โกงซึ่งๆหน้า! หนุ่มโวยเจอคนทุจริตข้อสอบใบขับขี่วิดีโอคอลถามเพื่อนระหว่างการทำข้อสอบ ถามคำตอบเกือบทุกข้อลั่นห้อง! จนคนอื่นรำคาญ ครั้นเดินไปสะกิดผู้คุมสอบกลับทำเฉย สังคมตั้งคำถาม เหตุใด จนท. ปล่อยให้คนแบบนี้มาขับรถบนท้องถนนได้ไง? โทษจุ๋มจิ๋ม แค่ปรับตก อมรม-สอบใหม่ทนายชี้ข้อสอบยากจริง คนทุจริตเพียบ
ไม่สะท้าน โกง…แล้วไง!? ถามลั่นห้อง
จากกรณีปัญหาการทุจริตสอบข้อเขียนออนไลน์ใบอนุญาตขับรถที่สนามสอบสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 เขตบางขุนเทียน พบพฤติกรรมของผู้สอบใบขับขี่รายหนึ่งใช้โทรศัพท์ระหว่างการทำข้อสอบเพื่อถามคำตอบเกือบทุกข้อ จนคนในห้องทนไม่ไหว ส่งเสียงดัง ไม่มีสมาธิ และไม่มีทีท่าสะทกสะท้านกับการกระทำผิดของตนเอง จึงลุกไปบอกเจ้าหน้าที่คุมสอบ แต่ต้องอึ้ง เมื่อเจ้าหน้าที่กลับนิ่งเฉย ทั้งที่ยอมรับว่า การกระทำดังกล่าว เป็นการทำผิดกฎการสอบ
สุดท้าย ทนไม่ไหวกับพฤติกรรม โพสต์ข้อความและรูปภาพ บอกเล่าให้โลกโซเชียลฯ รับรู้ถึงการโกงซึ่งๆหน้าสังคมตั้งคำถาม ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ!?
“เมืองไทย จะไปเจริญได้ไง สอบใบขับขี่ นั่งวิดีโอคอลถามผู้ชายจนรบกวนคนอื่น ขนาดต้องบอกให้เงียบหน่อย เพราะผมสอบไม่ได้ เดินไปบอก จนท. คุมสอบก็เฉย
เลยได้แค่ถามเจ้าหน้าที่ ว่า เห็นใช้มือถือวิดีโอคอลในห้องสอบได้ด้วยหรอ เขาตอบว่าไม่ได้ แต่ก็ไม่เห็นว่าเดินไปตรวจตอนนั้น ผมเลยได้แต่ส่ายหัว เพราะเขาคอลตลอดการสอบเลย แค่เดินผ่านก็ชัดละ คนนั่งสอบรอบข้างเห็น และได้ยินแน่ๆ แต่ไม่มีใครพูด )
นี่รูปนี้ได้มาเพราะลืมเอกสารไว้ในห้องสอบถ่ายตอนกลับไปเอา เขาเข้าก่อนผม ผมสอบเกือบครึ่งชั่วโมงนั่งอ่านโจทย์ทุกข้อ ง่ายๆ คือตอบไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่เพิ่งอบรมลงมาเมื่อกี้ แล้วจะไปขับรถ ให้ไม่เดือดร้อนคนอื่นได้ไง กฎที่ต้องรู้ยังไม่รู้ซักข้อ #นักการเมืองโกง #ข้าราชการโกง #ประชาชนโกง ประเทศไทย แดนสวรรค์ของพวกขี้โกง”
อย่างไรก็ดี ผู้ถ่ายภาพและโพสต์ข้อความยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า “จริงๆในห้องห้ามใช้มือถือ ผมก็ผิดแหละที่ใช้กล้องถ่ายมา แต่ถ้าไม่มีหลักฐานเดี๋ยวมาเล่าเปล่าๆ มันจะเห้ยจริงหรอ?กันอีก”
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย นอกจากนี้ ยังย้อนโยงถึงเหตุการณ์โกงใกล้เคียงกันเมื่อ 3 ปีก่อน เหตุการณ์แชตไลน์หลุดเมื่อลูกสาวคุยไลน์กับพ่อเพื่อให้ช่วยตอบข้อสอบใบขับขี่
“แค่นี้ยังเอาเปรียบคนอื่น แล้วคิดเหรอมาร่วมใช้ถนนกับคนอื่นจะไม่เอาเปรียบเพื่อนบนถนน”
“คนแบบนี้ทำข้อสอบยังทำไม่ได้ จะให้มาอยู่ร่วมถนนทำไม ขับรถได้ก็จริงแต่ให้ขับรถเป็นแล้วมีความรับผิดชอบในท้องถนนสาธารณะคงยาก”
โทษจุ๋มจิ๋ม อบรม-สอบใหม่!
