โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

คุยกับ CENTEL เรื่อง “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” จุดชี้ขาดอนาคตการท่องเที่ยวไทย

Wealthy Thai

อัพเดต 08 ส.ค. 2566 เวลา 00.43 น. • เผยแพร่ 24 มิ.ย. 2564 เวลา 09.01 น. • ศุภมาศ ศรีขำ

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อในไทยยังพุ่งสูงต่อเนื่อง แต่แผนการเปิดประเทศภายใน 120 วันยังคงดำเนินการต่อไป ล่าสุดคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต หรือ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ในวันที่ 1 ก.ค. 64 และเปิดพื้นที่บางส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า
โครงการดังกล่าวจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 ครบโดสแล้ว เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตโดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งรัฐบาลตั้งความหวังว่าจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศให้กลับมาฟื้นตัว
แน่นอนว่าเปิดรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในจังหวัด ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงโรงแรมขนาดใหญ่กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง วันนี้ Wealthy Thai ได้นำความเห็นของ คุณรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTELหนึ่งในเครือโรงแรมขนาดใหญ่ของไทย ที่มีต่อโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มานำเสนอ
โดยคุณรณชิต มองว่า การนำร่องเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตก่อนเป็นแนวทางที่ดี เพราะภูมิประเทศที่เป็นเกาะน่าจะช่วยให้การควบคุมดูแลเป็นได้ง่ายมากขึ้น หากเป็นไปในทิศทางที่ดี ช่วงครึ่งปีหลังการท่องเที่ยวน่าจะค่อยๆ กลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะไตรมาส 4/64 แต่อาจไม่เท่ากับปี 2562 ที่ยังไม่เกิดการระบาดของ Covid-19 อย่างไรก็ตาม หลังวันที่ 1 ก.ค. นี้ จะสามารถวัดได้ว่าโครงการมีแนวโน้มเป็นอย่างไร สามารถขยายไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น สมุย,กระบี่,พังงา และเกาะเต่า จนกลายเป็นอันดามันแซนด์บ็อกซ์ได้หรือไม่
“ผมมองว่าการตั้งเป้าหมายเพื่อทดลองเปิด เพื่อทดสอบระบบการควบคุมสาธารณะสุขของเราว่าทำได้ดีแค่ไหน เนื่องจากหลายประเทศโดยเฉพาะอเมริกาและยุโรป มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนทำให้เริ่มมีการเดินทาง ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเขาให้เติบโต แต่ก็ต้องแลกมากับจำนวนผู้ติดเชื้อที่อาจเพิ่มขึ้น ซึ่งก็มีการควบคุมเป็นพื้นที่ไป”

คาดผลงานปี 64 ใกล้เคียงปีก่อน

ในส่วนของ CENTEL มีความพร้อมที่จะกลับมาเปิดให้บริการโรงแรมในจังหวัดภูเก็ตทั้ง 3 แห่ง ด้วยมาตรฐานด้านความสะอาดและสุขอนามัยในระดับสูงสุด ปัจจุบันเริ่มมีนักท่องเที่ยว Bookingเข้ามาบางส่วน คิดเป็นจำนวนห้องราว 300-400 ห้อง นอกจากนี้ CENTELยังมีแผนเปิดโรงแรมใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย และโรงแรมเซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ ภายในช่วงไตรมาส 4/64ช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรกซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของ Covid-19 ระลอก 3 ทำให้อัตราการการเข้าพักในโรงแรม (Occupancy rate) ปรับตัวลดลง
เบื้องต้นบริษัทประเมินภาพรวมผลประกอบการปี 2564 อาจใกล้เคียงหรือดีกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 13,249.45ล้านบาท และขาดทุน 2,775.11ล้านบาท เล็กน้อย ขณะที่แผนการลงทุนในปี 65 และ 66 ที่วางงบไว้ 3,500 ล้านบาท และ 4,000 ล้านบาท ตามลำดับ บริษัทยังไม่มีการปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0