จบลงไปอย่างสวยงามและอลังการมากจริงๆ สำหรับการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่วันนี้ (17 ธ.ค.) ได้จัดการประกวดรอบตัดสินขึ้นที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี และมาถึงการประกาศผลรางวัลใหญ่ที่หลายคนรอคอย
ทำเอาแฟนนางงามและกองเชียร์ของสาวงามแต่ละประเทศส่งเสียงดังลั่นฮอล์ เมื่อ "สตีฟ ฮาร์วี่ย์" พิธีกรผู้ดำเนินรายการ ได้ประกาศชื่อของสาวงามจากประเทสฟิลิปปินส์ "แคทรีโอน่า เกรย์" Catriona Gray ซึ่งได้รับตำแหน่งเป็นมิสยูนิเวิร์สประจำปี 2018 ตามติดมาด้วยสาวงามจากเซาท์แอฟริกาที่คว้ารองชนะเลิศอันดับ 1 และตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ สาวงามจากเวเนซุเอลา
ส่องชุดราตรี “น้องนิ้ง” รอบ 10คนสุดท้าย บนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2018
ดราม่าแล้ว! ชาวเน็ตเห็นต่างวิจารณ์ ชุด Asava เหมือนลิเก?!
ขณะที่สาวงามของประเทศไทย " นิ้ง โศภิดา" สามารถเอาชนะใจกรรมการเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ได้เดินอวดโแมในชุดว่ายน้ำและชุดราตรีสีแดงอย่างสง่างาม แม้จะไม่ได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส แต่ก็ชนะใจแฟนๆนางงามอย่างมาก
แต่ดูเหมือนว่าพอการประกวดจบลง กลับมาดราม่าเข้ามาแทรกทันที โดยชื่อของ "หมู อาซาว่า" ดีไซน์เนอร์ชื่อดัง ถูกพูดถึงอีกครั้งในโลกออนไลน์ หลังเป็นผู้ออกแบบชุดราตรีแดงให้กับ "นิ้ง โศภิดา" เดินอวดโฉมรอบ 10 คนสุดท้าย ซึ่งมีกระแสโซเชียลจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์ถึงแบบชุดว่า ไม่สวย ทำปักเลื่อมสไตล์เดิมๆ ชุดฆ่านางงาม ทำให้นิ้งชวดเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย บางคนก็วิจารณ์ว่าชุดคล้ายลิเก และลงความเห็นว่าหมูควรหยุดพักทำชุดให้นางงามก่อน
แม้ปีที่ผ่าน เมื่อครั้งมารีญาไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ชุดก็ไม่ส่งนางงามเท่าที่ควร จนทำให้มีหลายกระแสดราม่า เจ้าตัวเคยประกาศว่าจะไม่กลับมาทำชุดให้เวทีมิสยูนิเวิร์สอีกแล้ว แต่ปีนี้ก็ได้ออกแบบชุดให้ "นิ้ง โศภิดา" อีกครั้ง
และภายหลังจากที่การประกวดเสร็จสิ้นเฟซบุ๊กของแบรนด์ Asava ก็ได้นำรูปชุดราตรีที่นิ้งสวมใส่ มาลงโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก พร้อมเผยความละเอียดที่ต้องใช้มือปักคริสตัลในตัวชุด แต่กลับมีหลายคนเข้ามาบอกว่า ชุดนี้ไม่ส่งให้นางงามดูเจิดจรัสบนเวที ชุดราคาแพงก็จริง แต่กลับทำให้ออกมาดูไม่แพง คุณหมูควรหยุดทำชุดให้นางงามตั้งแต่ปีน้ำตาล ชลิตาแล้ว บางคนมีการเทียบชุดกับชุดลิเก ชุดหมอลำ หรือการตัดต่อภาพของนิ้งในชุดสีแดง เข้ากับเวทีหมอลำ และยืนยันว่าบางคร้งก็ถึงคราวแล้วที่คุณหมูจะต้องพักจริงแล้ว
