แล้วการพูดเปิดทางเช่นนี้ จะไม่ให้สังคมวิตกได้อย่างไร และเหตุที่สังคมกังวลกันเพราะทุกครั้งที่มีการรัฐประหาร ประเทศก้าวถอยหลังประชาชนเดือดร้อนทุกครั้ง ในเมื่อวันนี้นานาประเทศยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย ขอให้ ผบ.ทบ.เลิกคิดเรื่องการยึดอำนาจที่ขวางกระแสโลก ได้แล้ว

“พายัพ” เย้ยแค่พูดโชว์พาวให้คนกลัว

นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ผบ.เหล่าทัพไม่ยืนยันว่าจะไม่รัฐประหารอีก หากบ้านเมืองมีความวุ่นวายว่าขอไม่แสดงความคิดเห็น เพราะเป็นทัศนะของผู้นำเหล่าทัพที่เพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่ ต้องแสดงอำนาจบารมีให้นายเห็น และให้คนไทยในชาติเกรงกลัววาสนาบารมี ต่างประเทศจะคิดอะไรท่านคงไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น ยิ่งเป็นความรู้สึกของคนไทยท่านคงเฉยๆ ไหนๆแล้ว อยากเชิญชวนผู้นำเหล่าทัพแสดงภาวะผู้นำให้วิสัยทัศน์การแก้ไขปัญหาประเทศ 10 ข้อให้สาธารณชนคนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เห็นเชิงประจักษ์อย่างเป็นรูปธรรมเสียที อาทิ กองทัพจะใช้จ่ายงบประมาณที่เพิ่มขึ้นปีละหลายแสนล้าน ให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร โดยไม่มีข้อครหา การแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม ข้อครหาการทุจริตที่ตรวจสอบไม่ได้ในรัฐบาล ปัญหาข้อกล่าวหาการทุจริตโครงการประกันราคาข้าว ของรัฐบาลก่อน ที่อ้างว่าเอกสารหายลอยน้ำไป ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่รัฐทุ่มงบฯหลายแสนล้าน ขณะที่มีกองทัพเข้มแข็ง ทำอย่างไรถึงจะสงบเหมือนพื้นที่อื่น

“ชวลิต” เหน็บผู้นำเสียชีพ อย่าเสียสัตย์

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้ไปเยี่ยมประชาชนพื้นที่ ต.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม ชาวบ้านสะท้อนเป็นเสียงเดียวว่า 3-4 ปีนี้เดือดร้อนปากท้อง ผลผลิตการเกษตรขายไม่ได้ราคา ยางพาราตกต่ำมาก 6 กิโลกรัม 100 บาท กรีดยางจนหมดสวนไม่พอค่าเทอมลูก อยากให้ราคายางสูงเหมือนสมัยรัฐบาลไทยรักไทยและเพื่อไทย แต่ดูทีท่านายกฯน่าจะเป็นโรคเลื่อนอีก เพิ่งไปรับปากกับนายกฯญี่ปุ่นมาหยกๆว่าจะเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.62 ห่างกันไม่กี่วันกลับบอกนายกฯเนเธอร์แลนด์ว่าการเลือกตั้งอย่างช้าสุดจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค.62 ประชาชนอายไม่อยากให้ชาวโลกมองคนไทยว่าคำพูดเชื่อถือไม่ได้ เรียนลูกเสือกันมาตั้งแต่เด็กๆจำคำขวัญได้ขึ้นใจว่า “เสียชีพ อย่าเสียสัตย์” ได้ให้กำลังใจประชาชนไปว่าเลือกตั้งมีแน่ คราวนี้เงินสะพัด แค่ปี่กลองยังไม่ทันเชิด เริ่มทยอยแจกไข่ไก่ เกลือ และน้ำเป็นรายครัวเรือนกันแล้ว กกต.ตรวจสอบด้วย

พท.ตั้งสาขาเชียงใหม่สู้ในชื่อเดียว

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ล้านนา เลขที่ 120/3 หมู่ 3 ต.แม่ปูคา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ มีการประชุมสมาชิกพรรคเพื่อไทย และรับสมัครสมาชิกเพิ่ม พร้อมเลือกคณะกรรมการสาขาพรรคและหัวหน้าสาขาพรรคลำดับ 2 จ.เชียงใหม่ (ภาคเหนือ) โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และอดีต ส.ส. เข้าร่วมคับคั่ง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 หน่วยข่าวกรอง และ กกต.จังหวัดร่วมสังเกตการณ์

พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวสมาชิกพรรคเพื่อไทยเตรียมย้ายจากพรรคเพื่อไทย เพราะเกรงว่าจะถูกยุบว่าไม่มีมูลความจริง สมาชิกไม่คิดถึงการย้ายพรรค มั่นใจว่าสิ่งที่ กกต.ตรวจสอบอยู่จะไม่นำไปสู่การยุบพรรค การเลือกตั้งครั้งต่อไปจะยืนหยัดต่อสู้ในนามพรรคเพื่อไทยพรรคเดียว ยืนยันไม่มีพรรคสำรองหรือนอมินี ที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองนายกฯสมัยพรรคพลังประชาชน ไปเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อธรรมเป็นเรื่องส่วนตัว ก่อนไปได้ออกจากสมาชิกพรรคแล้ว จ.เชียงใหม่ ยังคงเป็นเมือง หลวงของพรรคเพื่อไทย เขต 1 น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ยังลงเหมือนเดิม แม้ญาติจะย้ายไปพรรคอื่น

