โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

แอคคอร์ด ไฮบริด  ขับเองเร้าใจกว่า?

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 25 ส.ค. 2562 เวลา 02.00 น. • เผยแพร่ 25 ส.ค. 2562 เวลา 02.00 น.

ก่อนจะเล่าความมันส์ที่ไปสัมผัสก็ต้องกล่าวคำขอบคุณทาง ฮอนด้า ประเทศไทย ที่ส่งเทียบเชิญให้ลองสัมผัส Accord Hybrid TECH ตัวท็อปสุด แน่นอนพื้นเพของผมเป็นจำพวกอยู่หลังพวงมาลัยต้องขอวัดกับรถคันนั้นว่าฟิลลิ่งการขับขี่เป็นยังบ้าง ขอพาทุกท่านไปสู่ความรู้สึกในการขับรถคันนี้จะมีอะไรให้คุ้มกับค่าเงินที่จะซื้อหรือเปล่า!

ทริปนี้เป็นการเดินทางต่างขั่วจากที่ไปขับตัว Accord 1.5 turbo ที่เชียงใหม่ แต่ครั้งนี้มุ่งลงใต้ใช้เส้นทางสาย กระบี่ พังงา รวมระยะทางไปกลับ 153 กิโลเมตร ชนิดสั้นๆ และมีแบ่งการขับขี่เป็นอย่างละครึ่งทางกับ พี่โอ๋ จากรายการ Super Fast Tv ที่จะเห็นประจำทาง ททบ. 5 ได้ตกลงว่าให้พี่โอ๋เป็นผู้ขับก่อน ผมก็รับอาสาเป็นผู้นั่งจริงๆ ในระยะทางครึ่งแรก โดยช่วงแรกเป็นการขับออกจากโรงแรม เชลซี กับเส้นทางสายรองที่มีรถสวนก็ต้องใช้ความสามารถของผู้ขับนิดหน่อยมุ่งหน้า อำเภอ ทับปุด พังงา และในฐานะผู้นั่งก็ต้องขอซน พาดูภายในห้องโดยสารว่ามีอะไรตกแต่งเข้ามากันบ้าง…

บรรยากาศภายในของ Accord Hybrid TECH ให้ความรู้สึกคล้ายเจ้ารุ่น Accord 1.5 turbo อย่างมากเพราะครั้งเราไปลองที่ Accord 1.5 turbo ก็ได้ขับรถคันสีขาว ภายในดำ พอมาขับ ไฮบริด ก็ได้รถสีขาวอีก ภายในก็เลยสีดำอีกครั้ง สุดท้ายเรียกว่าไม่ต่างกันกับวัสดุที่ใช้ดูหรูหราอย่างดี อาทิ เบาะหนัง ลายไม้ที่มาเสริมรอบคัน

จะเห็นมากกว่าก็ตรงปุ่มกดและระบบต่างๆ ที่ตัวรถที่จัดมาเต็มสมกับราคาที่แพงสุด และมีการยัด Honda Sensing ที่ขาดหายไปใน Accord 1.5 turbo จนแอบน้อยใจค่ายนีอย่างแรง ขอวกกับมาเล่าต่อถึงเบาะโดยสารคู่หน้า ฝั่งด้านผู้โดยสารข้างซ้าย สามารถให้คนที่สูงเพียง 165 เช่นผม สามารถมองตรงบานหน้าหรือหันมองภายนอกด้านข้างทำได้ชัดเจนอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ถ้าใครต้องการที่เบาะนั่งปรับสูงต่ำก็ต้องเสียใจ เพราะด้านฝั่งผู้โดยสาร ฮอนด้าไม่จัดให้!!! แต่ฝั่งเบาะผู้ขับขี่ปรับได้มากถึง 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มดันหลัง 4 ทิศทาง ลืมคนนั่งไปไหม? เบาะด้านหลังขอข้ามเพราะไม่มีโอกาสได้ลองนั่ง ไม่สามารถเล่าได้ว่านั่งแล้วจะสบายขนาดไหน…

มาซนกันต่อที่คอนโซลกลางที่มีหน้าจอตรงกลางคล้ายรถยุโรปมากขึ้นที่ให้พร้อมหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch ทั้งรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri ออกตัวก่อนว่าไม่ได้ทดลองนะครับเพราะตัวผู้เขียนไม่ได้ใช้ iOS ขอข้ามไปก่อน และเมื่ออยากฟังเสียงจากลำโพง 10 จุดทั่วคัน บวกซับวูฟเฟอร์ติดรถมาให้ ฟังเสียงใช้ได้เลย แต่จะดีมากน้อยขนาดไหนยังไม่ได้ตั้งใจฟัง ขนาดจะพอบอกตำแหน่งยืนของนักร้องได้ ไว้ฮอนด้าปล่อยให้ยืมจะมาเขียนให้ฟังอีกครั้งครับ และสุดท้ายในเรื่องภายในรุ่นนี้ยังเพิ่มซันรูฟมาให้เฉพาะตัว Accord Hybrid TECH

