โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

'แหลม'เหน็บ'เอสตราด้า'ตัวสั่น วิตกเปาจังโก้โผล่ให้แต้ม

เดลินิวส์

อัพเดต 26 เม.ย. 2562 เวลา 06.26 น. • เผยแพร่ 26 เม.ย. 2562 เวลา 06.01 น. • Dailynews
'แหลม'เหน็บ'เอสตราด้า'ตัวสั่น วิตกเปาจังโก้โผล่ให้แต้ม
“เสี่ยฮุย” ลั่นยังมั่นใจ ศรีสะเกษ ย้ำแค้น มีวิตกเรื่องเดียว รายชื่อกรรมการให้คะแนนดันมีโผล่มาเป็นกรรมการจากเม็กซิโกชาติเดียวกับ เอสตราดา 1 ราย ขณะที่ ศรีสะเกษ ชี้แม้ เอสตราดา ทำซ่าเบ่งกล้ามโชว์ และเอาหัวชนตอนถ่ายรูปจ้องหน้ากัน แต่มีอาการตัวสั่นกลัวเห็นได้ชัด

ความเคลื่อนไหวศึกรีแมตช์หยุดโลก "ศรีสะเกษ-เอสตราดา"  ซึ่ง"เจ้าแหลม"ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น จะขึ้นป้องกันแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115ปอนด์) สภามวยโลก (WBC) สมัยที่ 2 ไฟต์ที่ 4 เป็นไฟต์บังคับกับคู่ปรับเก่า และรองแชมป์โลกอันดับ 1 ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา นักชกเม็กซิกัน ในวันที่ 26 เม.ย. นี้ ตรงกับเช้าวันที่ 27 เม.ย.นี้ ตามเวลาของประเทศไทย  ที่สังเวียน เดอะ ฟอรัม, อิงเกิลวูด, นครลอสแอนเจลิส,สหรัฐอเมริกา ช่อง 23 เวิร์คพอยท์ ยิงสดกลับไทย ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป หลังจากที่ “เจ้าแหลม” เคยเอาชนะคะแนน เอสตราดา อย่างดุเดือดบนสังเวียนแห่งนี้เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ปีที่ผ่านมา และยก 12 ได้รับการยกย่องจาก WBC ให้เป็นยกยอดเยี่ยมแห่งปี 2018 ของ WBC

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นในนครลอสแอนเจลิส ซึ่งตรงกับเช้ามืดวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามเวลาเมืองไทย ทาง เอ็ดดี  เฮิร์น จากแมตช์รูม บ็อกซิ่ง ยูเอสเอ โปรโมเตอร์ศึกนี้ ซึ่งใช้ชื่อศึก “เดอะ รีแมตช์” ร่วมกับดาโซน ยักษ์ใหญ่การถ่ายทอดสดกีฬา ผู้จัดศึกนี้ ได้จัดให้มีพิธีการชั่งน้ำหนักศึกนี้อย่างเป็นทางการ ที่โรงละครเบลาสโก เธียเตอร์ ในย่านดาวทาวน์ นครลอสแอนเจลิส,สหรัฐอเมริกา  มีคู่มวยทั้งหมด 10 คู่ที่ร่วมชกในศึกนี้ร่วมทำการชั่งน้ำหนักทั้งหมด นำโดย ศรีสะเกษ และ เอสตราดา ที่ชกเป็นคู่เอกของรายการ และคู่รอง แดเนียล โรมัน นักชกสหรัฐ แชมป์โลกรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวต (122 ปอนด์) สมาคมมวยโลก (WBA) ชกล้มแชมป์กับ ทีเจ โดเฮอร์นี  นักชกออสเตรเลีย เชื้อสายไอร์แลนด์ แชมป์โลกรุ่นเดียวของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF)  โดยมี เจสซี วาร์กัส อดีตแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวต(147 ปอนด์) องค์กรมวยโลก (WBO)  ผู้เคยปะทะกับ แมนนี ปาเกียว มาแล้ว ชกเป็นคู่ค้ำกับ ฮุมเบอร์โต โซโต นักชกจอมเก๋าจากเม็กซิโก ท่ามกลางสื่อมวลชนต่างประเทศ มารอทำข่าวกันคึกคักเนืองแน่น

สำหรับ ศรีสะเกษ นั้น ในฐานะคู่เอกของรายการ ขึ้นชั่งเป็นคู่สุดท้าย พร้อมกับมีการเปลี่ยนพิธีกรในการชั่งน้ำหนักมาเป็น ไมเคิล บัฟเฟอร์ พิธีกรมวยโลกดัง มาทำหน้าที่เป็นพิธีกรแนะนำตัวนักชก และประกาศผลการชั่งน้ำหนัก โดย เอสตราดาใส่กางเกงในบ็อกเซอร์ตัวเดียวขึ้นชั่งก่อน ท่ามกลางเสียงตะโกนเชียร์ของแฟนมวยเม็กซิกัน ปรากฏว่าเหยียบตาชั่งครั้งเดียวผ่าน ได้พิกัด 114.6 ปอนด์ จากนั้น ศรีสะเกษ สวมกางเกงในบ็อกเซอร์สีดำตัวเดียวขึ้นเหยียบตาชั่งครั้งเดียวผ่านได้ 114.2 ปอนด์ ทำให้ทั้งคู่ชั่งผ่านพิกัดรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์สบาย ต่ำกว่าพิกัดทั้งคู่ โดย เอสตราดา นั้นทำคึกคัก เบ่งกล้ามโชว์มัดกล้ามแน่นเปรี๊ยะ โดยเฉพาะแผ่นปีกหลัง และซิกแพ็คหนาปึ๊ก ขณะที่ ศรีสะเกษ เบ่งกล้ามโชว์แบบเรียบ ๆ ไม่หวือหวา แต่แสดงสีหน้ามั่นใจเช่นกัน  ซึ่งหลังชั่งเสร็จ ศรีสะเกษ ทั้งคู่มายืนประชันหน้ากัน มองหน้ากันตาต่อตา จ้องกันตาไม่กระพริบ ให้สื่อถ่ายรูป เอสตราดา ทำซ่าถึงกับยื่นหัวเอาหน้าผากมาชนกับหน้าผากของ ศรีสะเกษ แล้วจ้องตา ซึ่ง ศรีสะเกษ ก็จ้องตอบไม่หวั่นไหว เสร็จแล้วจึงจับมือแยกย้ายกัน โดยก่อนจาก เอสตราดา ยังทำท่าชกลมโชว์ให้กองเชียร์ดูอีกว่ามั่นใจสุดขีด กระหายขึ้นเวที แต่ ศรีสะเกษ ดูนิ่งสงบและเก็บอาการได้ดีกว่า