เขต 1-3-7 ส่งคนรุ่นใหม่รักษาพื้นที่

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ลูกชายนักธุรกิจใหญ่ใน จ.เชียงใหม่ เจ้าของโรงแรมพิงพยอม และ ตลาดต้นพยอม อ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้รับ เลือกให้ลงสมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 อ.สันกำแพง แม่ออน ดอยสะเก็ด เขต 1 และ 7 เป็นผู้สมัครหน้าใหม่เช่นกัน ส่วนเขต 2-9 เป็นอดีต ส.ส.เดิมทั้งหมด นายสมชายกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ คงไม่ลงมาเล่นการเมืองแล้ว ไม่ส่งลูกหลานมาลงสมัคร ส.ส.ด้วย คงเป็นที่ปรึกษาอะไรทำนองนั้น

นายเดชวิทย์ เตริยาภิรมย์ ลูกชายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ถูกวางตัว ให้ลงสมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 7 อ.แม่ริม แม่แตง รวม อ.สะเมิงและกัลยาณิวัฒนาเข้าไปด้วย เป็นเขตเก่า ที่พ่อเป็น ส.ส. เราอยากทำอะไรดีๆให้ประเทศชาติบ้าง

“เจ๊หน่อย” โต้ข่าวเท็จ “ทักษิณ” คัมแบ็ก

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภาคเหนือและอีสานมีคนลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทยจนล้น ต้องให้สิทธิผู้สมัครเดิมก่อน ยกเว้นผู้สมัครเดิมอาจเปลี่ยนแปลง ภาคเหนือตอนล่างมีย้ายพรรคบ้างแต่น้อยมาก จำนวน ส.ส.ที่ทำโพลสำรวจพบว่าประชาชนให้ความนิยม และจากโพลสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานต่างๆ ทำคะแนนนิยมของประชาชนมากขึ้น มาจากความเดือดร้อนของชาวบ้าน คาดหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ได้ เรามุ่งมั่นทำงาน เอาจุดแข็งของเราที่เป็นพรรคคิดเป็น ทำเป็นและทำสำเร็จ มาแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ส่วนที่มีบางสื่อออกข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะกลับมาเป็นนายกฯคนนอกที่ประเทศไทยอีก ไม่เป็นความจริง ท่านพูดชัดเจนว่าจะไม่กลับมาทางการเมือง ในไทยอีก แต่ในฐานะเป็นคนไทย อะไรเห็นว่ามีประโยชน์ย่อมรักและห่วงใยประเทศชาติ ขอให้เข้าใจ ตรงกัน พรรคที่ผ่านการยุบพรรคมาแล้วถึง 2 ครั้ง ต้องระวัง เราทำตามระเบียบกฎหมายทุกอย่าง

3 บิ๊ก พปชร.ลุยพื้นที่ห้ามเรียก รมต.

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ว่าที่เลขาธิการพรรคและนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่าที่รองหัวหน้าพรรค ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรม “สร้างเครือข่าย SME ต่อยอดธุรกิจเกษตร” ที่เลมอน มี ฟาร์ม ฟาร์มมะนาวยุคใหม่ของนายธงชัยพัฒน์ ดีสวัสดิ์ โดยนายสนธิรัตน์กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ไม่ได้มาในนามรัฐมนตรี ขออย่าเรียกว่ารัฐมนตรี ถ้าเรียกจะโกรธ เรามาเพื่อรับฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

“อุตตม” ปิดปากไม่อยากจ้อการเมือง

นายอุตตมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การมารับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครั้งนี้ พรรคได้รับการเชิญชวนมา แกนนำทั้ง 3 คนสนใจอยู่แล้ว เมื่อเกษตรกรรวมกลุ่มกันชวนเรามาก็ยินดี เพราะเป็นประโยชน์แน่นอน ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงวิพากษ์ว่าพปชร.ยังเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นอยู่ นายอุตตม ตอบว่าไม่ว่าจะเป็นในนามรัฐบาลหรือรัฐมนตรี เราปฏิเสธหรือห้ามเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ เรื่องแบบนี้ต้องให้คนไทยในสังคมฟังตัดสินด้วยตัวเองว่าใครพูดอย่างไร ที่ผ่านมาเคยปฏิบัติอย่างไรแล้ววันนี้ปฏิบัติกันอย่างไร การมาครั้งนี้ขอไม่พูดถึงเรื่องของพรรคมาก การดำเนินการของพรรค ขณะนี้ผู้ร่วมก่อตั้งกำลังดำเนินการกันอยู่ เมื่อถามว่า นายชวน ชูจันทร์ ว่าที่กรรมการบริหารพรรคระบุว่า พปชร.จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เป็นนายกฯ นายอุตตมตอบว่าวันนี้เราไม่ได้มาเพื่อพูดเรื่องการเมือง เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่อง ที่มีคนพูดกันนานแล้ว เมื่อถึงเวลาเราจะมาหารือร่วมกัน แต่วันนี้พรรคยังไม่เกิดขึ้นวันนี้ยังอีกห่างไกลมาก

