โดนัท เล็งฝากไข่ เบรกใช้ยารักษาโรคเอสแอลอี หวั่นกระทบตั้งครรภ์

โดนัท เล็งฝากไข่ – นักแสดงสาวสวยฝีมือดี โดนัท มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล แต่งตัวในชุดไทยสวยงามไปร่วมชมมหาวิปโยคแห่งแผ่นดิน “ศรีอโยธยา ภาค๒” สองตอนอวสาน ที่ โรงภาพยนตร์ HOUSE SAMYAN พร้อมเปิดใจถึงชีวิตหลังแต่งงานกับนักธุรกิจหนุ่ม ตาม จำนงค์อาษา และแพลนเรื่องการมีทายาท

ชีวิตหลังแต่งงานเป็นอย่างไรบ้าง
“ไม่รู้ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงยังไง พอตื่นมาวันแรกมันก็งงๆ ว่าจะต้องมีอะไรพิเศษหรือเปล่า แต่ว่าเราสองคนเป็นเพื่อนกันมานานมาก สิ่งที่สามีอยากได้จากเรา เขาก็ไม่คาดหวัง (หัวเราะ) เรารู้จักมานานมาก รู้สึกว่าถ้าเราเป็นตัวเองตั้งแต่ต้น เราค่อยๆ ปรับมันไปเรื่อยๆ ดีกว่า ที่จะมาเปลี่ยนเป็นจริงเป็นจัง อะไรที่ไม่เคยทำ ก็ทำบ้าง อย่างเช่น แต่ก่อนเราทะเลาะกัน จะเดินหนี แต่เดี๋ยวนี้ห้ามเดินหนี ต้องคุยกัน ต้องคอยปรับ ส่วนเรื่องทำอาหาร เขาดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว เราก็ทำเหมือนเดิมให้เขาดูแลตัวเอง”
“คือคุณตาม เขามีอาหารที่เขาทานทุกวัน เขาเป็นคนใส่ใจสุขภาพ เข้ายิม เขาก็จะมีตารางการทานอาหารของเขา เราก็ให้เขาทำตามสบายของเขา เราไม่ได้เปลี่ยนอะไรเขา อย่างวันนี้เขาก็ถามว่าจะกินอะไร เสร็จกี่โมง ไม่ได้มีอะไรพิเศษออกไป”

เรามีอะไรพิเศษ ทำให้สามีไหม
“ไม่มี มีแค่เวลามีอะไรเราต้องคุยกัน ให้จบทีเดียว สมมุติทะเลาะกันก็ต้องคุยและปรับทีเดียวเลย โดนัทว่าสิ่งที่เปลี่ยนคือความอดทนที่ต้องมีให้กันมากขึ้น”

ใจเย็นมากขึ้นไหม
“ใจเย็นต้องมีแน่นอน เราเป็นคนบ้างาน เขาก็จะรู้ ต้องจัดการเวลาให้ดี ซึ่งก็ยังจัดการไม่ได้เหมือนเดิม ซึ่งเขาก็รู้ เขาดูเข้าใจ นอกจากเราจะทำงานของเรา แล้วมีเขาอยู่ด้วย งานของเขาเราก็ต้องรับรู้มากขึ้น และช่วยกัน”

เขาไม่เบรกงานของเราเลยใช่ไหม
“จริงๆ เขาห้ามไม่ได้ (หัวเราะ) เขาก็พูดบ้าง แต่เราก็คุยกันด้วยเหตุผล ว่าเราโตแล้ว เรารู้ว่าเราทำอะไรได้ไม่ได้ เขาค่อนข้างเชื่อใจ แต่ว่าจะรับงานอะไรก็ต้องคุยกัน อย่างตอนนี้ก็กลายเป็นว่าเขาก็มีงานในวงการติดต่อเข้ามา เราก็ต้องช่วยดูบ้าง”

เป็นงานแบบไหน
“เป็นงานโฆษณา ซึ่งมันตลกดี มีทั้งติดต่อมาคู่ แล้วก็มีเขาคนเดียวด้วย โดชอบแซวเขาว่าเหมือนเน็ตไอดอล”

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

ผู้จัดการเขาก็ช่วยเลือกงาน
“ก็คือโดนัทนี่แหละ จริงๆ งานที่เขาทำไม่ได้เกี่ยวกับงานในวงการเลย มันค่อนข้างยากสำหรับเขาเหมือนกัน ถามว่ามีงานแบบที่ติดต่อเข้ามาแล้วเราไม่รับเลยไหม ก็มีบ้าง ตามเขาเป็นผู้บริหาร เขามีภาพความสุขุมของเขาอยู่บ้าง ถึงไลฟ์สไตล์เขาจะดูขี้เล่น ถอดเสื้อบ่อยนิดหนึ่ง (หัวเราะ) เขาไม่ได้เป็นแบบนั้น”