ล่าสุดคุณพลพัฒน์ อัศวประภาหรือ “หมู อาซาว่า” ดีไซเนอร์ชื่อดัง ได้ให้สัมภาษณ์แบบเปิดใจผ่านรายการโหนกระแส ทางช่อง 28 ถึงเรื่องราวดราม่าที่เกิดขึ้นว่า เราทำมาปีนี้เป็นปีที่ 4 ก็ชินแล้วคุ้นชินกับกระแสอยู่แล้ว ด้วยหน้าที่การงาน ด้วยอาชีพ เราก็ทำหน้าที่ในที่แจ้ง เป็นเรื่องปกติโดนวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว จริงๆ ชุดนี้มีการพูดคุยกันเยอะว่าจะทำชุดลักษณะไหน วางบุคลิก คาแรคเตอร์นิ้งอย่างไรในการประกวด ไม่ใช่แค่ชุดราตรีเท่านั้น ในการเก็บตัวต่างๆ มีการวางกลยุทธ์ต่างๆ ในการนำเสนอตัวของนิ้ง
สำหรับชุดราตรีในรอบไฟนอล จริงๆ ทางกองประกวดไม่ได้วางโจทย์อะไรให้พี่มากนัก เนื่องจากทำงานมาหลายปีแล้วเขาให้ทำงานอิสระ ชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจ โครงเสื้อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในหลวง ร.9 ในช่วง 60-70 เป็นยุคที่ประเทศไทยกำลังเปิดประเทศสู่ตะวันตก เป็นช่วงที่สมเด็จพระนางเจ้าฯทรงให้ดีไซเนอร์ระดับโลก เข้ามาทำชุดให้ แฝงเอกลักษณ์ความเป็นตะวันออก
ช่วงนั้นเป็นช่วงรุ่งเรืองของแฟชั่นไทย เป็นยุคที่คนตะวันตกได้เห็นความงามแบบสากล แบบแฟชั่นชั้นสูง แต่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายตะวันออก เป็นช่วงที่ประเทศไทยได้รับชื่อเสียงและคำร่ำลือมากว่าประเทศไทยสามารถผนวกเอาความงามแฟชั่นในแบบตะวันตกมาผสมกับตะวันออกให้มีเอกลักษณ์ และมีความเฉพาะตัว
ส่วนกรณีมีกระแสนำไปเปรียบเทียบกับชุดนางรำ จะบอกว่า สีแดงเป็นสีที่น้องนิ้งเลือกเอง เพราะเป็นสีนำโชคของน้อง คิดว่าเรื่องรสนิยมเป็นสิ่งที่คนมองมากกว่า 100 คนก็ 100 รสนิยม ใครวิจารณ์ยังไง วิจารณ์มากน้อยแค่ไหน จะมีคุณธรรม จริยธรรมในการวิจารณ์มากน้อยแค่ไหน พี่ทำงานมานานแล้ว การน้อมรับคำติชมเป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะคำติชมที่มีวิจารณญาณ จริยธรรม และคุณธรรมในการวิจารณ์
ใครอยากเปรียบเทียบยังไงก็เปรียบเทียบได้ เพราะร้อยคนก็ร้อยความคิด เราคงไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งหมดที่เราทำกันมาเป็นขั้นตอนการทำงานเฟ้นให้คุณนิ้งได้เข้าประกวดอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ตัวคุณนิ้งก็ทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติ
“จริงๆ บอกว่าไม่ทำทุกปี แต่ปีหน้าคงไม่ทำแล้วจริงๆ ปีนี้ตกปากรับคำทำเพราะผู้ใหญ่บอกว่ามีการจัดที่เมืองไทย เราเป็นเจ้าภาพก็อยากให้ทำอีกสักปี แต่พอพูดไปคนก็จะบอกว่าอ้าวไหนบอกว่าไม่ทำแล้วกลับมาทำอีก แต่คิดว่าคงไม่ทำแล้ว”
ขอบคุณรายการโหนกระแส ช่อง 28
ขอบคุณเฟซบุ๊ก: Asava ,#MissUniverse