“สนธิรัตน์” ปัดสลัดทิ้งกลุ่มสามมิตร

จากนั้นเมื่อเวลา 11.30 น. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ว่าที่เลขาธิการพรรคประชารัฐให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนถึงการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯในนามพรรคว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาพรรคยังอยู่ในกระบวนการจดจัดตั้ง ยังมีเวลายังไม่ถึงตรงนั้นเลย และยังไม่ทราบว่าเมื่อถึงตอนนั้นใครจะยอมรับให้พรรคเสนอชื่อบ้าง ยังมีกระบวนการอีกหลายขั้นตอน เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ ไม่อยากได้กลุ่มสามมิตรเข้าร่วมพรรคแล้ว นายสนธิรัตน์ตอบว่า ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ กระแสข่าวมีอยู่ทุกวัน สื่อไปให้ความสำคัญกับกลุ่มสามมิตร ความจริงไม่ใช่ ยังมีกลุ่มต่างๆอีกมากมายที่มีการพูดคุยกัน ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเลย เรากำลังรอเป็นพรรคที่สมบูรณ์ ถึงจะเริ่มดำเนินการจริงจังในส่วนนี้ แต่การพูดคุยโดยทั่วไปก็ว่ากันไป เพราะรู้จักกันก็พูดคุย 4 รัฐมนตรีของพรรคจะลาออกเมื่อใด ไม่อยากให้กังวลใจ เรามีคำตอบอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลาจะบอก ตอนนี้ทุ่มเทเต็มที่ในการทำหน้าที่ ส่วนการลงพื้นที่ ครม.สัญจร จ.พะเยา-เชียงราย วันที่ 29-30 ต.ค. ถือเป็นหน้าที่ และการลงพื้นที่ต้องเป็นการทำในหน้าที่จริงๆ ไม่ได้อยู่ในแนวทางการหา เสียง ต้องเลือกงานที่ไม่หมิ่นเหม่ให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ใช้อำนาจหน้าที่ไปทำให้เกิดประโยชน์ต่อพรรคขอให้สบายใจ ทราบดีว่าเป็นที่จับจ้องของสังคม

ลั่นจับมือได้ทุกพรรค

นายสนธิรัตน์กล่าวต่อว่า เรายินดีจับมือกับทุกพรรคการเมือง อยู่ที่ว่าพรรคต่างๆจะจับมือกับเราหรือไม่ ถึงอย่างไรการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้รัฐบาลผสมอยู่แล้ว ถ้าบอกว่าไม่จับมือจะเหมือนกับโกหก ต้องดูว่าอุดมการณ์ แนวทางการบริหารประเทศ นโยบาย ว่าตรงกันหรือไม่ ยินดีจับมือกับทุกพรรค ไม่เคยรังเกียจพรรคใด แต่ไม่ทราบว่านักการเมืองจะมารังเกียจตนทำไม เพราะเพิ่งเข้ามาในการเมืองใคร อยากคุยอะไรพร้อมคุยหมด ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง พรรค พปชร.เกิดมาเพื่อจับมือกับทุกพรรค เพื่อก้าวข้ามการแบ่งพวกแบ่งสี ทางการเมืองสู้กันไป แต่เมื่อยุติแล้วต้องทำงานร่วมกันให้ได้ ประเทศจะได้ไม่บอบช้ำ พรรคที่เราจะไม่สามารถจับมือด้วยคือพรรคที่นโยบายการบริหารประเทศ การเมืองไม่ตรงกัน หัวใจของการเลือกตั้งครั้งนี้คือการสร้างความสามัคคี เลิกวาทกรรมคนนั้นดีคนนี้ไม่ดี อยากเห็นการก้าวข้าม แล้วมาเล่นการเมืองแฟร์ๆ อยู่บนหลักการที่มีเหตุผล มีข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์ ไม่ทำร้ายกัน สังคมมีทั้งคนดีและไม่ดี ติติงกันได้ เพื่อให้ประเทศพัฒนาไปได้ นี่คือจุดยืนของพรรค

ยังต้องเดาใจ “บิ๊กตู่” เอาไม่เอา

เมื่อถามว่า พปชร.จับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา เพื่อไทยได้หรือไม่ นายสนธิรัตน์ ตอบว่าถ้าพรรคต่างๆอยากจับมือกับเราก็ยินดี จุดยืนเราคือไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง แต่จะเป็นส่วนเชื่อมโยงความขัดแย้ง ตนไม่ได้ชวนใครทะเลาะไม่เคยตอบโต้ใคร เมื่อถามว่าวันหนึ่งถ้ามีการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีก ความขัดแย้งอาจเกิดขึ้นอีก นายสนธิรัตน์ตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นหรือไม่ก็ไม่รู้ต้องไปถามท่าน วันนี้ยังไม่ถึงเวลาจะไปพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ควรรอให้ถึงเวลาค่อยมาพิจารณากันว่าเวลานั้นใครเหมาะสมเป็นนายกฯ พรรคจะพิจารณาคนที่เหมาะสมที่สุด เป็นใครก็ได้ที่น่าเชื่อถือ ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะนำพาประเทศไปได้ ผู้นำประเทศไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ไม่ใช่ใครก็ได้จะขึ้นมาเป็นนายกฯ คนที่พรรคจะเสนอชื่อเป็นนายกฯ ประชาชนต้องยอมรับด้วย ถ้าไม่มีใครยังมีนายอุตตม ว่าที่หัวหน้าพรรค ส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ยืนยันแล้วว่าจะไม่ทำการ เมืองต่อ ยังมีเวลาถ้าตนไปเชิญ พล.อ.ประยุทธ์แล้วไม่เอาก็เป็นไม่ได้ จะไปเดาใจท่านได้อย่างไรว่าจะเอา ไม่คิดว่าจะไม่เอาบ้างเหรอ อย่าคิดกันไปเอง ไม่มีใครอยากเป็นหรอกเหนื่อยจะตาย

