โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

โกรธไม่ลง!สองผัวเมียเห็นแล้วกลับดีใจ ยายเอารูปงานแต่งมาทำฝาบ้านกันฝนบังแดด

Manager Online

เผยแพร่ 22 พ.ย. 2562 เวลา 01.25 น. • MGR Online

นครสวรรค์ – เห็นกับตาแล้วโกรธไม่ลงจริง..ผัวหนุ่มเมียสาวถูกยายวัย 85 นำรูปแต่งงานไปทำฝาผนังเพิงพักอยู่ริมถนน บอกตอนแรกโคตรนอย แต่พอตามไปดูแล้วกลับดีใจภาพสำคัญในชีวิตมีประโยชน์กับคนอื่น

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ SaRa NaLux นำภาพและเรื่องราวสุดประทับใจมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กของตนเอง ระบุใจความว่า “รูปแต่งงานฝากไว้บ้านเพื่อน ตอนมีคนทักมาก็ยังงงๆ ฝากเค้าไว้แล้วรูปเรามาอยู่ตรงนี้ได้ไง ใครทิ้งรูปฉัน อารมณ์คือแบบโคตรนอย ก็เลยมาตามหารูปตัวเอง สรุปยายเก็บมาทำที่กั้นบ้านพักอาศัย จากอารมณ์ที่กำลังโมโหมากๆ ว่ารูปในวันสำคัญมาอยู่ตรงนี้ได้ไง

..พอคุยกับยายไปมา ยายบอกรูปหนูหรอ ให้ยายรื้อไหม เอาไปเก็บไว้ลูก ยายไม่รู้จริงๆ ยายเก็บมาทำเพิงอยู่ พอยายพูดแบบนี้เราก็อดสงสารยายไม่ได้ อยู่คนเดียวลูกหลานไม่มี ขายน้ำมันขวดละ 30 บาท ตรงริมชล แล้วก็มีเสื้อมือถักขาย ใครว่างมาอุดหนุนยายเพ็ญด้วยนะจ๊ะ ยายยากจนอยู่คนเดียวไม่มีลูกหลาน ยายหากินคนเดียว ขอเทศบาลปลูกเพิงเพื่อขายของ พิกัดตรงข้าม แพสี่แคว มาอุดหนุนยายเยอะๆ น้า” #รูปหนูไม่เอากลับจ้าไว้ให้ยายหลบแดดหลบฝนตรงนี้หนูก็โอเคแล้วรูปภาพวันแห่งความทรงจำที่หายไป กลับกลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อคนอื่น เรื่องราวจบลงด้วยดี งานนี้สุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ"

ทั้งนี้ หลังจากมีการโพสต์ภาพและเรื่องราวดังกล่าว ปรากฏว่ามีผู้ให้ความสนใจเข้ามากดไลค์ กดแชร์ พร้อมกับคอมเม้นกล่าวชื่นชมและให้กำลังใจคู่รักคู่นี้กันอย่างล้นหลาม

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามข้อมูลเรื่องราวทั้งหมดจาก ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ SaRa NaLux ทราบชื่อคือนางดวงฤดี หรือซาร่า อายุ 35 ปี กำลังเดินทางไปพบกับยายชราที่นำรูปงานแต่งงานของเธอไปทำฝาบ้าน ที่บริเวณริมถนนสายริมชล ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบว่าคุณยายรายนี้ คือ นางเพ็ญ ทองคำ อายุ 85 ปี ใช้ชีวิตอยู่ในเพิงขนาดเล็กริมถนนเพิงลำพัง เนื่องจากสามีเสียชีวิตไปนานนับ 10 ปี และบุตรอีก 3 คน ต่างแยกย้ายกันไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวอยู่ที่กรุงเทพฯกันหมด เลยทำให้นางเพ็ญต้องอยู่คนเดียว โดยหาเลี้ยงชีพด้วยการขายน้ำมันขวดอยู่ริมถนน

คุณยายเพ็ญ เล่าว่าตนมาสร้างบ้านเพิงอยู่อาศัยตรงจุดนี้มานานกว่า 3 ปีแล้ว โดยไม่เสียค่าเช่าที่ใดๆ เพราะเขาให้อยู่ฟรี ส่วนที่ต้องมาอยู่ตรงนี้ เนื่องจากบ้านที่เคยอยู่กับสามี ถูกญาติพี่น้องของเขามาทวงคืนไปหมด เลยต้องย้ายออกมาใช้ชีวิตเพียงลำพัง และค้าขายน้ำมันขวดอยู่ริมทาง โดยจะขายอยู่ที่ขวดละ 30-20 บาท พร้อมกับรับจ้างถักทอผ้าเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งตนก็มีความสุขดี และก็ไม่ต้องใช้จ่ายอะไรมากมาย เนื่องจากในแต่ละวันจะมีผู้ใจดีทั้งรู้จักและไม่รู้จัก นำอาหารและน้ำมาให้ตนอยู่เสมอ

