โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

แอ่ว “ลำปาง” ตระเวนไหว้พระ 9 วัดงาม อิ่มบุญ เบิกบานใจ

Manager Online

อัพเดต 15 ส.ค. 2561 เวลา 06.22 น. • เผยแพร่ 15 ส.ค. 2561 เวลา 06.22 น. • MGR Online

Facebook :Travel @ Manager

“ลำปาง” เป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวทางภาคเหนือที่มีความน่าสนใจชวนให้ไปท่องเที่ยว ด้วยความที่เคยเป็นดินแดนอารยธรรมล้านนาที่รุ่งเรืองมาแต่ครั้งโบราณ ทำให้เมืองลำปางมีสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณสถานอย่างวัดวาอารามที่สวยงามและทรงคุณค่า ชวนให้เดินทางไปสัมผัสกัน

ทริปนี้ “ตะลอนเที่ยว” เลยขอมาแอ่วจังหวัดลำปาง และเลือกที่จะไปเที่ยวตระเวนไหว้พระ เพื่อเสริมสิริมงคลให้ชีวิต กับเหล่าวัดวาอารามที่มีความงดงามของเมืองลำปางถึง 9 วัดด้วยกัน เปิดฉากทัวร์มากันที่ “วัดพระธาตุลำปางหลวง” (ต. ลำปางหลวง อ.เกาะคา) เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณที่มีความสวยงาม แนะนำว่าควรหาโอกาสมาให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะเป็นพระธาตุประจำปีปีฉลู (วัว)

ภายในวัดพระธาตุลำปางหลวง มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการไหว้ขอพรจากองค์พระธาตุ เจดีย์ เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ทรงล้านนาหุ้มด้วยแผ่นทองเหลืองฉลุลายมีความงดงามเป็นอย่างมาก ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และมีพระวิหารหลวง ที่ประดิษฐานพระเจ้าล้านทองอยู่ภายใต้ซุ้มปราสาททอง เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในลำปาง และด้านหลังมีพระเจ้าทันใจให้ได้ไหว้ขอพร ที่เชื่อกันว่าขอแล้วจะสัมฤทธิ์ผลดังใจหมาย

มีวิหารลายคำ ที่งดงามด้วยศิลปะล้านนาฝีมือช่างลำปาง มีลวดลายลงรักปิดทองสวยงามมาก ด้านในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าองค์หลวงเมืองเขลางค์ (หลวงพ่อพระพุทธ) เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนสิงห์สาม ปางมารวิชัย เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นที่มีลักษณะสวยงามที่สุดองค์หนึ่งของล้านนา และยังมีสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่ควรพลาดชม คือ การเข้าไปชม “พระธาตุหัวกลับ” หรือ “เงาพระธาตุ” ในมณฑปพระพุทธบาท ที่เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์กล้องรูเข็ม ที่อนุญาตให้เฉพาะผู้ชายเข้าไปชมได้เท่านั้น

จากวัดพระธาตุลำปางหลวง เดินทางมาไม่ไกลมากนักก็มาถึง “วัดไหล่หินหลวง” (วัดเสลารัตนปัพพตาราม) หรือ “วัดไหล่หินแก้วช้างยืน” เป็นวัดเล็กๆ ที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก ภายในวัดมีโบราณสถานที่น่าสนใจชวนชมอย่าง ซุ้มประตูโขงซึ่งเป็นงานประติมากรรมของช่างฝีมือเชียงตุง ที่มีลวดลายประติมากรรมประดับประดาอยู่อย่างสวยงาม เป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ อาทิ หงส์ มังกร นาค นก

ส่วนวิหารโบราณถูกสร้างพร้อมกับซุ้มประตุโขง มีลักษณะสกุลช่างลำปางที่มีความงดงามอ่อนช้อย ด้านหลังมีองค์ธาตุเจดีย์ให้ได้สักการะ และด้านหน้าวัดยังมี “หอพิพิธภัณฑ์โบราณล้านนา สุวัณณะกีฏะศรัทธาสามัคคี” ภายในเก็บรวบรวมโบราณวัตถุล้ำค่าต่างๆ ไว้เป็นอย่างดี อาทิ หีบพระธรรม คัมภีร์ใบลานจำนวนมาก เครื่องใช้ในครัวเรือนโบราณ เป็นต้น ให้ได้ชมและเรียนรู้กัน