ปัดทุ่มหมื่นล้านทำพรรคตั้งรัฐบาล

นายสนธิรัตน์กล่าวอีกว่า เราตั้งเป้าทำพรรค การเมืองนี้ให้ดีที่สุด หลังการเลือกตั้งพรรคนี้จะใหญ่หรือเล็กอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน จะไว้วางใจหรือไม่ ผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไรพร้อมน้อมรับ ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะเป็นพรรคใหญ่พรรคเล็กหรือได้เป็นรัฐบาล ยืนยันว่าไม่ใช่พรรคทหาร แต่ตั้งใจจะทำพรรคนี้ให้เป็นสถาบันทางการเมือง ขออย่ามาวิจารณ์พวกตน เพราะคงไม่มีใครเอาชีวิตมาเสี่ยง ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ แต่จะทำให้ดีที่สุด ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเราดูด ส.ส.ถามว่าถ้าเราดูดแล้วสอบตก เขาจะมาเหรอ เรื่องแบบนี้ไม่มีแน่นอนเป็นวาทกรรมเท่านั้น ยืนยันว่าการทำพรรคครั้งนี้ใช้เงินตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ได้ใช้เป็นหมื่นล้าน อย่างที่วิจารณ์กัน

“อรรถวิชช์” ยักท่าต้องกระจายอำนาจ

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยังเร็วไปที่จะพูดเรื่อง ใครจับมือกับใคร ใครจะมาขอจับมือต้องรับนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ เราสนับสนุนการกระจายอำนาจ ให้เลือกตั้งผู้ว่าฯบางจังหวัด ถ้าพรรคนั้นมีนโยบายกระจายอำนาจคล้ายกันอาจไปด้วยกันได้ แต่วันนี้รัฐบาล คสช. ยังบูรณาการด้วยนโยบายรวมศูนย์อำนาจอยู่เลย ต้องรอดูท่าทีและนโยบายหลังจาก คสช.ปลดล็อกให้พรรคการเมืองต่างๆดำเนินกิจกรรมเสร็จแล้ว พรรคพลังประชารัฐจะมีนโยบายเหมือนเดิมหรือเเตกต่างจากปัจจุบันอย่างไร

“นิพิฏฐ์” ชี้แพ้ซ้ำซากดีกว่าทิ้งอุดมการณ์

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ “แพ้ซ้ำซาก” ว่ามีหลายคนท้อแท้ อับอายว่า พรรคประชาธิปัตย์มีจุดอ่อนแพ้ซ้ำซาก บางคนถึงกับคิดจะตีจากไปอยู่กับผู้ชนะ ไม่มีความเห็นเรื่องการตีจาก แต่ขอให้พิจารณาความพ่ายแพ้ของพรรคกับการรักษาอุดมการณ์ของพรรคว่าหากเรายังรักษาอุดมการณ์ทั้ง 10 ข้อในการก่อตั้งพรรคไว้ได้ แม้เราจะพ่ายแพ้ ถือว่ายังไม่ทรยศต่ออุดมการณ์ หากเราชนะ แต่ละทิ้งอุดมการณ์ จะไม่ได้ชื่อว่าประชาธิปัตย์

ปชป.เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน

“หากเปรียบประเทศนี้เป็นรถยนต์ มีผู้โดยสารเต็มรถ ผู้ชนะได้เป็นรัฐบาล เหมือนคนขับรถถือพวงมาลัยและเหยียบคันเร่งนำรถไปข้างหน้า เราผู้พ่ายแพ้เหมือนเป็นเบรกรถ คอยแตะในจังหวะที่คอยชะลอหรือหยุดรถในจังหวะที่ควรหยุด 10 ปีที่ผ่านมาคนขับรถคันนี้ ขับอย่างเมามัน ใช้ทรัพยากรสุรุ่ยสุร่าย รถคันนี้จะนำผู้โดยสารไปตกเหว เราก็แตะเบรกหยุดรถ ไม่ให้ผู้โดยสารได้รับอันตราย เราภูมิใจการทำหน้าที่เพื่อให้ประเทศนี้ปลอดภัยจึงไม่อับอาย ไม่เย้ยหยันพรรคในความพ่ายแพ้ แต่จะใช้เป็นบทเรียนปรับปรุงให้พรรคกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง คนของเราไม่ติดคุกด้วยการทุจริต ไม่ถูกริบทรัพย์เป็นของแผ่นดิน ยังหายใจสบายในแผ่นดินแม่ ไม่ต้องลี้ภัยไปตายต่างประเทศ เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน นั่นคือจุดแข็งของเรา ประชาธิปัตย์มิใช่หรือ” นายนิพิฏฐ์ระบุ

“มาร์ค” ซัดดูถูก ปชช.ตั้งรัฐบาลก่อน ลต.