เมื่อถามถึงที่มาของรูปแต่งงานของนางดวงฤดีและสามีที่นำมาทำเป็นฝาบ้าน ยายเพ็ญบอกว่ามีคนรู้จักคนหนึ่งขับรถพ่วงเอามาสอบถามว่า เขาพบรูปงานแต่งงานแบบอัดติดไม้ขนาดใหญ่ 2 ภาพ ถูกนำไปทิ้งไว้เลยเก็บมาแต่ที่บ้านไม่มีที่เก็บ จึงได้ขับรถแวะมาหาตนเพื่อสอบถามว่าจะเอาไปใช้ประโยชน์อะไรหรือไม่ ตนก็ตอบทันทีว่าเอา เพราะตนจะนำไปทำเป็นฝาบ้าน เนื่องจากอันเก่ามันผุ

ซึ่งหลังจากที่ตนนำรูปภาพทั้งสองรูปนี้มาประกอบเข้ากับบ้านเพิ่งได้ไม่นาน ก็มีชายหนุ่มและหญิงสาวที่เป็นสามีภรรยากัน และเป็นคนที่เหมือนกันในรูปแต่งงานเข้ามาสอบถามถึงที่มาของภาพ ก็ตกใจมาก กลัวว่าจะมีความผิด จึงได้รีบบอกไปว่าจะให้ตนรื้อคืนให้หรือเปล่า แต่เมื่อคุยไปคุยมาสองสามีภรรยาคู่นั้นกลับบอกตนว่าไม่ต้องรื้อ ขอให้เก็บไว้เป็นฝาบ้านอยู่อย่างนี้ พร้อมกับเอาเงิน 2 พันบาทมาให้ตนด้วยแล้วกลับบ้านไป

ด้านนางดวงฤดี หรือซาร่า เจ้าของรูปงานแต่ง เล่าว่าตอนแรกที่ตนมาเห็นรูปภาพก็รู้สึกน้อยใจและรู้สึกโมโหมาก เนื่องจากเป็นรูปสำคัญและมีคุณค่าทางจิตใจของตน แต่เมื่อได้สอบถามและพูดคุยกับยายเพ็ญแล้ว ก็รู้สึกสงสารจับใจจนเปลี่ยนความคิด กลับกลายเป็นรู้สึกดีใจเสียอีก ที่ภาพสำคัญของเราได้ทำประโยชน์ให้กับยายเพ็ญนำมาทำบ้านเป็นที่กันแดดกันฝน แต่จากการตรวจสอบสภาพบ้านของยายแล้ว ยังดูไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ซึ่งหลังจากนี้ ตนจะว่าจ้างช่างให้มาทำบ้านเพิงให้ยายเพ็ญใหม่ จะได้มีบ้านที่แข็งแรงมั่นคงอยู่อาศัย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในขณะที่นางดวงฤดีและนางเพ็ญได้นั่งพูดคุยกันอยู่ที่ใต้ร่มไม้ข้างบ้านเพิงอยู่นั้น ก็มีแม่ค้าเร่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเดินผ่านมาพอดี นางดวงฤดีจึงได้เรียกขอซื้อ และให้ยายเพ็ญช่วยเลือกให้ ซึ่งยายเพ็ญได้เลือกเลขท้าย 43 นางดวงฤดีจึงได้เลือกซื้อหวยที่มีเลขท้ายดังกล่าวมา 5 ใบ แล้วมอบให้กับนางเพ็ญไว้ 2 ใบ แต่ยายเพ็ญไม่รับโดยขอให้นางดวงฤดีเก็บเอาไว้ เพราะตอนนี้รู้สึกตื้นตันใจอยู่แล้วที่นางดวงฤดีให้การช่วยเหลือ จึงให้นางดวงฤดีเก็บไว้ดีกว่า

ขณะเดียวกันทีมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนูษย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครสวรรค์ ก็ได้ร่วมกันเดินทางมาเยี่ยมนางเพ็ญที่บ้านด้วย เพื่อสอบถามการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ ซึ่งจากการพูดคุยกันในเบื้องต้น ทั้งสองหน่วยงานดังกล่าวจะมีการมอบเงินช่วยเหลือให้กับนางเพ็ญเดือนละ 2,000 บาททุกเดือนก่อนจะมีการมอบข้าวสารอาหารแห้งและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้กับนางเพ็ญนำไปใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0