โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

โบกมือลา"ออฟฟิศซินโดรม" ด้วย 4 กิจกรรมง่ายๆ ทำได้ในทุกออฟฟิศ

ประชาชาติธุรกิจ

เผยแพร่ 22 ม.ค. 2562 เวลา 05.36 น.
1-123

เชื่อว่าการนั่งทำงานติดโต๊ะคอมพิวเตอร์ทุกวันตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นคงเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ต้องนั่งจ้องหน้าจอคอมฯ วันละหลายชั่วโมง นอกจากความเครียดและความเหนื่อยล้าที่สะสมเพิ่มขึ้นในคนวัยทำงานยุคปัจจุบันแล้ว ภัยเงียบที่ตามมาก็คือ “ออฟฟิศซินโดรม” หรือ อาการปวดเมื่อยจากการนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานานที่มักเกิดขึ้นในหนุ่มสาวออฟฟิศ

โรคนี้อาจฟังดูไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ ด้วยหลายคนอาจจะคุ้นชินกับชื่อโรคนี้ และไม่คิดว่าเป็นโรคร้ายแรง ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดอย่างยิ่ง เพราะถ้าหากไม่รีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำงานอาจทำให้โรคนั้นทวีความรุนแรงขึ้น โดยอาจเริ่มมีอาการปวดตา หน้ามืด ปวดศีรษะเรื้อรังหรือไมเกรน ไปจนถึงโรคที่ร้ายแรงกว่านั้น เช่น หมอนรองกระดูกเสื่อมหรือหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท เป็นต้น ยิ่งถ้าโรคเหล่านี้มาเยือน การรักษาก็จะยากขึ้นตามไปด้วย

เมื่อรู้ถึงภัยเงียบที่อันตรายจากโรคนี้แล้ว หนุ่มสาวออฟฟิศที่รู้ตัวว่าพฤติกรรมการนั่งโต๊ะทำงานเป็นเวลานานของตัวเองนั้น เป็นพฤติกรรมที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็ต้องหาวิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองผ่านการทำกิจกรรมระหว่างวันในที่ทำงาน หรือหาโอกาสไปผ่อนคลายและฟื้นฟูสุขภาพเท่าที่สามารถทำได้ ซึ่งในบทความนี้ได้รวบรวม 4 กิจกรรมง่ายๆ ที่ทำได้ในที่ทำงาน เพื่อรักษาสุขภาพดีอยู่กับเราไปนานๆ

  • เมื่อยนักต้องพักหน่อย

การนั่งทำงานในท่าเดิมนานๆ มีส่วนทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าสะสม จนอาจลุกลามเป็นอาการปวดเรื้อรัง เป็นหนึ่งในสาเหตุของออฟฟิศซินโดรม สิ่งที่คนนั่งโต๊ะทำงานทั้งวันควรทำก็คือ การพักสายตา โดยทุก 1-2 ชั่วโมง ควรละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลา 5-10 นาที หรือระหว่างทำงานให้หลับตาหรือกระพริบตาถี่ๆ เพื่อป้องกันภาวะตาแห้ง หมั่นยืดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ โดยการบริหารกล้ามเนื้อคอ หัวไหล่ ลุกขึ้นแกว่งแขนเพื่อยืดเส้นยืดสาย นอกจากนี้การจัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ สามารถเอื้อมหยิบของได้สะดวก รวมทั้งการปรับหน้าจอคอมให้อยู่ในระดับสายตาก็สามารถช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากการทำงานได้

  • ชวนกันเดิน เพลินๆ แถมได้งาน

นอกจากการปรับเปลี่ยนอิริยาบถในการทำงานอย่างสม่ำเสมอโดยการขยับร่างกายเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อเกร็งเป็นเวลานาน การลุกขึ้นเดินไปทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยตัวเองบ้าง เช่น เดินไปกดน้ำดื่ม ถ่ายเอกสาร หรือเดินไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานแทนการใช้โทรศัพท์ ก็จะช่วยในการยืดกล้ามเนื้อและผ่อนคลายความตึงเครียดได้ รวมทั้งการเลือกใช้บันไดแทนการใช้ลิฟต์อย่างน้อยวันละ 1 ชั้น ก็เป็นอีกวิธีในการเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อในระหว่างวันทำงาน และยังได้ผ่อนคลายสมอง ทำให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์ในการทำงานอีกด้วย

  • วันหยุดอย่านอนอุดอู้อยู่บ้าน ออกไปทำสิ่งเล็กๆ เพื่อสังคมกันดีกว่า

สำหรับคนที่ได้ทำงานอยู่ในองค์กรที่มีกิจกรรมให้พนักงานเข้าร่วมอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกิจกรรมเพื่อสังคม อย่างเช่น กิจกรรมปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ในพื้นที่ห่างไกล ด้วยการไปบริจาคสื่อการเรียนการสอน และลงพื้นที่ไปส่งต่อความสุขให้กับน้องๆ ด้วยตัวเอง นอกจากจะเป็นการได้ไปเปิดหูเปิดตา ลงแรงทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำ ยังเป็นการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคม และได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อีกด้วย ถ้าออฟฟิศใครที่มีการจัดกิจกรรมเหล่านี้ แนะนำให้ลองสละเวลาวันหยุดไปเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อตัวเองและสังคม แล้วจะพบว่าการทำกิจกรรมในวันหยุดร่วมกับที่ทำงานไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออย่างที่คิด

  • ออกแรงกันให้สุดฤทธิ์ในกิจกรรมกีฬาสีประจำปี

เชื่อว่าแทบทุกออฟฟิศจะต้องมีการจัดงานกีฬาสีประจำปีเพื่อสานสัมพันธ์คนในองค์กร อีกทั้งส่งเสริมให้ผู้บริหารและพนักงานได้ใช้โอกาสนี้ในการยืดเส้นยืดสาย ออกกำลังกายเพื่อความสนุกสนานไปด้วยกัน ถือเป็นโอกาสอันดีที่หนุ่มสาวออฟฟิศบางคนที่ฟิตร่างกายมาทั้งปี จะได้โชว์ความแข็งแรง และทักษะทางด้านกีฬาในกิจกรรมกีฬาสีประจำปี หรือใครที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ออกกำลังกาย ก็จะได้ใช้โอกาสนี้ในการยืดเส้นยืดสาย ผ่อนคลายความเครียดกับเพื่อนร่วมงาน นอกจากการเล่นกีฬาแล้ว ยังมีการประกวดกองเชียร์ เชียร์ลีดเดอร์ ขบวนพาเหรด เป็นเวทีให้พนักงานได้ร่วมกันใช้ความคิดสร้างสรรค์ และย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งด้วย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0