ออกจากวัดไหล่หินหลวง เราเดินทางมาที่ “วัดศรีชุม” คำว่า ศรีชุม ในภาษาเหนือ หมายถึงต้นโพธิ์ ที่นี่เป็นวัดที่มีศิลปะสถาปัตยกรรมแบบพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างในปี พ.ศ. 2433 โดยคหบดีชาวพม่า เมื่อมาถึงที่วัดเราได้เห็นถึงความงดงามอันโดดเด่นของพระวิหารที่สวยงามตระการตา ลักษณะเป็นอาคารสองชั้นครึ่งตึก ครึ่งไม้ ตัวหลังคาเป็นเครื่องไม้ยอดแหลมแกะสลักสวยงามมาก ตกแต่งคล้ายปราสาทตามศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบพม่า มีระแนงไม้ฉลุเป็นลวดลายที่มีความอ่อนช้อยประณีตเป็นอย่างมาก แต่เมื่อปี พ.ศ. 2535 ได้เกิดเพลิงไหม้พระวิหาร ทำให้เหลือเพียงไม้แกะสลักตรงซุ้มประตูทางขึ้นวิหารเท่านั้น ปัจจุบันทางวัดได้ทำการบูรณะขึ้นใหม่ และยังคงไว้ซึ่งศิลปะการแกะสลักไม้ที่งดงามเหมือนเดิม และด้านบนพระวิหารมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ให้ได้กราบขอพรด้วย

ภายในบริเวณวัดศรีชุมยังมีโบสถ์ขนาดเล็กอายุกว่าร้อยปี ที่สวยงามถูกตกแต่งด้วยลวดลายตามศิลปะแบบพม่า ด้านหน้าโบสถ์มีบันไดนาคนำเข้าสู่ตัวโบสถ์ ประตูไม้ถูกประดับทองและกระจกอย่างสวยงาม ด้านในมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ และมีพระเจดีย์สีทองอร่ามด้านหลังโบสถ์ ซึ่งมีพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากพม่าบรรจุให้ได้สักการะกัน

แล้วเดินทางมายังวัดต่อมา คือ “วัดปงสนุก” เป็นวัดเก่าแก่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาช้านาน เมื่อเดินเข้ามาภายในวัดจะได้พบกับงานพุทธศิลป์ที่ทรงคุณค่าและงดงามเป็นอย่างมาก มีวิหารพระเจ้าพันองค์ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า สร้างด้วยไม้ ลักษณะเป็นวิหารโถงทรงจัตุรมุขที่มีรูปสถาปัตยกรรมที่งดงาม ตรงกลางประดิษฐานพระพุทธรูป 4 องค์ ที่พระพักตร์แต่ละองค์หันออกไปยังทิศทั้ง 4 รอบตัวพระวิหาร ประดับด้วยพระพิมพ์องค์เล็กจำนวน 1,080 องค์ จึงเป็นที่มาของชื่อ วิหารพระเจ้าพันองค์ และวิหารหลังนี้ได้รับรางวัลจากยูเนสโกด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ในปี พ.ศ. 2551 ส่วนด้านข้างวิหารพระเจ้าพันองค์ ยังเป็นที่ตั้งของพระธาตุศรีจอมไคล องค์สีทองเหลืองอร่ามงามจับตา ที่ให้เราได้กราบขอพร และยังมีวิหารพระนอนให้ไหว้ ได้ทำบุญแบบอิ่มเอมใจ

ได้ไหว้พระขอพรที่วัดปงสนุกกันแล้ว ไปเสริมบุญกันต่อที่ “วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม” เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่อายุกว่า 500 ปี มีความสำคัญเคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตมาก่อน เมื่อมาถึงวัดจะได้เห็นพระบรมธาตุดอนเต้า เป็นพระเจดีย์องค์ใหญ่ทรงล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ด้านหน้ามีมณฑปยอดปราสาทศิลปะแบบพม่าที่งดงามเป็นอย่างมาก ประดับประดาด้วยลวดลายไม้แกะสลัก ประดับกระจกสีสวยวิจิตรงามตา และภายในมณฑปเป็นที่ประดิษฐานพระบัวเข็ม เป็นพระพุทธรูปสำริดลงรักปิดทองศิลปะแบบพม่า มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงพระเกจิอาจารย์ให้ได้กราบขอพร

และภายในวัดพระแก้วดอนเต้าฯ ยังมีวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่มีพุทธลักษณะอันงดงาม มีวิหารหลวงที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย วิหารพระเจ้าทองทิพย์ที่มีพระเจ้าทองทิพย์ศิลปะสมัยเชียงแสนโบราณประดิษฐานอยู่ แล้วก็ยังมีพิพิธภัณฑสถานแห่งล้านนา ที่รวบรวมศิลปวัตถุโบราณล้ำค่าแบบล้านนา อาทิ พระพุทธรูป สัตภัณฑ์ เครื่องถ้วยกระเบื้องต่างๆ ฯลฯ