ปมร้อนแรงจน รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ออกมารีบชี้แจง เผยผู้ทุจริตข้อสอบต้องอบรมและสอบใหม่อีกครั้ง ชี้ผู้คุมสอบได้รับข้อร้องเรียนและตัดสิทธิ์สอบคนโกงตั้งแต่วันดังกล่าวแล้ว
จงรักษ์ กิจสำราญกุล รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่คุมสอบได้ทราบข้อร้องเรียนและตรวจสอบพฤติกรรม พบว่ามีการทุจริตในการสอบจริง จึงตัดสิทธิ์ในการสอบแล้วตั้งแต่วันสอบ ซึ่งหลังจากนี้ ผู้เข้าสอบที่ทุจริตการสอบสามารถมาสอบได้อีกครั้ง แต่จะต้องเริ่มกระบวนการอบรมและสอบใหม่อีกครั้ง
พร้อมยืนยันว่า กรมการขนส่งทางบก ยังไม่มีการกำหนดโทษห้ามสอบใบขับขี่ให้เป็นเยี่ยงย่างแก่ผู้ทุจริตในการสอบ เนื่องจากกฎหมาย พระราชบัญญัติรถยนต์ไม่ได้ระบุไว้ ซึ่งแตกต่างจากการทุจริตในคดีอาญา จึงใช้มาตรการปรับตกทุกกรณีแทน ขณะเดียวกัน มองว่าปัจจุบันยังไม่จำเป็นต้องออกกฎหมายรองรับการคาดโทษผู้ทุจริตให้หนักขึ้น แต่ให้โอกาสสอบใหม่อีกครั้งก็เพียงพอแล้ว
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามปกติการสอบใบอนุญาตขับขี่มีมาตรฐาน ซึ่งผู้เข้าสอบทุกคนจะต้องผ่านการเข้าอบรมก่อน 5 ชั่วโมง โดยข้อสอบเป็นระบบออนไลน์ หรืออีเอ็กซ์แซม (e-exam) และจะต้องสอบทั้งหมด 50 ข้อ ขณะที่ผู้เข้าสอบทุกคนสามารถนำกระเป๋าเข้าห้องสอบได้ แต่ต้องปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด หลังจากนี้ จะพิจารณาอาจแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากถือว่าเป็นการทุจริตการสอบของทางราชการ
ส่วนการทดสอบภาคปฏิบัติจะเปลี่ยนเป็นการทดสอบผ่านสนาม E-Driving เปลี่ยนจากการใช้คนดูเป็นใช้กล้องตรวจจับความผิดแทน ขณะนี้ในหลายจังหวัดได้ดำเนินการเปลี่ยนระบบแล้ว เช่น กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, ขอนแก่น และนครราชสีมา คาดว่าจะสามารถปรับเป็นระบบกล้องแทนคนได้ในปีหน้า
คอร์รัปชันทุกอาชีพ!?