จากที่ พี่โอ๋ได้เลี้ยวซ้ายขับเข้าสู่ถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าสู่พังงา คราวนี้ได้ลองใช้ความเร็วจากขุมพลัง Sport Hybrid i-MMD เพื่อทดสอบในช่วงแรกก็ยังทำความเร็วสูงสุดยากสักนิดเพราะจำนวนรถเพื่อนร่วมทางมากสักหน่อย จนเราขับมาถึงจุด Finish ครึ่งแรก เราก็เลยลองของจากระบบ Parking Assist System คือการใช้ถอยหลังเข้าซองเอง ทุกอย่างเหมือนจะผ่านด้วยดีตามที่ติวเตอร์จาก ฮอนด้าบอกวิธีมา

เรื่องตื่นเต้นก็บังเกิดคือรถหมุนพวงมาลัยเพื่อตั้งลำเอง ผู้ขับต้องปล่อยมือเป็นอิสระจากพวงมาลัย และคอยใช้เท้าแตะเบรกเพียงอย่างเดียว แต่ที่เกิดขึ้นจริงๆ คือในตำแหน่งรถที่ต้องตั้งลำเอง จากในรูปจะมีรถอีกหนึ่งคันจอดตรงด้านหน้าทำให้เราตัดสินใจเบรคเองดีกว่า ไม่มั่นใจว่ารถของเราจะเบรกได้เองไหมถ้าเซ็นเซอร์วัดระยะเจอสิ่งกีดขวาง

ด้วยความกลัวและไม่มั่นใจทำให้ยกเลิกระบบดีกว่า และผมต้องย้อนไปนึกคำที่ทาง หัวหน้าวิศวกร มร. เท็ตซึยะ มิยาฮะระ บอกเสมอว่า นี่คือระบบช่วยเท่านั้นนะ สุดท้ายยังต้องใช้มนุษย์ในการตัดสินใจอยู่ และเท้าเราต้องคอยช่วยเบรค อย่าเผลอเด็ดขาด

ช่วงนี้เองคือการเปลี่ยนผมรับหน้าที่ขับขี่ Accord Hybrid TECH กลับไปยังโรงแรมเชลซี อย่างที่กล่าวมาช่วงต้นเมื่ออยู่หลังพวงมาลัยความสงสัยแต่แรก Accord Hybrid TECH คันนี้จะแรงกว่า Accord 1.5 turbo แค่ไหน เมื่อได้ลองกดคันเร่งครั้งแรก โอ้ว? อัตราเร่งตอนต้นนี่ จี๊ดจ๊าดดีแท้ จริงๆ ก็คือตามสไตล์รถยนต์ที่บวกมอเตอร์ไฟฟ้านี่เอง ยิ้มมุมปากทันที ว่านี่คือการขับที่มันส์แน่ๆ อีกครั้ง ถ้าไม่ต้องเกรงใจพี่โอ๋ที่นั่งข้างๆ ผมคงเหยียบมิดแน่ๆ ครับ และเมื่อเราอยู่ในตำแหน่งคนขับขี่ทุก position ในบริเวณ ค็อกพิท คนขับได้ออกแบบไม่ว่าปุ่มกดต่างๆ มาตราวัดหน้าจอที่แสดงว่าเรากดเลือกใช้โหมดอะไร แสดงไว้ชัดเจน และในรุ่น Accord Hybrid อย่ามัวหาดูวัดรอบนะครับ เพราะไม่มีให้ดูเหมือนกัน

และในการที่เราขับออกตัวได้กระทืบคันเร่งอย่างเดียวอีกครั้ง การตอบสนองจากเกียร์ E CVT ทำได้ดีมาก และพึ่งรู้ว่านี่คือการออกแบบมาใหม่ เกียร์จะใช้มอเตอร์ถึง 2 ตัว มารวมกับตัว GEN ไฟที่ส่งผ่าน PCU แล้วกลับมาที่มอเตอร์ เพื่อไปหมุนเพลาขับ สาเหตุที่รถวิ่งได้ดี แต่เรื่องนี้ต้องยกยอดไปครั้งหน้ามาเจาะรายละเอียดเชิงลึกมาให้อ่านอีกทีครับ

มาเล่าต่อของการขับ Accord Hybrid TECH ดีกว่า ช่วงแรกขับบนถนนหมายเลข 1002 เพื่อมุ่งหน้ามาสามแยกคลองมะรุ่ย กับถนนเลนสวน จึงต้องใช้ความระมัดระวังรถที่สวนมา ทำให้ได้มีโอกาสลองช่วงแซง แต่ละจังหวะสามารถเอาตัวรอดได้ง่ายทุกครั้งที่เปิดไฟเลี้ยวขวาแซงรถคันหน้าขึ้นไป และนี่คือข้อดีของ *Accord Hybrid TECH * คันนี้เลย เพราะกดคันเร่งตอบสนองทันใจทุกครั้ง

หลังจากเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน เพชรเกษมอีกครั้ง กับระยะทางตรงยาว ผมได้ลองใช้ความเร็วชนิดที่เท้าขวาผมกดลงแป้นคันเร่งจนสุด สิ่งที่ได้มาคือความงงเพราะอะไรทำไมช่วง 130 ขึ้นไปจนถึงความเร็วแตะ 180 รอบเครื่องหรือเสียงเครื่องยนต์มันแปลกๆ ที่แท้คือมอเตอร์เข้ามารวมทำงานผสานกับเครื่องยนต์ครับ ใครที่เคยชินกับรถที่ใช้เครื่องยนต์กับเกียร์ที่ต้องมีการใช้รอบเครื่องยนต์มาช่วยขับ คงจะออกอาการส่งสัยไม่น้อยเหมือนผม แต่ก็เมื่อเคยชินก็ทำให้เราลดความรู้สึกแปลกๆ นี้ได้ แต่ช่วงความเร็วปลายแบบนี้กลับชอบ Accord 1.5 turbo เทอร์โบซะงั้นสิ รู้สึกว่ารอบปลาย เทอร์โบขับได้สนุกกว่า เร่งได้ต่อเรื่อยๆ แต่ทั้งนี้คงต้องใช้ความชอบและความเคยชินส่วนบุคคลนะครับ

ภาพรวมขอการขับขี่ถือว่าสอบผ่าน พวงมาลัยตอบสนองได้ดี แต่ก็บอกอยากเพราะถนนตรงซะส่วนใหญ่ ไว้ครั้งหน้ารีวิวเต็มๆ จะมาบอกเล่าอีกครั้ง ส่วนช่วงล่างผมกลับมีความรู้สึกใกล้เคียงกับ *Accord 1.5 turbo * อาจจะเพราะสภาพถนนที่นี่ไม่มีโค้งขึ้นลงเขาเหมือนครั้งแรก เลยจับอาการได้ไม่ชัดเจน แต่ถ้าสรุปก็ต้องบอกว่า ช่วงล่างหน้าแม็คเฟอร์สัน สตรัท กับหลังแบบมัลติลิงค์ อิสระ ของฮอนด้าไม่คอยทำให้ผิดหวังเลย มั่นใจได้ทุกครั้ง เมื่อต้องเข้าโค้งแรงๆ จะมีที่รู้สึกไม่ชอบนั่นคือเรื่องเสียงยางบดถนนดังเข้ามาในช่วงที่ถนนเก่าที่ผิวมีความหยาบ แต่พอวิ่งบนถนนที่ลาดยางใหม่จะเงียบลงมากๆ

สรุปในฐานะการขับขี่จริง

Honda Accord ทั้งสองรุ่นที่ผมได้ทดสอบขับในช่วงเวลาสั่นๆ ยอมรับว่าเป็นรถญี่ปุ่นที่ตั้งใจพัฒนาให้ใกล้เคียงรถยุโรปแต่ความที่เป็นรถญี่ปุ่นขอดีคือการบำรุงรักษาง่าย ความสะดวกสบายหรือออฟชั่นบางอย่างอาจสู้คู่แข่งลำบาก แต่ถ้าคุณต้องมาอยู่หลังพวงมาลัย เช่นนี้ จะไร้ที่ติ!! ยิ่งการขับระยะทางไกลแบบนี้ให้ความรู้สึกปลอดภัยในการขับขี่ได้ดี หายากกับรถที่เราจะรู้สึกดีและปลอดภัยทุกครั้งในเวลาขับขี่ ต้องยกความดีของการออกแบบให้รถมีขนาดที่กว้างและต่ำลง เป็นจุดที่ทำให้รถดูมั่นคงมากในการควบคุมรถ คำว่าอาการหนึบหรือนิ่มนวล ช่วงแรงแข็งหรือพวงลัยคม ท่านผู้อ่านคงต้องหาโอกาสไปลองด้วยตัวเอง

และถ้าถามว่ารถAccord 2.0 Hybrid TECH เหมาะกับใคร ผมตอบว่า คนที่ต้องการรถตอบสนองตามใจสั่ง ไม่สนว่าจะอายุมากหรือน้อย ขอเพียงคุณต้องการรถที่พาคุณไปตามใจที่ต้องการ รถคันนี้คือคำตอบมากที่สุด แต่ถ้าถามราคาหรือความคุ้มค่าไปเปรียบคู่แข่ง หรือคุ้มไหมเทียบซีวิคที่มีอะไรให้มากกว่า? ผมคงตอบได้ว่าไม่มีอะไรจะได้ครบทั้งหมด แต่ประเด็นเดียวคุณต้องการความรู้สึกถึงความปลอดภัยรถคันนี้เป็นคำตอบที่ผมเชื่อใจ

รุ่นและราคา ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่

  • รุ่นHYBRID TECH ราคา1,799,000 บาท
  • รุ่นHYBRID ราคา1,639,000 บาท
  • รุ่นTURBO EL ราคา1,475,000 บาท

ไว้มาต่อตอนที่สองกับรายละเอียดของตัวรถมีอะไรที่น่าสนใจจากทั้งสามรุ่น และระบบ

เรื่อง: ธวัชชัย พิชิตรณชัย

E-mail : tawatchai@nationgroup.com

Facebook https://www.facebook.com/AeyTawatKomchadluek/

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0