เมื่อเวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้สมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 1 พร้อมด้วยคณะ ลงพื้นที่พบปะสมาชิกพรรค จ.นครศรีธรรมราช มีสมาชิกตั้งแถวโบกธงสีฟ้าประจำพรรค รอต้อนรับจำนวนมาก จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องเป็นแบบอย่างพรรคการเมืองที่จะทำให้ประชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตยที่แก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้จริง เป็นประชาธิปไตยที่กระจายอำนาจ ที่คิดนโยบายให้ถึงประชาชนจริงๆ และต้องพา บ้านเมืองออกจากปัญหาวังวนเดิมๆ ให้ได้ ช่วงเป็นรัฐบาลหลายอย่างยังทำไม่เสร็จ อาทิ เรียนฟรี 15 ปี นโยบายการเกษตร ทั้งยางพารา ปาล์มน้ำมัน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ อสม.ต้องทำงานเชิงรุกเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงต้องทำต่อเนื่อง จึงกลับมาขอโอกาสในการเลือกหัวหน้าพรรค ต้นเดือน พ.ย. ขออาสาตรงนี้เพราะมีทั้งประสบการณ์และยังมีไฟ เราเคยเริ่มเคยทำแล้วและจะทำต่อ พรรคตั้งมา 70 กว่าปี เพื่อเป็นหลักให้บ้านเมืองและประชาชน ไม่ได้ตั้งพรรคมาเพื่อเป็นกองหนุนให้ใคร ถ้าเป็นรัฐบาลแล้วทำนโยบายเพื่อประชาชนไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐบาล การตั้งรัฐบาลก่อนเลือกตั้งถือว่าดูถูกเสียงของประชาชน

“อลงกรณ์” อ้อนสมาชิกหนุนปฏิรูปพรรค

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่โรงแรมเอเชี่ยน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครเข้ารับการหยั่งเสียงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประ-ชาธิปัตย์ หมายเลข 3 พร้อมทีมงาน จัดแถลงแสดงจุดยืนนโยบายวิสัยทัศน์ต่อสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ทุกจังหวัด นายอลงกรณ์กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคต้องปฏิรูปพรรคครั้งใหญ่ เพื่อกลับมาเป็นหลักของประชาธิปไตยและประเทศชาติ แม้เราจะพ่ายแพ้มายาวนานถึง 27 ปีไม่เคยชนะการเลือกตั้งทั่วไป ต้องไม่ท้อแท้สิ้นหวัง สมาชิกภาคใต้เป็นฐานกำลังสำคัญ มีผู้นำพรรคและ ส.ส.ที่เป็นนายกฯ รัฐมนตรี ส.ส.ผู้บริหารและสภาท้องถิ่นจำนวนมาก เป็นที่ยอมรับระดับประเทศและนานาชาติ เช่น นายชวน หลีกภัย และอีกหลายท่าน ถ้าสมาชิกพรรคสนับสนุนตนเป็นหัวหน้าจะนำประชาธิปัตย์สู่ชัยชนะที่ยั่งยืน อัปเกรดภาคใต้สู่ยุคใหม่

“วรงค์” ห่วงโยกวันหยั่งเสียงรุ่นเก๋ากดดัน

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้สมัครรับการหยั่งเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรค หมายเลข 2 กล่าวว่า ตนและทีมงานไม่สบายใจบางเรื่องที่เป็นเงื่อนไขกับพรรค อาทิ เรื่อง Source Code ในแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือสำหรับการลงคะแนน อีกทั้งได้รับแจ้งว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงวันลงคะแนนหยั่งเสียง จะมีผลต่อแผนงานของเรา และกังวลว่าระบบลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์อาจมีช่องโหว่ให้เข้าไปดูในฐานข้อมูลได้ว่าใครลงคะแนนให้ใคร อาจทำให้เกิดการทุจริตในการหยั่งเสียง ตามหลักการเลือกตั้งข้อมูลต้องเป็นความลับ เปิดเผยได้เฉพาะผลคะแนนเลือกตั้งเท่านั้น ได้รับแจ้งจากอดีต ส.ส.หลายคนว่ามีผู้อาวุโสและมีบารมีในพรรคพยายามกดดันเรื่องการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค อยากเตือนไปถึงคนในพรรคด้วยว่าอยากให้ทำอะไรๆ แบบพอดี

ภท.อาสาแก้ปัญหาปากท้องคนใต้

นายนาที รัชกิจประการ ผู้ประสานงานพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการเตรียมการเลือกตั้ง ส.ส.ภาคใต้ของพรรคว่าพรรคเดินหน้าทำความเข้าใจ ส่งความปรารถนาดีให้ประชาชนทุกคน โดยเฉพาะปัญหาปากท้องในฐานะอยู่ภาคใต้สัมผัสใกล้ชิดกับชาวบ้าน หลายปีนี้ราคายางพารา ปาล์มและข้าวตกต่ำลงอย่างมาก เราไม่มีเวลาทะเลาะชิงดีชิงเด่นทางการเมืองอีกต่อไปแล้ว อีกปัญหาของพี่น้องชาวใต้ที่รอให้แก้ไข ที่เป็นนโยบายสำคัญอีกอย่างคือการลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน เช่น จ.พัทลุง เมืองรองและอีกหลายจังหวัดในภาคใต้มีศักยภาพเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ แต่น่าเสียดายโอกาสที่ไม่ได้รับการส่งเสริม พรรคภูมิใจไทยจะไม่ขัดแย้งกับใคร แต่จะมุ่งมั่นแก้ปัญหาปากท้องเป็นสำคัญ พี่น้องคนใต้ลำบากมามากพอแล้ว นักการเมืองควรหยุดทะเลาะกันเสียที

“เทือก” ชวนคนอีสานเปลี่ยนประเทศ

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ประชุมร่วมคณะผู้ร่วมก่อตั้งและแกนนำพรรคพื้นที่ 20 จังหวัดภาคอีสาน นายสุเทพกล่าวว่า กระแสการตอบรับของคนอีสานดีขึ้นมาก มาอีสานวันนี้ไม่ได้มาหาเสียง ถึงเวลาจะประชุมสมัชชาครั้งใหญ่ ให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมเลือกหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค ที่สำคัญเลือกผู้แทนในเขตเลือกตั้งของตนเอง ถือเป็นพรรคแรกของไทยที่ทำลักษณะนี้ ไม่ใช่การเมืองจอมปลอมหรือประชาธิปไตยจอมปลอมอย่างที่ทำกันมา ขอให้คนอีสานหนักแน่น เดือน ธ.ค.และ ม.ค.62 จะมีหลายพรรคหรือกลุ่มบุคคลที่มาทำให้คนอีสานไขว้เขว จนเลิกล้มอุดมการณ์ทำงานเพื่อประเทศชาติ วันนี้แรงศรัทธาของคนอีสานที่มีต่อพรรค รปช.ดีขึ้นมากถึงเวลาที่คนอีสานจะมาร่วมกันเปลี่ยนประเทศ ร่วมสร้างอุดมการณ์ทางการเมือง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศ

“เสรีพิศุทธ์” ขึ้นเหนือดึงเสียงกู้ภัย

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่วิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย วิทยาเขตเชียงใหม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ผู้ก่อตั้งพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะสมาชิกรวมพลังกู้ภัยใจอาสา เป็นประธานเปิดงานรวมพลังกู้ภัยใจอาสา ครั้งที่ 1 ท่ามกลางการต้อนรับของสมาชิกรวมพลังกู้ภัยใจอาสาและสมาชิกพรรคเสรีรวมไทยในเขตภาคเหนือรอต้อนรับ จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่าวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือเกือบครบแล้ว แต่ยังมีซ้ำซ้อนต้องขอเวลาคัดเลือกตัว ตอนนี้ได้เชิญผู้แสดงความจำนงไว้มายืนยันความประสงค์ลง ส.ส.เขตให้โอกาส 2 ครั้ง บางที่ไม่มาเพราะถูกดูดไปบ้างจึงยังไม่แน่นอน พื้นที่ จ.เชียงใหม่พรรคเดิมครองอยู่ไม่หนักใจ เมืองเจริญคนมีการศึกษา มีความรู้และรู้จักตนดีว่าเป็นคนอย่างไร นโยบายของเรามี 6 หยุด 1.หยุดความยากจน 2.หยุดคอร์รัปชัน 3.หยุดยาเสพติดและผู้มีอิทธิพล 4.หยุดเผด็จการ 5.หยุดภัยใต้ และ 6.หยุดแยกเสื้อสี เรื่องยาเสพติดใครจะทำได้ดีกว่า ปราบคอร์รัปชันใครจะทำดีเท่า หรือหยุดเผด็จการทหารใครจะทำได้เท่าตน หยุดไฟใต้รัฐบาลปัจจุบันขนาดมีมาตรา 44 ยังไม่มีปัญญาหยุดไฟใต้ แต่ตนประสบการณ์สูง หยุดแยกเสื้อสี ตนไม่แบ่งแยกพวกหรือสถาบันอยู่แล้ว

ขู่ ก.พ.62 ไม่มี ลต. “บิ๊กตู่” อยู่ไม่ได้แน่

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวอีกว่า ตนตั้งพรรคนี้ขึ้นมาเพื่อจะรวมไทย ตั้งใจแก้ปัญหาให้ประชาชน เราไม่ทุจริตคอร์รัปชัน ไม่ได้ไปอิงกับผู้มีอิทธิพล ผลประโยชน์ รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ต้องไปรับใช้เป็นขี้ข้า ไปเอาเงินเขามา เมื่อถามว่า ยังเชื่อมั่นว่าจะได้เลือกตั้ง ก.พ.62 หรือไม่ พล.ต.ต.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่ามั่นใจว่ามี หากไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ก็อยู่ไม่ได้ ประชาชนทั้งประเทศยอมมามากแล้ว ยอมให้เขาอยู่มาถึงปีที่ 5 แล้ว หากยังไม่มีสัจจะอีก คงไม่ยอมให้อยู่แล้ว ตอนนี้ทราบว่าบางคนแต่คงไม่เอ่ยชื่อ ได้ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปแล้ว เตรียมไปอยู่ต่างประเทศกัน

คาราวานอนาคตใหม่คึกเหนือจรดใต้

วันเดียวกัน พรรคอนาคตใหม่ เปิดศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่ที่ จ.นราธิวาสและ จ.เชียงใหม่ พร้อมกัน โดยมีทีมงานขบวนคาราวานรับสมัครสมาชิกพรรคทั่วทั้ง 2 จังหวัด และมีนายนิธิ เอียว-ศรีวงศ์ นักวิชาการชื่อดังพร้อมภรรยา เดินทางมาร่วมงานเปิดศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่ สาขาเชียงใหม่ และบริจาคเงินให้กับทางพรรค 10,000 บาท แทนการสมัครสมาชิก พร้อมเขียนข้อความให้กำลังใจว่า “ด้วยความหวังว่าลูกหลานจะได้มีชีวิตในประเทศและสังคมที่มีความเป็นธรรม” นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ กรรมการบริหารพรรค กล่าวว่าขณะนี้พรรคอนาคตใหม่ออกคาราวานรับสมาชิกมาแล้วทุกภูมิภาคทั้งที่นครศรีธรรมราช ระยอง อยุธยา ขอนแก่น เชียงใหม่และนราธิวาส นอกจากนี้ยังเปิดรับสมัครผู้สนใจลงสมัคร ส.ส.ของพรรคในแต่ละเขตบนเว็บไซต์จนถึงวันที่ 17-18 พ.ย.เพื่อให้สมาชิกของพรรคเลือกผ่านระบบออนไลน์วันที่ 8-9 ธ.ค.ต่อไป