ในปัจจุบันมาตรฐานการสอบใบขับขี่สูงกว่าแต่ก่อนมาก ซึ่งกรมขนส่งทางบกเริ่มเข้มงวดกวดขันอย่างจริงจังเพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มขึ้นทุกปี จึงเป็นที่มาของการทุจริตข้อสอบ
ทีม MGR Live สายตรงขอความคิดเห็นด้านกฎหมายจาก ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ชี้คนทุจริตการสอบไม่น่าจะมีความผิด ยกเว้นทำเป็นขบวนการอาจโดนข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 และมาตรา 210 เหมือนกับคดีโกงข้อสอบ เข้ารับราชการในคดีอื่นๆที่ผ่านมา
แต่ข้าราชการที่คุมสอบหากเห็นการกระทำความผิดซึ่งหน้าปล่อยปละละเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”
นอกจากนี้ ยังแสดงความคิดเห็นถึงข้อสอบใบขับขี่ว่า มีความยาก ถ้าไม่มีความรู้ และไม่อ่านหนังสือ ไม่ตั้งใจดูวิดีโอที่เข้าอบรม ก็สอบไม่ผ่าน เพราะกฎจราจรเยอะมาก จำไม่ไหว จึงมีการทุจริตเกิดขึ้น อย่างเมื่อก่อนที่มีการโกงข้อสอบ โดยซ่อนคำตอบใส่ในยกทรง
“ขนาดทนายบางคนยังจำกฎจราจร ไม่ได้เลย ต้องเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ในระยะกี่เมตร ขับรถหวาดเสียวยังไง ถ้าไม่ได้อ่านจะยาก ผู้สอบบางคนตอนอยู่ในห้องอบรมก็ไม่ได้ดู ไม่ได้สนใจ นั่งหลับ เล่นเกม จึงทำให้ทำข้อสอบไม่ได้
“รู้สึกมั้ย เดี๋ยวนี้เมืองไทยทุกอาชีพ…มีแต่คนโกง” ทนายเดชา ตั้งข้อสังเกตก่อนจบการสนทนา
แน่นอนการสอบใบขับขี่ยิ่งยากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้คนมักง่ายอยากใช้เงินซื้อและพร้อมจ่ายแพงขึ้นเพื่อแลกกับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่คุมสอบ แม้ทุกคนก็รู้ว่าการสอบใบขับขี่ที่เข้มงวดนั้นก็เพื่อสร้างหลักประกันความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนร่วมกันของทุกคน
ดร. มานะ นิมิตมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เคยแสดงความคิดเห็นไว้ว่า ทุกวันนี้พวกหากินกับการสอบใบขับขี่และต่อทะเบียนรถยนต์ลดน้อยลงมาก ทำไม่ง่ายและไม่ประเจิดประเจ้อเหมือนในอดีตอีกแล้ว แต่หลายจังหวัดก็ยังมีการซื้อขายกันอยู่ในราคาสองถึงสามพันบาท ทำได้ทั้งใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลและใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ
สาเหตุที่เรื่องนี้โกงกินกันยากขึ้น .. มีข้าราชการกรมการขนส่งทางบกกลุ่มหนึ่งได้อธิบายว่า
“สมัยที่ นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต เป็นอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ท่านแก้ปัญหาซื้อขายใบขับขี่ได้ ผลดี ด้วยการจัดทีมล่อซื้อไปเล่นงานพวกข้าราชการขี้ฉ้อให้กลัวหัวหด ในเวลาเดียวกันท่านและข้าราชการน้ำดีก็ช่วยกันพัฒนาระบบการบริการประชาชนหลายอย่าง ทั้งลดขั้นตอน ลดเอกสาร เอาคอมพิวเตอร์มาใช้ กำหนดระยะเวลาว่างานต้องเสร็จภายในกี่นาทีกี่ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว โปร่งใส ลดภาระของประชาชน ความสำเร็จนี้กลายเป็นแบบอย่างที่ได้รับการยกย่องชื่นชมมาถึงปัจจุบัน”
ผลที่ได้คือ เราสามารถทำลายการโกงเป็นขบวนการ โกงเป็นระบบหรือร่วมมือกันโกงให้หมดไปได้ ถึงแม้จะมีเหลืออยู่ก็เป็นเพียงพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ของเจ้าหน้าที่บางคนที่สร้างความเสียหายเดือดร้อนรำคาญใจบ้างเท่านั้น
เรื่องนี้ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาว่า “เราสามารถเอาชนะคอร์รัปชันได้หรืออย่างน้อยก็ทำให้ลดน้อยลง” หากทุกคนตั้งใจและทำจริงเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ
โดยทีมข่าว MGR Live
