เมื่ออีเวนต์ก็ต้องจัด โควิด-19 ก็ต้องระวัง จึงเกิดแนวคิดการแข่งขันอีสปอร์ต (eSports) รูปแบบใหม่ขึ้น
การแข่งเกมอีสปอร์ตโดยนักกีฬาทุกคนอยู่ที่บ้านตัวเองและถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์อาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่การนำกีฬาจริงอย่าง "จักรยาน" แข่งกันบนสมาร์ทเทรนเนอร์โดยให้ทุกคนอยู่ที่บ้าน และถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์ได้ อาจจะทำให้เกิดการแข่งขันกีฬารูปแบบใหม่และนำไปสู่ธุรกิจได้
-อนาคตอีสปอร์ต? เมื่อกีฬาจริงมาอยู่ในเกม
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการแข่งขัน E-Cycling Race ที่ต้องปรับแผนจากวิกฤติโควิด-19 ให้นักกีฬาทุกคนอยู่ที่บ้านและออนไลน์เข้ามาแข่ง จากปกติที่ต้องเข้ามาแข่งขันกันในสตูดิโอถ่ายทอดสด
ผู้จัดใช้แพลตฟอร์ม Video Conference เชื่อมต่อนักกีฬาทุกคน รวมถึงผู้บรรยายการแข่งขัน เข้ามาในห้องเดียวกัน และให้นักกีฬาทุกคนออนไลน์ระบบการแข่งขันผ่านโปรแกรม Zwift(เกมปั่นจักรยาน) เพื่อให้สตูดิโอนำภาพทั้งหมดมารวมกันและถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์ได้
เจฟฟรี่ เบญจกุล เจ้าของรายการ Bicycle Diary ผู้บรรยายการถ่ายทอดสด E-Cycling Race กล่าาว่า เป็นการทำหน้าที่ผู้บรรยายการแข่งขันจักรยานออนไลน์ครั้งแรก เพราะไม่มีใครอยู่ที่เดียวกันเลย ซึ่งปกติจะต้องนำนักปั่นมา ตั้งสมาร์ทเทรนเนอร์เรียงกัน และมีคนพากย์อยู่ใกล้ ๆ เพื่อให้เห็นอารมณ์ แต่การแข่งรอบนี้จะเห็นแต่หน้าจอและตัวเลขที่ขึ้นว่าแต่ละคนมีความเร็วเท่าไหร่ กับสีหน้าท่าทาง
“ความยากคือเราไม่ได้ยินอะไรเลย ต้องใช้วิธีอ่านตัวเลขและดูภาพที่หน้าจอในห้องเงียบ ๆ ไม่มีใครคุยด้วย นั่งจดจ่อกับการแข่งขัน ถือว่าเป็นความท้าทายใหม่ และเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้นำเสนอทางออกให้กับหลาย ๆ คน ที่ไปไหนไม่ได้ ต้องอยู่บ้านเพราะโควิด-19"
แนะวิธีปั่นจักรยานช่วงโควิด-19
เจฟฟรี่ กล่าวต่อว่า "ปกติจะใช้ Zwift เพื่อปั่นกับกลุ่มจักรยานต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ บางกลุ่มรวมตัวกัน 40-50 คน สามารถพูดคุยกันผ่านแชทในโปรแกรมทางโทรศัพท์ที่เชื่อมสัญญาณกับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเสมือนรีโมท กับกลุ่มที่สนิทกันจะคุยกันผ่านโปรแกรม Discord
เมื่อปี 2019 ที่ประเทศอังกฤษมีการจัดแข่งขันจักรยานออนไลน์อย่างเป็นทางการปีแรก ส่วนตัวมองว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
"Zwift มีความเป็นเกม มีไอเท็ม มีลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ได้เหนื่อยกันจริง ๆ อยากฝากให้ชาวจักรยานหันมาลองดูช่องทางใหม่ ในช่วงที่ออกจากบ้านไม่ได้ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของเรา เพื่อให้รัฐบาลทำงานได้ง่ายขึ้น"
ขณะที่นักกีฬาที่เข้าแข่งขัน E-Cycling Race มองว่าการแข่งขันจักรยานบนสมาร์ทเทรนเนอร์เป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการปั่นจักรยาน เพราะปลอดภัยและสามารถปั่นได้ทุกเวลาที่ต้องการ
น้ำอิง-ณัฎฐา คล่องแคล่ว จากทีมจักรยาน ENNKU กล่าวว่า การปั่นจักรยานบนสมาร์ทเทรนเนอร์มีความปลอดภัยและสามารถออกแรงได้เต็มที่ โดยเฉพาะกับคนที่กลัวการเข้าโค้ง การปั่นกับกลุ่มคน หรือลงเขา ซึ่งการแข่ง E-Cycling Race ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นใคร แต่ตัวเกมทำให้เห็นว่ามีเพื่อนปั่นอยู่ด้วย
“ปกติจะซ้อมจักรยานบนสมาร์ทเทรนเนอร์ตลอดเพราะเลิกงานเย็น จะมีเวลาเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น จะได้ไปปั่นบนถนนเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ หรือมีงานแข่งเท่านั้น และในวิกฤติโควิด-19 การปั่นจักรยานบนสมาร์ทเทรนเนอร์ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยใช้เกมจะเข้ามาช่วยทำให้การปั่นไม่น่าเบื่อ สามารถชวนเพื่อนมาปั่นพร้อมกันได้"
ทั้งนี้ "น้ำอิง" จากทีมจักรยาน ENKKU คว้าแชมป์ในการแข่งขัน E-Cycling Race ที่ผ่านมาอีกด้วย
ด้าน สอง-รวิรัฐ ศรีโสภา จากทีมจักรยาน Venn Cycling กล่าวเสริมว่า ในอนาคต E-Cycling Race มีแนวโน้มจะพัฒนาไปสู่การแข่งขันได้มากกว่านี้ จากมลภาวะทางอากาศ PM 2.5 หรือวิกฤติโควิด-19 ที่คนต้องอยู่บ้าน อย่างน้อยยังมีสมาร์ทเทรนเนอร์ให้ปั่นจักรยานที่บ้านได้ บางคนอาจจะไม่ชอบแนะนำว่าให้ลอง 2-3 วัน เพราะสมาร์ทเทรนเนอร์ทำได้มากกว่าที่คิด สุดท้ายอาจจะชอบก็ได้ และถ้ามีการแข่งขันบ่อย ๆ คนจะยิ่งสนใจ
ปัจจัยด้านราคายังไม่ดึงดูด
สอง กล่าวต่อว่า อีกปัจจัยคือ สมาร์ทเทรนเนอร์ที่คุณภาพดีราคาจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท ขึ้นไป ด้วยปัจจัยที่เศรษฐกิจแบบนี้คนก็อาจจะตัดสินใจซื้อยาก จะต้องเสียเงินซื้อโดยที่ยังไม่รู้ว่ามันสนุกหรือไม่ ถ้าราคาลดลงมาต่ำกว่านี้อาจจะทำให้คนตัดสินใจซื้อง่ายกว่าเดิม
