ภายหลังจากทีมชาติไทยจบการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง รายการ "เอฟไอวีบี เนชั่นส์ ลีก 2019" สนามแรก ที่เมืองโอโปล ประเทศโปแลนด์ ด้วยผลงาน ชนะ 1 แพ้ 2 นัด ส่งผลให้ทีมชาติไทยจบสนามแรก ด้วยการรั้งอันดับ 13 ของตารางคะแนน จากทั้งหมด 16 ทีม
"โค้ชด่วน" ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอน ตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่น 1 ตำแหน่งในการเดินทางไปแข่งขันที่ มาเก๊า ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในตำแหน่ง ลิเบอโร่ จาก ฑิฆัมพร ช้างเขียว เป็น สุพัตรา ไพโรจน์
"ก็ตัดสินใจเปลี่ยนตัวรับ เนื่องจากตัวรับที่เราเอามานั้นค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราจะต้องให้เขาได้ลงเล่นกับเกมเพื่อให้ได้รู้ศักยภาพที่แท้จริงของตัวเองในแต่ละเกม เราก็พยายามที่จะนำมาเปรียบเทียบกัน"
"ก็จริงๆสนามนี้ถือว่าหนัก จีน ก็ส่งชุดใหญ่แทบทั้งหมด ไม่ใช่ชุดที่ไปบราซิลด้วย เพราะว่าเขาเตรียมความพร้อมเพื่อจะเล่นที่สนามมาเก๊าโดยเฉพาะอยู่แล้ว เป้าหมายของเขาอยู่ตรงนี้ และเบลเยียม สนามที่่แล้วก็ทำผลงานได้ดี ล่าสุดก็ชนะญี่ปุ่นมา เป็นทีมที่น่ากลัวและพัฒนาได้รวดเร็วมากของยุโรป"
"รวมถึงเกาหลีใต้เอง แม้ผลงานจะไม่ดีในสัปดาห์ที่แล้ว แต่การปรับเปลี่ยนโค้ชทำให้เขาค่อยดีขึ้นเรื่อยๆ เราก็ต้องพยายามต่อสู้กับเขาให้มีความละเอียดมากขึ้น เล่นกับเขาให้เต็มศักยภาพมากขึ้น ปรับจูนระบบต่างๆให้ดียิ่งขึ้น"
"ตอนนี้สภาพร่ายกายของผู้เล่นไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ แต่จะห่วงก็เรื่องการปรับตัว เจ็ทแลค การปรับเวลาต่างๆ รวมถึงเรื่องความเหนื่อยล้าก็อาจจะมีผลอยู่บ้าง พยายามปรึกษาทีมแพทย์อย่างต่อเนื่อง"
ด้าน นุศรา ต้อมคำ ตัวเซ็ตมือหนึ่งของไทย กล่าวว่า "เห็นนักกีฬาหลายคนบ่นเหมือนกันว่ามีนอนไม่หลับบ้าง ตื่นมากลางดึกตีสองตีสาม จะนอนอีกทีก็ตอนช่วงเช้า สภาพทุกคนก็ดูจะอิดโรยจากการเจ็ทแลค"
"ความพร้อมของร่างกายตอนนี้ก็อาจจะยังไม่พร้อม ต้องปรับสภาพเวลาอีกนิดนึง แต่ก็จะดีขึ้นแน่นอน เราคิดว่าน่าจะเก็บชัยชนะได้อย่างน้อย 1 นัด ทีมไหนก็ได้ เราก็ต้องเล่นเต็มที่ เราเจอเอเชียด้วยกัน 2 ทีม ยุโรป 1 ทีม ก็น่าจะเป็นเกมที่ดี"
สำหรับการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก 2019 สนามที่ 2 แข่งขันกันที่ มาเก๊า ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน วันอังคารที่ 28 พฤษภาคมนี้ พบ จีน เวลา 18.30 น. , วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พบ เกาหลีใต้ เวลา 15.30 น. และ วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พบ เบลเยี่ยม เวลา 15.30 น. ต่อไป