มีงานเซ็กซี่ติดต่อมาบ้างหรือเปล่า
“ไม่มีจริงๆ ด้วยลักษณะงานของคุณตามเขาทำงานในลักษณะนั้นไม่ได้อยู่แล้ว ถามว่ารับไว้เยอะไหม มีคุยไว้บ้าง สำหรับงานที่ต้องทำด้วยกันก็มี เราก็ตลก เมื่อก่อนจะเป็นเราทำคนเดียว แต่ตอนนี้เริ่มโดนัท บวกตาม สัมพักก็มีแบบโดนัทติดต่องานค่ะ แต่ไม่ได้ติดต่อโดนัทก็มีแบบนี้บ้าง”
เขาดูแฮปปี้ไหม กับการได้ทำงานในวงการ “เขาไม่ถนัดมากกว่า อย่างวันนี้พอรู้ว่ามีนักข่าว แล้วเป็นเวลางาน เขาคงเขินเลยไม่ได้มา เขาก็ไม่ค่อยชิน ทำตัวไม่ถูก”

เรื่องลูกว่ายังไงบ้าง
“มี 2 ออปชั่นเสมอ หนึ่งคือไม่มีเลย กับสอง คือ ฝากไข่ เราก็จะคุยกัน แต่ที่คิดว่าไม่มีเลย คือ ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงเขายังไง ตอนนี้ดูยากไปหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นสังคม หรือเรื่องของสิ่งแวดล้อม เรามีหลานก็เป็นห่วงหลานมาก แต่ก็เริ่มมีการคุยกันเรื่องฝากไข่ แต่ยังไม่ได้ฝาก เพราะโดนัทมีปัญหาสุขภาพโรคเอสแอลอี และปีนี้รับละคร 2 เรื่อง ตอนนี้ก็เลิกใช้ยาบางตัว ซึ่งจะมีผลถ้าเกิดท้อง ก็ดูๆ อยู่”

ต้องเลิกยาทั้งหมด ถึงจะเริ่มเปิดอู่
“โดนัทเป็นเอสแอลอี แล้วไม่ใช้ยาสเตียรอยด์ เลยต้องใช้ยาหลายกลุ่มเพื่อกดภูมิ บางตัวมีผล ทำให้ตั้งครรภ์ไม่ได้ ก็ต้องปรับ แต่ก็ค่อยๆ ปรับมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนว่าตัวยาที่กินมีผลทำให้มีลูกยากด้วยไหม ไม่น่านะคะ โดนัทว่าน่าจะต้องมีเวลา การมีลูกไม่ใช่แบบปุ๊บปั๊บแล้วมีได้เลย ต้องมีหลายๆ อย่างรวมกัน”

อีกใจนึงคิดว่าถ้าไม่มีแล้วเราจะอยู่กันสองคนใช่ไหม
“ปล่อยไปตามธรรมชาติดีกว่า ก็มีคิดถึงบ้าง แต่เรียกว่าไม่รีบดีกว่า ให้เป็นไปตามธรรมชาติ ถามว่าจริงๆ อยากมีไหม เลี้ยงหลานก็มีความสุขมาก เราติดหลานมาก รักเหมือนลูกเลย แต่ว่าพอต้องมีของตัวเองก็เป็นห่วง แต่ว่าปีนี้หลายอย่างจริงๆ”

ตามเขาว่ายังไงบ้าง
“ก็ต้องคุยกัน ตอนนี้ยังแบบเดี๋ยวถึงเวลาที่เหมาะสมเราคงตัดสินใจได้”

ต้องพยายามลดความเครียด บทดราม่าหนักๆ คือไม่เอาเลยหรือเปล่า
“หนีดราม่าไม่ได้ (หัวเราะ) จริงๆ ตอนนี้สิ่งยาก คือ เรื่องสิ่งแวดล้อม อย่างโรคที่โดนัทเป็น แสงแดดหรือฝุ่นก็จะเป็นสิ่งกระตุ้นอาการที่เราเป็นอยู่เหมือนกัน”

ตอนนี้สถานการณ์ฝุ่นในกรุงเทพฯกลับมาอีกรอบ
“ต้องทำใจ (หัวเราะ) อาจจะยังไม่เห็นผลเดี๋ยวนี้ แต่ว่าในระยะยาว ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ ก็คงมีผลกระทบ”

ต้องดูแลตัวเองยังไงบ้าง
“ตอนนี้เราพยายามกลับไปลดทุกอย่าง ที่จะทำให้เกิดมลภาวะมากกว่า ถ้าเราจะโฟกัสแค่ปลายเหตุ อาจจะทำได้แป๊บเดียว อย่างเรื่องการรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติกเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว แต่ในเรื่องของการใช้รถ ควรจะต้องไปไหนไปด้วยกัน หรือใช้รถสาธารณะ ต้นไม้ก็เป็นสิ่งสำคัญ กลับไปที่ต้นตอของปัญหา ตอนนี้ไม่มีใครช่วยเราได้ เราก็ต้องช่วยตัวเองก่อนค่ะ”