วัดถัดมาที่เดินทางมา คือ “วัดพระธาตุเสด็จ” เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจ.ลำปาง มีตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นในสมัยพระนางจามเทวี อุโบสถและวิหารต่างๆ ซึ่งเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ ได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมดแต่ยังคงสภาพศิลปะโบราณให้เห็นได้อยู่จนปัจจุบัน กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณสถานของชาติ

ภายในวัดมีพุทธสถานที่สำคัญคือ มีองค์พระธาตุเสด็จสีเหลืองทองอร่ามงามตา เป็นเจดีย์แบบล้านนา มีลักษณะคล้ายพระธาตุลำปางหลวงแต่องค์เล็กกว่า ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ให้ได้กราบขอพร มีวิหารใหญ่ เรียกว่า “วิหารกลาง” เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อห้ามญาติ พระพุทธรูปสำริดปางลีลาองค์ใหญ่ ที่มีพุทธลักษณะงดงามแล้วก็ มีวิหารหลวง เรียกว่า “วิหารจามเทวี” ประดิษฐานพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน และมีวิหารพระพุทธ ด้านในมี “พระเจ้าดำองค์อ้วน” เป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ให้ได้กราบขอพรกัน อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่ภายในมีวัตถุโบราณทรงคุณค่ามากมายให้ได้เดินชมแบบได้ความรู้ไปในตัว

แล้วก็มากันที่วัดนี้ “วัดเกาะวาลุการาม” เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าของลำปาง ภายในวัดเกาะฯ มีสิ่งที่น่าสนใจให้ชมหลายอย่าง มีหอพระนอนที่ภายในมีพระนอนประดิษฐานให้กราบขอพร และมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์อื่นๆ ให้ได้สักการะด้วย มีพระอุโบสถลักษณะแบบไทยภาคกลาง ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือ ครูปวน สุวรรณสิงห์(ป.สุวรรณสิงห์) มีเจดีย์วัดเกาะฯ ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบพม่า มีศาลาการเปรียญ สถาปัตยกรรมแบบไทยภาคกลาง ที่เรียกได้ว่าเป็นวัดเดียวในลำปางที่มี

เดินชมวัดเกาะฯ และไหว้พระนอนจนอิ่มบุญแล้ว ก็เดินทางไปยังวัดต่อไป คือ “วัดพระเจดีย์ซาวหลัง” หมายถึง วัดที่มีเจดีย์ 20 องค์ เมื่อมาถึงที่วัดเราได้เห็นองค์พระธาตุเจดีย์ซาวหลัง ที่มีศิลปะล้านนาผสมศิลปะพม่า และข้างหมู่พระเจดีย์มีวิหารหลังเล็กเป็นที่ประดิษฐาน "พระเจ้าทันใจ" เป็นพระพุทธรูปสำริดปางสมาธิ ศิลปะเชียงแสน และที่พระอุโบสถหลังใหญ่ มีพระพุทธรูปแสนแซ่ทองคำ เป็นพระปางมารวิชัยศิลปะล้านนา เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองลำปางให้ได้สักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง

และวัดสุดท้ายที่เรามาเป็นวัดที่มีชื่อเสียงกำลังมาแรง เป็นที่กล่าวถึงความสวยงามของวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขา วัดที่ว่านี้คือ “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์” หรือชื่อเดิมเรียกว่า “วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง” ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีน เนื่องจากยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก ซึ่งเมื่อได้มาถึงวัดแล้ว จะได้พบกับภาพความงดงามของเจดีย์สีทองที่ถูกสร้างขึ้นบนภูเขาสูง และเจดีย์น้อยใหญ่ตั้งเรียงรายอยู่บนยอดเขา รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพของสายหมอกและทิวเขาสูงที่มองเห็นได้แบบ 360 องศา ที่วัดแห่งนี้ยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ให้นมัสการ และมีรอยพระพุทธบาทให้ได้สักการะกันด้วย

“ตะลอนเที่ยว” รู้สึกอิ่มบุญ เบิกบานใจเป็นอย่างมาก ที่ในทริปนี้เราได้มาตระเวนไหว้พระ และได้ชมวัดวาอารามที่มีความงดงามเป็นอย่างมากถึง 9 วัด ซึ่งถ้าหากว่าใครมีโอกาสมาแอ่วลำปาง แล้วอยากจะทัวร์ไหว้พระ เหมือนเราบ้างก็ไม่สงวนสิทธิ์แต่อย่างใด ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าเลยเจ้า

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0