9 กรกฎาคม 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่น พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นอีก 42 คน ทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมเป็นอย่างน้อย 1,366 คน และเสียชีวิตแล้ว 7 คน
ผลการสอบสวนโรคของผู้ป่วยกลุ่มใหม่พบว่าเป็นการติดเชื้อภายในชุมชนมากถึง 34 คน เป็นสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน และภายในรอบ 5 วันที่ผ่านมา มีผู้ป่วยอย่างน้อย 12 คนซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบที่มาที่ไปของการติดเชื้อ สร้างความตกใจให้แก่ชาวเมืองที่เริ่มคุ้นเคยกับการผ่อนคลายมาตรการรักษาห่างทางสังคมมานานกว่าสองสัปดาห์
ด้านนางโซเฟีย เฉิน รัฐมนตรีสาธารณสุขของฮ่องกง กล่าวว่าโรคระบาดได้กลับมาสู่ฮ่องกงอีกครั้ง หมายความว่ารัฐบาลจำเป็นต้องกลับมาบังคับใช้มาตรควบคุมทางสังคมอีกครั้งเช่นกัน เพื่อยับยั้งไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายลง
ศ.แกเบรียล เหลียง คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮ่องกง ที่ปรึกษารัฐบาลเรื่องโควิด-19 สันนิษฐานว่า การระบาดที่บ้านพักคนชราซึ่งมีคนชราและคนดูแลป่วยเกือบ 10 คนน่าจะมีต้นตอจากคนดูแล พร้อมกับตำหนิทางการว่าหย่อนยานการตรวจหาเชื้อผู้ดูแล เพราะตรวจเฉลี่ยแห่งละ 3 คนเท่านั้น ทั้งที่ควรตรวจให้ได้แห่งละสองในสาม จนถึงขณะนี้ฮ่องกงตรวจหาเชื้อไปแล้วกว่า 360,00 คน เฉลี่ยวันละ 3,600 คน รัฐมนตรีสาธารณสุขรับปากจะตรวจเพิ่มอีกวันละ 2,400 คนในเดือนหน้า แต่ยังคงต่ำกว่าที่ ศ.เหลียงแนะนำว่า ควรตรวจให้ได้วันละ 10,000 คน