จากคำสั่งสำนักงานด้านอุตสาหกรรมและความปลอดภัย (BIS) กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา ทำให้พาร์ทเนอร์หลายๆ รายในสหรัฐ ต้องระงับความสัมพันธ์กับ Huawei ไปโดยปริยาย ซึ่งเรื่องที่น่าจับตามองก็คงเป็นแบรนด์ใหญ่คู่ค้าที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของ Huawei โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น Google, Intel, Qualcomm หรือ Broadcom
โดย Google เป็นผู้ให้บริการระบบปฏิบัติการ Android รวมทั้งบริการต่างๆ อย่าง Google Play หรือ Google Play Service ทำให้ผู้ที่ใช้งานสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต Huawei ต่างก็กังวลกันในเรื่องของการใช้งาน ซึ่งทั้งทาง Google และ Huawei ต่างก็ออกมายืนยันแล้วว่า สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นที่ออกสู่ตลาดแล้ว จะยังคงสามารถใช้บริการต่างๆ จาก Google ได้อยู่ รวมทั้งทาง Huawei จะยังมีการอัพเดทความปลอดภัยของซอฟต์แวร์และมีบริการหลังการขายอยู่เช่นเดิม
แต่นี่เป็นเรื่องของปัจจุบัน แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไรบ้าง หาก Huawei ยังคงโดนแบนต่อ?
Qualcomm และ Broadcom พาร์ทเนอร์ฮาร์ดแวร์มือถือ
Qualcomm เป็นแบรนด์ชิปเซ็ตเจ้าใหญ่ของโลก การหยุดเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ผลิตมือถือน่าจะส่งผลกระทบพอสมควร แต่อาจจะไม่ได้ส่งผลมากกับทาง Huawei เนื่องจากไลน์ผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน ทาง Huawei ได้ใช้ชิปเซ็ต low-end ของทาง Qualcomm กับสมาร์ทโฟนระดับมิดเรนจ์อยู่บ้าง ซึ่งในสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ได้ใช้ชิปเซ็ต Kirin ซึ่งเป็นของทางค่ายเอง และในปัจจุบัน Kirin ก็มีประสิทธิภาพสูงไม่แพ้ชิปเซ็ต Snapdragon ตัวท็อปเลย
นอกจากนี้ Huawei ยังได้มีการผลิตโมเดม 5G ที่ชื่อว่า Balong สำหรับจำหน่ายให้กับทาง Apple อีกด้วย ในเรื่องของฮาร์ดแวร์มือถือ จึงไม่ได้เรื่องที่น่าเป็นหัวสำหรับทาง Huawei
Intel พาร์ทเนอร์ฮาร์ดแวร์แล็ปท็อป
สิ่งที่น่าเป็นห่วงต่อมา ก็คือการระงับการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Intel แบรนด์เจ้าใหญ่ของทางด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งทาง Huawei น่าจะไม่สันทัดกับฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ซักเท่าไหร่ การจะตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้ชิปเซ็ต PC ของทาง AMD ซึ่งเป็นแบรนด์คู่แข่งของ Intel เลย ก็ดูจะเป็นการเปลี่ยนฐานลูกค้าที่ขึ้นชอบทางฝั่ง Intel มากกว่าไปเลย ตรงนี้จึงทำให้ผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปของทาง Huawei คงจะต้องหยุดชั่วคราวเพื่อดูท่าทีไปก่อน
Google เจ้าของระบบปฏิบัติการ Android
ถึงแม้ว่าสมาร์ทโฟน Huawei รุ่นปัจจุบันในตลาด จะยังคงใช้งานระบบปฏิบัติการ Android และบริการ Google Play ได้อยู่ แต่จะไม่สามารถอัพเดทระบบปฏิบัติการได้แล้ว กล่าวคือ Android Q จะไม่ถูกพัฒนาลงสมาร์ทโฟน Huawei อีกแล้ว รวมทั้งสมาร์ทโฟน Android O ที่รอการอัพเดทเป็น Android P ก็จะไม่สามารถทำได้แล้วเช่นกัน
ถึงจะไม่สามารถใช้ระบบปฏิบัติการ Android ได้แล้ว ทาง Google ก็ยังอนุญาตให้ทาง Huawei นำ Android Open Source Project (AOSP) ไปพัฒนาเป็นระบบปฏิบัติการของตัวเองได้อยู่ดี แต่ก็เหมือนว่าด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ Huawei ก็จะสู้ทาง Google ไม่ได้ เมื่อดูจากระบบปฏิบัติการ EMUI ของทางแบรนด์ที่ด้อยกว่า Android โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนอุปกรณ์ wearable อย่าง Huawei Watch GT เมื่อเทียบกับ Wear OS ของทาง Google
อย่างไรก็ตาม หาก Huawei ต้องการที่จะรักษาส่วนแบ่งการตลาดในประเทศอื่นๆ นอกประเทศจีน ทางค่ายจำเป็นต้องมีระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง รวมทั้งแอปฯ ที่รองรับระบบปฏิบัติการ ที่มากเพียงพอต่อการใช้งาน เพื่อจะให้อยู่รอดต่อไปได้ในตลาดอื่นๆ นอกจากในประเทศ ซึ่งเมื่อดูจากประกาศของทาง Huawei ที่จะยังคงมีการอัพเดทซอฟต์แวร์และบริการหลังการขายของมือถือ Huawei ในรุ่นปัจจุบัน ทางแบรนด์อาจจะมีแผนสำรองในการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการนี้อยู่แล้วก็ได้
ก่อนหน้านี้ ผลประกอบการที่ผ่านมาของ Huawei เป็นที่น่าพอใจอยู่ไม่น้อย โดยในปี 2018 ทางแบรนด์ได้จำหน่ายสมาร์ทโฟนทั่วโลกไปกว่า 200 ล้านเครื่อง โดยมีรุ่นยอดนิยมทั้ง Huawei Mate 20 และ P20 Pro ทำให้แบรนด์ Huawei ขึ้นแท่นกลายเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับที่ 2 ของโลกแทน Apple และตั้งเป้าจะเป็นผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2020 ซึ่งเหมือนว่าเป้าหมายนี้ จะถูกหยุดยั้งเสียแล้ว
