โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

โฆษก ศบค.ย้ำอย่าอยู่ใกล้ผู้สูงอายุ เน้นโซเชียลดิสแทนซิ่ง-ชม 11 จังหวัดไร้ผู้ติดเชื้อโควิด-19

MATICHON ONLINE

อัพเดต 05 เม.ย. 2563 เวลา 07.47 น. • เผยแพร่ 05 เม.ย. 2563 เวลา 06.48 น.
นพ.ทวีศิลป์-วิษณุโยธิน1-1

โฆษก ศบค.ย้ำอย่าอยู่ใกล้ผู้สูงอายุ เน้นโซเชียลดิสแทนซิ่ง-ชม 11 จังหวัดไร้ผู้ติดเชื้อโควิด-19

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงรายงานประจำวันว่า สำหรับรายงานสถานการณ์ประเทศไทยวันนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวน 102 ราย ใน 66 จังหวัด ผู้ป่วยสะสม 2,169 ราย รักษาหายแล้ว 674 ราย เสียชีวิตรวม 23 ราย

โดยในจำนวน 3 รายที่เสียชีวิตเพิ่มนั้น รายที่ 21 เป็นชายอายุ 46 ปี อาชีพรับจ้าง ประวัติเดินทางมาจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ถึงไทยวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา เข้ารับการรักษาครั้งแรกด้วยอาการไข้ 38.9 องศา มีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ และหายใจลำบาก มาเสียชีวิตในวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา

รายที่ 22 เป็นชายสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 82 ปี มีประวัติเป็นโรคประจำตัวคือ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ประวัติความเสี่ยงคือเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนได้ไปร่วมงานเลี้ยงในหมู่บ้านที่อำเภอหัวหิน และได้ไปบาร์แถวสุขุมวิทที่ กทม. จากนั้นวันที่ 29 มีนาคมมีไข้ และวันที่ 31 มีนาคม ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แรกรับมีไข้ 39.2 มีความดันโลหิตสูง หายใจเหนื่อยหอบ แพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นว่าเป็นโรคปอดบวม และภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน โดยส่งให้โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่จังหวัดเพชรบุรี 1 เมษายน แพทย์ใส่เครื่องช่วยหายใจ และ 2 เมษายน เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลว

และรายที่ 23 เป็นชาย อาชีพทำงานก่อสร้าง มีประวัติว่าดื่มสุราเป็นประจำ วันที่ 19 มีนาคม เดินทางมาจากจังหวัดพัทลุง ถึงจังหวัดสุริทร์ วันที่ 20 มีนาคม ก่อสร้างที่อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เริ่มป่วยวันที่ 29 มีนาคม โดยมีอาการไอ ไม่มีไข้ เสมหะเขียว อาเจียนเป็นเลือด น้ำหนักลด เหนื่อยหอบ วันที่ 2 เมษายน มีไข้ และไอมากขึ้น กู้ชีพจึงได้รับเข้ารักษาที่โรงพยาบาลปราสาท แรกรับพบออกซิเจนในเลือดต่ำ เอกซเรย์ปอดพบว่าเข้าลักษณะของโรคปอดอักเสบรุนแรง ก่อนเสียชีวิตในวันที่ 4 เมษายน ขอแสดงความเสียใจกับทั้ง 3 ครอบครัวด้วย

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับรายใหม่ 102 ราย ติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ยืนยันมาก่อนหน้านี้ กทม. ภูเก็ต และสมุทรปราการ รวม 44 ราย โดยกลุ่มสถานบันเทิง กับพิธีกรรมทางศาสนาลดลง ส่วนอีกกลุ่มเป็นกลุ่มใหญ่ 42 ราย เป็นผู้ป่วยใหม่ คือ เดินทางกลับจากต่างประเทศ 13 ราย และงานใกล้ชิดกับคนต่างชาติ 19 ราย กลุ่มก้อนนี้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม ณ วันนี้ตัวเลขในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น เราไม่ควรที่จะให้เพิ่มไปกว่านี้แล้ว ทั้ง กทม. และต่างจังหวัดเราต้องมาช่วยกัน เพราะวันนี้ตัวเลข กทม. พุ่งเกินพันไปแล้ว คือที่ 1,011 ราย ขณะที่นนทบุรีอยู่ที่ 137 ราย ภูเก็ต 131 ราย ทั้งนี้ ต้องขอชื่นชม 11 จังหวัดที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พังงา พิจิตร ระนอง สตูล สิงห์บุรี และอ่างทอง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีจำนวนผู้ที่หายป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ขอให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขรายงานจำนวนผู้ที่รักษาหายมาด้วย เพราะบางทีเรารายงานแค่ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เข้ารับการรักษา แต่พอหายเราไม่ได้รายงาน ก็เชื่อว่า จำนวนตรงนี้จะเพิ่มขึ้น

นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์โลกนั้นมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมกว่า 1.2 ล้านคน เสียชีวิต 64,667 คน สิ่งที่ต้องสื่อสารคือ สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อมากที่สุด รวม 310,233 ราย สเปน 126,168 ราย ฯลฯ โดยที่ต้องรายงานตัวเลขของต่างประเทศก็เพื่อให้ท่านเชื่อมโยงได้ว่าเราดูแลพี่น้องทุกคนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ โดยต้องมีกระบวนการดูแล ขั้นตอนต่างๆ เราให้ความละเอียดทั้งสิ้น

นพ.ทวีศิลป์กล่าวด้วยว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งรายงาน 20 รายที่เสียชีวิตมาเมื่อวานนี้ ก็จะได้นำมาเรียนรู้กันพบว่า 4 มกราคม-4 เมษายน มีผู้เสียชีวิตในอัตราการป่วยตายที่ 9.7% อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 58.5 ปี เป็นชายมากกว่าหญิง สิ่งที่ต้องเน้นย้ำคือ โรคประจำตัว เบาหวาน พบ 50% ความดันโลหิตสูง 35% ไต 15% และไขมันในเลือดผิดปกติ 15% เราถึงได้เน้นย้ำว่า อย่าไปใกล้ผู้สูงอายุ และเน้นโซเชียลดิสแทนซิ่ง ทั้งนี้ ที่เราต้องเข้ม เพราะคนไทยติดเชื้อจากต่างประเทศถ้าคุมได้ไม่ดีเพียง 1-2 คน จะเกิดการแพร่เชื้อ โดยเรามีบทเรียนกันมาแล้วจากตัวเลขคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 249 คน ซึ่งเดินทางมาจากยุโรป 85 ราย มาเลเซีย 49 ราย อินโดนีเซีย 44 ราย กัมพูชา 26 ราย ปากีสถาน 14 ราย ญี่ปุ่น 10 ราย สหรัฐอเมริกา 9 ราย และอื่นๆ 12 ราย มติจากทางการแพทย์ยืนยันมาว่า แม้ท่านจะกักตัวก่อนมา 14 วัน แต่เมื่อมาถึงประเทศเราแล้ว เราขอกักตัวอีก 14 วัน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0