โกลเบล็กมองตลาดหุ้นไทยฟื้น หลังเศรษฐกิจมะกันมีสัญญาณที่ดีขึ้น บวกค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในรอบ 3 สัปดาห์หลังแบงก์ชาติลดดอกเบี้ย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายปีหนุนความเชื่อมั่น ให้กรอบดัชนี 1,615-1,640 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นเข้าคำนวณดัชนี MSCI Thailand ส่วนราคาทองคำหากราคาหลุดแนวรับที่ 1,455 ดอลลาร์สหรัฐฯให้ลดสถานะลง พร้อมแนะจับตาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยว่ามีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นจากปัจจัยบวกภายหลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯสาขานิวยอร์กชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะแข็งแกร่งขึ้น โดยตลาดแรงงานแข็งแกร่ง อัตราการว่างงานที่ระดับต่ำ 3.5% ไม่ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น และนโยบายการเงินเหมาะสมแล้วในขณะนี้
นอกจากนี้ทิศทางค่าเงินบาทมีการอ่อนค่าลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า และอ่อนค่าที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ประกอบกับ แคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยว “ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย” และ “เที่ยววันธรรมดาราคาช็อคโลก” เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนแล้ว นอกจากนี้กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” เฟส 3 คาดจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีคาดว่าจะมีแรงเก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณดัชนี MSCI ที่จะมีผลในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ จึงให้กรอบดัชนีไว้ที่ระดับ 1,615-1,640 จุด
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กกล่าวว่าปัจจัยที่ยังคงต้องจัยตาต่อคือ สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ซึ่งล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯได้แสดงท่าทีว่าไม่เห็นด้วยกับแผนการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน และสถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงทวีความรุนแรงมากขึ้น
นอกจากนี้ยังคงต้องติดตามการประชุม ครม.สัญจรที่จ.ราชบุรีและจ.กาญจนบุรีที่จัดขึ้นในวันที่ 11-12 พ.ย. ขณะเดียวกันอังกฤษเปิดเผย GDP เบื้องต้นไตรมาส 3/2562 และดุลการค้าเดือนก.ย.และอียูเปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือน ต.ค.รวมทั้งสหรัฐฯเปิดเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนต.ค.ส่วนในวันที่ 13 พ.ย. อียูเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.และสหรัฐฯเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. และประธานธนาคารกลางสหรัฐจะแถลงต่อสภาคองเกรสเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯเวลาประมาณ 23.00 น.ตามเวลาไทย
ขณะที่ในวันที่ 14 พ.ย. กำหนดวันสุดท้ายในการส่งงบการเงินงวด Q3/2562 ของบริษัทจดทะเบียน และอียูเปิดเผย GDP ไตรมาส 3/2562(ประมาณการครั้งที่ 2) ด้านสหรัฐฯเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และสต๊อกน้ำมัน และวันที่ 15 พ.ย.สหรัฐฯเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ราคานำเข้าและส่งออกเดือนต.ค.ดัชนีภาคการผลิต การผลิตภาคอุตสาหกรรม และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ
ทั้งนี้แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นเข้าคำนวณดัชนี MSCI Thailandเช่น BGRIM,GPSC,OSP และ SAWAD หุ้นเข้า MSCI Small Cap เช่น CENTEL,DOHOME,JMT,SPRC,STPI,TPIPP และTQM หุ้นออกเช่น CBG,SAWAD(เข้าคำนวณ MSCI Thailand) และ TISCO โดยจะมีผลในวันที่ 26 พ.ย.62
ด้านราคาทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กกล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวหลุดแนวรับที่ 1,480 ดอลลาร์สหรัฐฯ อีกทั้งกองทุน SPDR มีสถานะขายเป็นเดือนแรกในรอบ 5 เดือน โดยตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.มีสถานะขาย 16.1 ตัน คอยกดดันราคาทองคำ อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 1.73% สู่ 1.94% โดยแนะนำว่าหากราคาหลุดแนวรับที่ 1,455 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 20,920 บาทต่อบาททองคำให้ลดสถานะลง แนะนำให้ติดตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี เพื่อเป็นตัวบ่งชี้ความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย
