จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊ก เผยแพร่คลิปและภาพ ผู้ประกอบการร้านอาหาร เทคอนกรีตและสร้างสิ่งปลุกสร้างรุกล้ำต้นน้ำคลองท่าดี ท้องที่หมู่ 9 ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช
ก่อนที่เวลาต่อมาจะมีการสั่งการให้ผู้ประกอบการทุกร้านรื้อสิ่งปลูกสร้างทุกชนิด และแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ประกอบการทุกรายตามความผิด พรบ.ในข้อหารุกล้ำคลองสาธารณะ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปีและปรับสูงสุด 20,000 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ทางเพจ ชมรมstrong – จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดนครศรีธรรมราช มีการโพสต์ภาพแฉอีกว่า พบมีการกระทำผิดในลักษณะเดียวกันกับขึ้นที่หมู่บ้านคีรีวง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช
โดยตรวจสอบภาพพบว่ามีการเทคอนกรีตลงในคลองของผู้ประกอบการร้านอาหารที่น้ำตกท่าแพ ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง
มีการสร้างเพิงพัก กางร่มโต๊ะ เต็นท์ รุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ขณะที่บางร้านมีการนำศาลาที่พักให้นักท่องเที่ยวนั่งพักผ่อน จึงเรียกร้องให้หน่วยงานเข้าตรวจสอบแก้ไขโดยด่วน
ซึ่งจากเรื่องที่เกิดขึ้น ทางนายวีรยุทธ ขนุนนิล นายอำเภอช้างกลาง พร้อมด้วยนายวิกรานต์ ทั่วด้าว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่อุทยาน ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง น้ำตกท่าแพ ทันที
และจากการตรวจสอบพบมีร้านอาหาร 3 ร้าน มีการเทพื้นคอนกรีตเพื่อวางโต๊ะ เก้าอี้ ร่มกาง อำนวยความสะดวกลูกค้า กระจายทั่วบริเวณริมลำน้ำสาธารณะ รวมทั้งมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะจริง จึงสั่งการผู้ประกอบการร้านอาหารทั้งหมดรื้อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำออกให้หมด
นายวิกรานต์ ทั่วด้าว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบแผนที่อุทยานพบว่าร้านอาหารทั้ง 3 ร้าน ที่สร้างสิ่งปลุกสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ น้ำตกท่าเพ ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานฯ
แต่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะจริง อย่างไรก็ตามการกระทำความผิดังกล่าวนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของทางกรมเจ้าท่าจังหวัดนครศรีธรรมราชที่จะดำเนินการเอาผิดผู้ประกอบการดังกล่าวต่อไป