เมื่อวันที่ 10 เม.ย. นายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายสุชาย ไม้แก่นจันทร์ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่งคง พร้อมกำลังตำรวจ-ทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าตรวจสอบพื้นที่บ้านแก่งประลอม หมู่ที่ 1 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค เขตพื้นที่ดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฯ หลังได้รับรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลนำรถแบคโฮเข้าไปขุดหาสมบัติเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และล่าสัตว์ป่า
ในเบื้องต้นพบรถแบคโฮจอดอยู่ใกล้ปากถ้ำ ที่ทำเป็นเพิงมุงหลังคาสังกะสีแล้วใช้ผ้าใบคลุมปิดพรางตา มีการขุดดินเปิดขยายกว้างกว่า 3 เมตร และขุดลึกลงไปกว่า 15 เมตร ใกล้กันพบ นายบุญส่ง มะนาวทอง อายุ 60 ปี นั่งอยู่ใกล้เพิงพัก ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไปและมานั่งพักบริเวณนี้เท่านั้น ส่วนรถแบคโฮมี นายอึ่ง ไม่ทราบนามสกุล เป็นคนขับ แต่ก็ไม่ทราบว่านายอึ่งอยู่ไหน ส่วนเรื่องขุดค้นหาสมบัติยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงคุมตัวไปสอบสวนยัง สภ.ไทรโยค
ทั้งนี้ ตรงจุดที่ขุดหาสมบัตินั้น พบว่าเป็นเพียงเชิงเขาริมแม่น้ำแควน้อย ไม่เคยมีประวัติการฝังสมบัติเก่าแก่ หรือมีสายแร่ทอง หรือเป็นเส้นทางของกองทัพญี่ปุ่นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พบว่า กลุ่มบุคคลที่เข้ามาขุดค้นหาสมบัตินั้น มักจะมีลายแทงบอกพิกัดแนวเส้นทางรถไฟสายมรณะ ที่กองทัพญี่ปุ่นเคยสร้างไว้ ซึ่งจุดที่ขุดอยู่ห้างจากทางรถไฟสายเก่าไม่เกิน 500 เมตร ที่ผ่านมาเคยจับกุมกลุ่มลักลอบขุดหาสมบัติมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งก็ไม่เคยพบเจอทองหรือสมบัติแต่อย่างใด จึงเชื่อว่ากลุ่มบุคคลรายนี้ พยายามลักลอบมาหาสมบัติในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่จะไม่มาตรวจก็เป็นได้
ต่อมากำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 67 หมู่ที่ 1 ต.ไทรโยค ซึ่งอยู่ห่างจุดที่ถูกขุดหาสมบัติ ราว 300 เมตร พบ นายเชิดพงศ์ พรหมดี อายุ 69 ปีเจ้าของบ้าน นั่งอยู่กับ นายอรรถ ธรรมสระอายุ 55 ปี ตรวจสอบในบ้านพบอาวุธปืนลูกซอง และ ปืนลูกกรดยาวขนาด .22 พร้อมเครื่องกระสุนอีกหลายรายการ จึงคุมตัวพร้อมของกลาง ไปสอบสวนที่ สภ.ไทรโยค ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
