ศูนย์การเรียนรู้แหล่งใหญ่ทางอีสานใต้ นักเรียนต่างแห่มาเยี่ยมชมเสริมสร้างประสบการณ์งานทางด้านการเกษตร บนเนื้อที่กว่า 250 ไร่ ของอุทยานดอกไม้ เพลาเพลิน ตั้งอยู่ที่ ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ห่างจากตัวอำเภอเมืองมาประมาณ 32 กิโลเมตร
พรทิพย์ อัษฎาธร กรรมการผู้จัดการโครงการ เพ ลา เพลิน มุ่งเน้นการทัศนศึกษาถือเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาในการเรียนรู้แบบยั่งยืน เพราะสามารถทำให้ได้รับความรู้และประสบการณ์โดยตรง ซึ่งในพื้นที่ภาคอีสานใต้นั้นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงการศึกษายังไม่มี จึงสร้างเพ ลา เพลิน ขึ้นมาเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเป็นแหล่งเรียนรู้ควบคู่ด้วย
พรทิพย์ เจ้าของกิจการ เพ ลา เพลิน เผยว่า จัดเนื้อที่กว่า 250 ไร่ จุดมุ่งหมายหลักเพื่อพัฒนาผู้เรียนนอกห้องเรียนที่จะเสริมสร้างและเติมเต็มความรู้ เพื่อเตรียมตัวให้เด็กในภาคอีสานมีความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการ AEC ในปี พ.ศ.2558 เป็นแหล่งพักผ่อน แหล่งเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบ แห่งเดียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ให้กับเด็กๆ ซึ่งโครงการเพ ลา เพลินได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเด็กๆ และบุคคลทั่วไป เราจึงตัดสินใจที่จะเริ่มโครงการที่ 2 เพื่อพัฒนาและต่อยอดความรู้ทางด้านพันธุ์พืช ศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์โลกให้กับเด็กๆ และบุคคลทั่วไป นั้นคือ "โครงการอุทยานไม้ดอก เพ ลา เพลิน"
อิศรา สราญฤทธิไกร ผู้จัดการดูแลอุทยานดอกไม้ เพ ลา เพลิน สิ่งที่ภาคภูมิใจของเพ ลา เพลิน ทางโครงการได้นำพันธุ์ไม้ดอกทิวลิป จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นดอกไม้ในเมืองหนาว มาปลูกในเขตอากาศร้อน โดยการควบคุมของนักวิชาการเกษตร ตรวจวัดอุณหภูมิ ห้องเก็บเมล็ดพันธุ์ควบคุมความเย็น เมื่อผลผลิตเริ่มงอกออกมา ก็จะมีเรือนเพาะชำขนาดใหญ่ใช้ระบบคูลลิ่งแพด วางแผงน้ำไหลในเหล็กรังผึ้ง อีกด้านจะใช้พัดลมดูดความร้อนออกจากโรงเพาะชำจะทำให้มีอุณหภูมิในโรงเรือนโดยเฉลี่ย 25 องศาเซลเซียส ดอกไม้จะมีความชุ่มชื้นอยู่คงทนได้นาน
ด้วยความโชคดีของเพ ลา เพลิน ที่พื้นดินเมื่อขุดลงลึกลงไปประมาณ 1-2 เมตร ก็จะพบแหล่งน้ำวัดค่า PH 5.5 เหมาะสำหรับการปลูกพืชผลทางการเกษตร ในพื้นที่ 250 ไร่ เราใช้คนงานโดยส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ 120 คน และมีนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาดูพืชผลผลิต สวนผลไม้และสวนดอกไม้ พื้นที่ส่วนหนึ่งจะใช้ปลูกสตรอเบอรี่ มีทั้งหมด 6 หมื่นต้น ได้ผลผลิต 1 แสนลูกต่อเดือน คัดแยกแล้วจะนำมาจำหน่ายกิโลกรัมละ 350 บาท สร้างอาชีพสร้างงานให้คนในชุมชน ในช่วงฤดูร้อนทางโครงการจะปรับเปลี่ยนมาปลูกต้นลิลลี่ ขณะนี้อยู่ในเรือนเพาะชำเตรียมนำมาออกแสดงแทนดอกทิวลิป ตามมาด้วยสวนทุ่งดอกกระเจียว ไร่องุ่น ไร่เสาวรส อะโวคาโด และฟักทองหวานญี่ปุ่น
ขณะเดียวกัน "อุทยานไม้ดอก เพ ลา เพลิน" เป็นที่ตั้งของโรงเรือน 7 หลัง ที่ถูกใช้เป็นที่จัดแสดงพันธุ์ไม้ดอกนานาพันธุ์ให้ได้ชมและที่อุทยานไม้ดอกแห่งนี้ จัดแสดงเฟิร์นนานาสายพันธุ์ จำลองบรรยากาศภายในให้เป็นป่าดึกดำบรรพ์ จัดแสดงพืชในตระกูลสับปะรดสี โดยนำพืชมาตกแต่งภายใต้แนวคิดสีสันธรรมชาติ มีมุมถ่ายรูปที่สวยงามอยู่หลายมุมด้วยกัน จัดแสดงกล้วยไม้นานาพันธุ์ คอนเซ็ปต์ตกแต่งมีรูปปั้นกินรีตามวรรณคดีไทย จัดแสดงพืชเขตร้อน เช่น ตะบองเพชรชนิดต่างๆ ในบรรยากาศแบบทะเลทรายให้ได้ชม แสดงดอกหน้าวัวพันธุ์ต่างๆ พร้อมบรรยากาศวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบอีสาน
สำหรับศูนย์การเรียนรู้เชิงการเกษตรเต็มรูปแบบ ที่รอให้นักเรียนและนักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสและเรียนรู้ เกี่ยวกับความรู้ด้านการเกษตรที่ผ่านการวิจัยและทดลองจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นองค์ความรู้ให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคอีสาน รวมถึงบุคคลทั่วไปที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องราวการเกษตรได้อย่างเพลิดเพลิน ถือว่าเป็นอุทยานไม้ดอกแห่งแรกในเขตพื้นที่ภาคอีสานใต้อีกด้วย
เรื่อง/ภาพโดย : อาทิตย์ ชินวงศ์
