โควิด-19 : “แอปพลิเคชันมือถือ ช่วยให้ผมได้ใช้เวลากับแม่ที่กำลังจะตาย” - BBCไทย
"ไม่กี่ชั่วโมงก่อนแม่จะตาย ผมวิดีโอคอลไปหาเขา ได้ยินเขาพูดชื่อคนที่เขาใกล้ชิดและรักที่สุด คุยกันจนเขาหลับไป และแม่ก็ไม่ตื่นอีกเลย"
นี่คือเรื่องราวของแอนดรูย์ เว็บบ์ นักข่าวบีบีซีที่ไม่สามารถไปเดินทางไปเยี่ยมแม่เขาก่อนที่เธอจะสิ้นใจได้เพราะมาตรการล็อกดาวน์เพื่อรับมือกับวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
แคธลีน เว็บบ์ แม่ของแอนดรูว์ หัวใจวายในวันที่ครอบครัวเขาควรจะฉลองวันครบรอบ 50 ปี ที่พ่อและแม่แต่งงานกัน
ตอนนั้นคือสองสัปดาห์ก่อนที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรจะประกาศมาตรการล็อกดาวน์ แต่เขาและพี่ชาย ลอเรนซ์ ตกลงกันว่าครอบครัวไม่ควรจะเจอกันเพื่อลดโอกาสเสี่ยงแพร่เชื้อไวรัส
ย้อนไปเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว แม่ของเขาเข้ารับการผ่าตัดลำไส้ครั้งใหญ่ และก่อนจะถึงวันครบรอบแต่งงานร่างกายเธอก็เริ่มมีอาการอีกครั้ง โดยพ่อของเขาเป็นคนพาแม่ไปโรงพยาบาล
หลายสัปดาห์ถัดมา สถานการณ์เริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ เธอกินอาหารไม่ได้ ร่างกายอ่อนแอลง เกิดอาการลำไส้ทะลุ แพทย์พิจารณาว่าเธออาจจะเสียชีวิตหากเข้ารับการผ่าตัด และหากรอดมาได้ ก็อาจจะอยู่อย่างทรมาน
- เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับเซ็กส์ระหว่างโควิด-19 ระบาด
- ที่มา อาการ การรักษา และการป้องกันโรคโควิด-19
- ปัจจัยอะไรที่ทำให้หมออิตาลีต้องเลือกว่าจะรักษาคนไหนหรือปล่อยให้ตาย
- เครื่องช่วยหายใจราคาหลักพัน ฝีมือคนไทย
แม้ว่าตอนนั้นอังกฤษจะยังไม่ประกาศมาตรการให้คนรักษาระยะห่างทางสังคม แต่ไวรัสโคโรนาก็ระบาดไปทั่วแล้ว และหลายครอบครัวต้องทำการตัดสินใจอันยากลำบาก
ครอบครัวของแอนดรูว์ก็เช่นกัน
ด้วยความที่พี่ชายของแอนดรูว์มีโรคประจำตัว เขาจึงไม่ควรไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล พ่อของเขาเป็นคนไปเยี่ยมแม่ และคอยต่อสายวิดีโอคอลด้วยแอปพลิเคชันวอตส์แอปป์ (WhatsApp) ให้แม่ได้เห็นหน้าลูก ๆ
แต่แล้วเมื่อมาตรการล็อกดาวน์เริ่มขึ้น พ่อเขาก็ไม่สามารถไปเยี่ยมแม่ได้อีกแล้ว นอกจากนั้น แม่ของเขายังถูกย้ายแยกไปอีกห้องเพราะสงสัยว่าเธออาจเป็นโรคโควิด-19 มีพยาบาลที่คอยช่วยรับโทรศัพท์ให้
"พยาบาลยินดีคอยช่วยเหลือเสมอ เพราะรู้ว่าในโลกแห่งการล็อกดาวน์ มือถือเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมตัวแม่กับโลกภายนอก"
แต่แล้วโทรศัพท์ก็มีปัญหาอีก
ในที่สุด แอนดรูว์และพี่ชายก็ซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ และติดตั้งแอปพลิเคชันสไกป์ซึ่งมีระบบรับสายโดยอัตโนมัติได้ และพี่ชายเขาก็ขับรถเอาโทรศัพท์ไปส่งให้พยาบาลที่โรงพยาบาลโดยนำไปวางให้โดยห่างออกไป 2 เมตร
หลังจากนั้น แม่ของเขาก็อาการทรุดลงเรื่อย ๆ แต่พยาบาลคอยเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ใกล้ ๆ ให้ และระบบก็รับโทรศัพท์โดยอัตโนมัติให้เธอได้คุยกับลูก ๆ
"แม่บอกลาผม น้องชาย และหลาน ๆ รวมถึงลูกสาวผมที่อยู่ที่รัฐเวอร์จิเนียในสหรัฐฯ ผ่านสไกป์" แอนดรูว์เล่า "นี่จะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีแอปพลิเคชันโทรศัพท์แบบสมัยใหม่"
"พ่อผมบอกลาแม่ คนที่อยู่ด้วยกันมา 50 ปี ผ่านมือถือ แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างไปแค่ 30 กิโลเมตรเท่านั้น"
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเธอจะเสียชีวิต แอนดรูว์เชื่อมต่อวิดีโอคอลกับแม่ตอนตีสอง และได้ยินเธอเอ่ยชื่อถึงคนที่เธอรักและใกล้ชิด
"ผมพยายามพูดปลอบเธออยู่ 15 นาที คุยกับเธอจนกระทั่งเธอหลับไป และผมคิดว่าเธอไม่ได้ตื่นมาอีกเลย"
วิดีโอในงานศพ
ไม่กี่สัปดาห์ถัดมา พ่อแอนดรูว์ และครอบครัวพี่ชายเขาไปร่วมงานศพ ตามกฎหมายในสหราชอาณาจักร คนสามารถไปร่วมงานได้ไม่เกิน 10 คน แต่พวกเขาตกลงว่าจะไปกันให้น้อยที่สุดเพื่อความปลอดภัย ดังนั้นจึงมีแค่เพื่อนบ้านอีกสองคนที่ไปงาน ส่วนตัวแอนดรูว์เองไม่ได้ไปงาน
ที่งานศพ พี่ชายแอนดรูว์และหลานชายใช้แอปพลิเคชันซูม (Zoom) ผ่านโทรศัพท์ ช่วยให้แอนดรูว์และเพื่อนได้เหมือนไปร่วมงานด้วย และแอนดรูว์ก็บันทึกวิดีโอนั้นไว้เพื่อให้คนที่ไม่ได้ไปร่วมงานได้ดู
"เมื่อจบพิธีงานศพ ผมนำวิดีโอนั้นมาตัดต่อ เอารูปนิ่งเข้าไปใส่ ให้วิดีโอเป็นอนุสรณ์สำหรับแม่"
แอนดรูว์ตั้งใจบันทึกวิดีโอหลาย ๆ มุมในงานศพเพื่อที่จะได้เห็นทุกคนที่ไปงาน รวมถึงคนที่ดูผ่านระบบออนไลน์อยู่บ้าน