ทันหุ้น-สู้โควิด :โบรกเกอร์ประเมินทิศทางตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาจากความคาดหวังในเชิงบวกของนักลงทุน รวมถึงเงินทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้ามาแต่ก็เตือนให้ให้ลงทุนอย่างระมัดระวัง เพราะยังมีปัจจัยลบจากผลกระทบของโควิด-19 ที่ยังรออยู่ โดยแนะนำหุ้นใน SET 50 ที่เป็นเป้าหมายการลงทุน
ของนักลงทุนต่างชาติ
หนังสือพิมพ์ทันหุ้นได้จัดสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อเฟ้นหุ้นวิถีใหม่ ชนะโควิด โดยมีนักวิเคราะห์ที่ร่วมสัมมนาประกอบด้วย นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการอาวุโส บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด, นายณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์ Senior Executive Vice President บล.ซี จีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด และนายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี(ประเทศไทย) จำกัด
นายประกิต มองว่าตลาดหุ้นในขณะนี้ประเมินทิศทางได้ยากว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งการที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นในรอบนี้เกิดจากความคาดหวังในเชิงบวกของนักลงทุน ทั้งในแง่ของการที่หลายประเทศคลายมาตรการล็อคดาวน์มากขึ้น รวมถึงมองบวกว่าประเทศในแถบเอเซียมีการควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีกว่าในสหรัฐและยุโรป และเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาก็เป็นปัจจัยกดดัน แต่นักลงทุนได้มองข้ามปัจจัยลบต่างๆ ทั้งในแง่ของสงครามการค้าสหรัฐกับจีน และค่าพี/อี เรโชของตลาดหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และช่วงที่ผ่านมานักลงทุนหันไปเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มแบงก์ที่มองว่า Laggards แต่ไม่ได้มองถึงผลกระทบจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ใน ก.ค.นี้ เพราะลูกค้าของธนาคารได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งในช่วงเดือน พ.ค. และ มิ.ย.อาจจะยังไม่เห็น NPL เพิ่มมากนัก เพราะธนาคารเข้ามาช่วยเหลือ
นายประกิต มองว่าการลงทุนในขณะนี้นักลงทุนจะต้องระมัดระวัง และควรเลือกลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโต โดยแนะนำหุ้นกลุ่มไอซีที ที่มองว่าได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทีจำกัด ในปีหน้าก็ยังมีการเติบโต แม้จะมีการลงทุน 5G ก็ตาม
ด้านนายณัฐวัฒน์ ประเมินว่าเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในเดือน มิ.ย.นี้ต่อไป หากพิจารณาจากปัจจัยทางเทคนิคเส้น 200 วันพบว่าดัชนีจะมีแนวต้านอยู่ที่ 1,470 จุด มองว่าการลงทุนรอบนี้หากเป็นนักลงทุนที่เล่นเพื่อหวังเงินปันผลคิดว่าจะขายไม่ทัน แนะนำให้สัปดาห์หน้าขายหุ้นออกไปก่อน แต่หากเป็นนักลงทุนที่เก็งกำไร และตัดสินใจได้เร็ว ก็สามารถถือต่อไปได้ โดยสัญญาณการปรับตัวลงของตลาด ให้พิจารณาจากการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติหากต่างชาติขายเป็นสัญญาณที่ไม่ดี รวมถึงหุ้นขนาดเล็กหากไม่มีการปรับตัวขึ้นมาซิลลิ่งระหว่างวันก็เป็นสัญญาณที่ไม่ดี
นายณัฐวัฒน์ กล่าวอีกว่า ตลาดหุ้นขณะนี้นักลงทุนมองข้ามปัจจัยลบในปีนี้ และไปคาดหวังในปีหน้าแทน รวมถึงความคาดหวังด้านบวกต่อการ
อัดฉีดเงินต่อตัวเลขเศรษฐกิจ และวัคซีนที่จะแก้โควิด ซึ่งขณะนี้เงินอยู่เต็มตลาด จึงไปลงทุนในหุ้น ทำให้ค่าพี/อี Forward ของตลาดอยู่ที่
19 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่สูงมาก จากมาตรฐานตลาดหุ้นไทยที่มีการซื้อขายจะอยู่ที่ 14-15 เท่า ซึ่งหากโควิด-19 มีการระบาดรอบ 2 และเศรษฐกิจไม่ได้ฟื้นตัวคาดหวัง ก็จะเป็นข่าวร้ายที่ซ่อนอยู่ ซึ่งนักลงทุนต้องระมัดระวัง
นายมงคล กล่าวว่า นักลงทุนทีถือหุ้นอยู่ และซื้อหุ้นทันในรอบนี้ แนะนำให้รอขายทำกำไรหากมีสัญญาณที่ไม่ดี แต่สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีหุ้น และตกรถในรอบนี้ ควรจะลงทุนอย่างมีสติและระมัดระวัง และให้คิดเสมอว่านักลงทุนต่างชาติมีโอกาสขายได้ ดังนั้นนักลงทุนกลุ่มนี้หากเข้ามาลงทุนแนะนำให้เทรดดิ้ง ขึ้นมาก็ขายทำกำไร
ในภาวะตลาดหุ้นขณะนี้หุ้นที่แนะนำจะมี 3 กลุ่มได้แก่ กลุ่มแรกใน SET50 ซึ่งเป็นหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุน ประกอบด้วย หุ้น PTT,AOT, AIS และ CPALL กลุ่มที่สองได้แก่กลุ่มคอมมูนิตี้ ได้แก่หุ้น PTTEP, IVL, PTTGC, TOP และ SCCและกลุ่มสุดท้าย ซึ่งเป็นหุ้นแถวสองซื้อไม่ทันรอบแรก หากลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ที่สำคัญจะต้องมี cut loss เตรียมไว้ ประกอบด้วย CBG, SC, MINT, BAFS และ BH
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SAAPP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNATELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_newsTwitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