“พลังพลเมืองไทย” ชูผู้สมัคร ส.ส.หญิง

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น พรรคพลังพลเมืองไทย จัดประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 2 เพื่อเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค 11 คน นอกจากนี้ ยังเปิดตัวทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หญิงของพรรค พื้นที่กรุงเทพฯ ภายใต้สโลแกน Female for Bangkok นำทีมโดย น.ส.ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ อดีต ส.ส.กทม.เขตคลองสาน ทีมผู้สมัคร ส.ส.หญิง กทม. มาจากหลากหลายอาชีพ ที่เชื่อว่าจะเป็นจุดขายสำคัญช่วยดึงคะแนนเสียงจากคนกรุงเทพฯ โดยจะส่งผู้หญิงลงสมัครรับเลือกตั้ง 30 เขต มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กว่า 20 คนแล้ว

จากนั้นนายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ หัวหน้าพรรคพลังพลเมืองไทย กล่าวถึงจุดยืนของพรรคว่ายังอยู่ที่เดิมรักษาประชาธิปไตย สนับสนุนคนที่ดีมีอุดมการณ์ทำงานเพื่อชาติ ส่วนจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เป็นนายกฯอีกสมัยหรือไม่นั้น ต้องรอให้ท่านเสนอตัวก่อน แล้วค่อยพิจารณา คงไม่มีเงื่อนไขการเข้าร่วมกับใคร เพราะเป็นพรรคเล็กแต่ต้องดูด้วยว่าพรรคใดสามารถรวบรวมเสียงได้ และทำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนได้ แต่หากเห็นว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เราอยู่ฝั่งตรงข้ามจะดีกว่า

ฉะรัฐบาลใช้โครงการดึงคะแนน

นายทศพล แก้วทิมา โฆษกพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาลว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการประชานิยมประเภทหนึ่ง ที่หวังเพียงคะแนนนิยมจากประชาชน ซึ่งทางฝั่ง รัฐบาลในตอนนี้ก็ผันมาเล่นการเมืองแน่นอนแล้ว ตนอยากจะเตือนว่า โครงการไทยนิยม ไม่ใช่โครงการที่จะแก้ปัญหาความยากจนของประชาชนได้อย่างยั่งยืน รัฐต้องยอมรับว่าไม่สามารถอุ้มประชาชนไว้ได้ตลอด ส่วนตัวไม่ขัดขวางสวัสดิการที่รัฐทำให้ประชาชน เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนได้รับประโยชน์ แต่รัฐต้องตอบให้ได้ว่าเงินงบประมาณที่ใช้ไปในโครงการนี้สามารถทำให้ประชาชนพ้นจากความยากจนได้อย่างไรบ้าง

ชาวบ้านมองนายกฯ เปิดเพจหาเสียง

วันเดียวกัน สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต รายงานผลสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่าง 1,165 คน ระหว่างวันที่ 17-20 ต.ค. กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เปิดแฟนเพจทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์และอินสตาแกรม พบว่าร้อยละ 42.75 ระบุว่า เป็นการหยั่งเสียง วัดความนิยม หวังผลทางการเมือง ร้อยละ 24.67 มีทั้งกระแสตอบรับที่ดีและคัดค้าน ร้อยละ 23.47 เป็นสิทธิของนายกฯ ทุกคนมีได้ในโลกยุคออนไลน์ อย่างไรก็ตามร้อยละ 51.60 เห็นประโยชน์แจ้งเรื่องราวร้องทุกข์ได้สะดวกรวดเร็ว ร้อยละ 30.55 มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น ความต้องการของประชาชน ร้อยละ 23.01 รับรู้ข่าวสาร เห็นการทำงานของนายกฯ โดยร้อยละ 42.92 ระบุเป็นการหาเสียง เพราะใกล้เข้าสู่ช่วงเลือกตั้ง ร้อยละ 40.17 ไม่แน่ใจ ขึ้นอยู่กับเจตนาและร้อยละ 16.91 ระบุไม่เป็นการหาเสียง นายกฯยังไม่ตัดสินใจชัดเจน เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรวางตัวอย่างไรช่วงที่จะเลือกตั้ง ร้อยละ 39.45 ให้เป็นกลาง ยุติธรรม ใช้อำนาจในทางถูกต้องเหมาะสม ร้อยละ 34.12 ตั้งใจทำงาน ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ จนกว่าจะหมดวาระ ร้อยละ 20.90 เดินหน้าตามโรดแม็ป ร้อยละ 18.76 ใจเย็น ควบคุมอารมณ์ ไม่ดุ ไม่หงุดหงิด ร้อยละ 15.57 สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อย

ขอผู้นำเก่งเศรษฐกิจ แก้ปัญหาถูกจุด

ด้านสำนักวิจัยซุปเปอร์โพลเผยผลการสำรวจ ความเห็นประชาชน 1,061 คน เมื่อวันที่ 15-20 ต.ค. “ลักษณะต้นแบบผู้นำประเทศที่ดี” ร้อยละ 25.8 ระบุทำให้เศรษฐกิจดี ร้อยละ 21.6 ทำงานเร็ว แก้ปัญหาตรงจุด ร้อยละ 21.3 ซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 20.2 เข้าถึงประชาชน ดูแลคนรากหญ้า ส่วนลักษณะที่นักการเมืองกำลังมุ่งนำเสนอตัวมากที่สุด ร้อยละ 21.3 แสดงตัวตนว่าซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 21 ทำบ้านเมืองสงบสุข ร้อยละ 20.7 ทำให้เศรษฐกิจดีและร้อยละ 20.1 เด็ดขาด ฉะฉาน มีความเป็นผู้นำ นอกจากนี้ยังพบว่าผลจากการสำรวจร้อยละ 99.2 ระบุว่ากรรมการยุทธศาสตร์ชาติที่แสดงตนอยู่กับพรรคการเมืองควรลาออก

“เสื้อแดง” ทวงสัญญาห้ามเบี้ยวกาบัตร

เมื่อเวลา 17.00 น. ที่บริเวณศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์สำโรง ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นายอนุรักษ์ เจตวนิชย์ หรือ “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” ผู้ประสานงานกลุ่มเส้นทางสีแดง นำแนวร่วมกลุ่มคนอยากเลือกตั้งร่วมทำกิจกรรมรณรงค์เลือกตั้ง โดยเต้นเพลงคุกกี้แดนซ์ ถือป้ายข้อความ เลือกตั้ง 24 ก.พ.62 เดินรณรงค์ไปในตลาดสำโรง แจกสติกเกอร์ให้ชาวบ้านเชิญชวนให้ตื่นตัวพร้อมออกไปเลือกตั้งและเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในและนอกเครื่องแบบหลายสิบนายมาสังเกตการณ์

นายอนุรักษ์กล่าวว่า กิจกรรมรณรงค์เลือกตั้ง ครั้งที่ 4 จัดร่วมกับเพื่อนกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามสัญญากำหนดให้เลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.62 ไม่อยากให้เลื่อนไปอีก เศรษฐกิจตกต่ำมาก อยากเห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้น จะได้รัฐบาลที่ประชาชนเลือกมาบริหารประเทศและพัฒนาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ยังเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นตามกำหนด แต่ยังเหลืออีกหลายเดือน

“สุรชัย” ยัน ลต.ท้องถิ่นหลังสนามใหญ่

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์การเรียนรู้โครงการตามแนวพระราชดำริฯ คลองภักดีรำไพ ต.จันทนิมิต อ.เมือง จ.จันทบุรี คณะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นำโดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. กล่าวถึงการพิจารณาร่างกฎหมายท้องถิ่น 6 ฉบับว่า สนช.รับหลักการวาระแรกไปแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการ 3 คณะ เพื่อพิจารณาให้เสร็จภายใน 60 วัน ในวันที่ 2 ธ.ค. เชื่อว่าจะทันคาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุม สนช.ได้สัปดาห์แรก หรือสัปดาห์ที่สองของเดือน ธ.ค. จากนั้นจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ดังนั้น การเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งทั่วไป

พท.บี้ชะลอ ก.ม.ไซเบอร์รอ รบ.เลือกตั้ง

น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ คณะทำงานด้านต่างประเทศและคณะทำงานด้านสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคงไซเบอร์ว่า ไม่เห็นด้วยที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่แต่งตั้งจากคณะรัฐประหารจะผ่านร่าง พ.ร.บ.ไซเบอร์ ที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และสิทธิส่วนบุคคลของประชาชน การที่รัฐบาล คสช.จะเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากปัจจุบันคนในประเทศไม่น้อยกว่า 40 ล้านคน ผูกพันอยู่บนโลกออนไลน์ ข้อมูลส่วนตัวถูกเก็บบันทึกอยู่บนโลกออนไลน์ ดังนั้น ผู้ร่างควรรับฟังความคิดเห็นของประชาชนให้หลากหลายมากกว่าที่ทำอยู่ ร่าง พ.ร.บ.นี้มีปัญหาหลายด้าน ต้องการควบคุมมากกว่าส่งเสริมเสรีภาพประชาชน การเร่งรัดให้ผ่านร่างกฎหมายนี้ก่อนเลือกตั้งมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองแอบแฝงหรือไม่ จึงเสนอให้ชะลอการพิจารณาไว้ก่อน เพราะสนช.ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน ให้รัฐบาลจากการเลือกตั้งเป็นผู้พิจารณา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนไทยและต่างประเทศ ลดความเสี่ยงที่จะถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายเห็นต่างทางการเมือง

“บิ๊กตู่” ปลื้มไทยติดอันดับ 38 ของโลก

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. พอใจผลการจัดอันดับความสามารถทางการแข่งขันระดับโลก 4.0 ประจำปี 2018 (Global Competitiveness Index 4.0) ของ WEF ที่ไทยดีขึ้นโดยอยู่ในอันดับที่ 38 จาก 140 ประเทศทั่วโลกมีคะแนน 67.5 จากปีที่แล้วอยู่ที่ 40 มีคะแนน 66.3 ทั้งจากเกณฑ์การประเมิน 12 ด้าน 98 ตัวชี้วัดไทยมีจุดแข็งด้านระบบการเงินที่อยู่ในอันดับ 14 ของโลก รวมทั้งขนาดของตลาดที่อยู่ในอันดับ 18 ของโลก สำหรับอันดับในอาเซียนของไทยอยู่ที่ 3 รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย ส่วนในกลุ่มอาเซียน+3 ไทยอยู่อันดับที่ 6 จาก 12 ประเทศ รองจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และจีน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0