หลังจากผ่านตาชั่ง ศรีสะเกษ รีบเรียกความสดชื่นคืนทันที ด้วยน้ำเกลือแร่ ตามด้วยไข่ต้ม รังนก และแบรนด์ซุปไก่  แล้วให้สัมภาษณ์สื่อไทยในลอสแอนเจลิสที่มารอทำข่าวสั้น ๆ ว่า ไฟต์นี้มั่นใจเกินร้อย จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ป้องกันเข็มขัดแชมป์โลกไว้ให้ได้ ขอให้แฟนมวยชาวไทยในสหรัฐอเมริกาช่วยมาเชียร์กันเยอะ ๆ ด้วย ก่อนที่จะรีบออกจากเบลาสโก เธียเตอร์ ไปขึ้นรถเก๋งกลับโรงแรมที่พักทันที พร้อมด้วยเทรนเนอร์คู่ใจ “โค้ชป็อป” โชคชัย พิสิฐวุฒินันท์ เพื่อรีบไปพักผ่อนเตรียมเรี่ยวแรงไว้ทำศึก ขณะที่ผู้จัดการ “เสี่ยฮุย” นายสุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ต้องเข้าไปประชุมกฏกติกาการชกร่วมกับ WBC และคณะกรรมาธิการกีฬามวยรัฐแคลิฟอร์เนีย ต่อทันที

ด้านผู้จัดการ “เสี่ยฮุย” ได้เปิดเผยว่า จากการประชุมกติกานั้น การชกนสหรัฐอเมริกาต้องใช้กฏหมายมวยของรัฐนั้น ๆ ซึ่งการชกในรัฐแคลิฟอร์เนีย ครั้งนี้ ศรีสะเกษ ที่ยังมีราคาถูกยกให้เป็นต่ออยู่ในสหรัฐ ต้องขึ้นเวทีทางมุมน้ำเงิน ที่ให้มวยที่เป็นต่อขึ้นเวทีทางมุมน้ำเงินทั้งหมด ส่วนมวยรองขึ้นเวทีทางมุมแดง ขณะที่กฎกติกาการชกที่แตกต่างกับ WBC มีที่สำคัญ 3 เรื่อง คือไม่มีการแจ้งคะแนนระหว่างยก ผิดกับกติกาของ WBC ที่จะแจ้งผลคะแนนเมื่อผ่านไป 4 ยก และ 8 ยก ขณะเดียวกัน การชกใต้เข็มขัดโดยไม่ตั้งใจ จะไม่ถูกตัดคะแนน แต่จะให้นักมวยที่บาดเจ็บมีเวลาพัก 5 นาที ถ้าไม่สามารถชกต่อได้ ก็จะถูกจับแพ้ทันที ผิดกับ WBC ที่จะมีการเตือนและตัดคะแนน หรือร้ายแรงถึงขั้นจับแพ้ฟาวล์ นอกจากนั้นการเกิดแผลแตกโดยหัวชนโดยอุบัติเหตุนั้น จะไม่มีการตัดคะแนน แต่ WBC นั้นจะตัดคะแนนคนที่ไม่มีแผลแตก

ขณะเดียวกัน “เสี่ยฮุย” กล่าวอีกว่า ผ่านการชั่งน้ำหนักแล้ว เห็นรูปร่างของ เอสตราดา ก็ไม่หนักใจ ยังมั่นใจเช่นเดิมว่า ศรีสะเกษ จะย้ำแค้นเป็นฝ่ายชนะป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ เมื่อเทียบกันแล้วในตอนเผชิญหน้ากัน ศรีสะเกษ ยังดูใหญ่กว่า แต่ที่น้ำหนักหายไปเยอะ เพราะก่อนชั่ง 1 วัน ลดมากไปนิด แต่จริง ๆ แล้วน้ำหนักตัวก็พอกัน เพราะ ศรีสะเกษ ถูกขานน้ำหนักตอนที่จังหวะเข็มยังไม่นิ่ง และ ศรีสะเกษ ยังบอกด้วยว่า เอสตราดา ที่ประกาศจะชะน็อกมาตลอด มีอาการสั่น เก็บอาการไม่อยู่ จนต้องรีบเอาหน้าผากมาชนแก้เก้อ แสดงว่ายังหวั่น ศรีสะเกษ อยู่เช่นกัน ทำให้นักชกไทยยิ่งมีความฮึกเหิมเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามในตอนนี้มีวิตกเพียงเรื่องเดียว คือคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ตัดสินในศึกนี้นั้น ซึ่งกรรมาธิการมวยรัฐแคลิฟอร์เนีย เลือกมาทำหน้าที่นั้น แจ้งว่ามีกรรมการให้คะแนนจากสหรัฐและแคนาดานั้น  แต่ปรากฏว่าหนึ่งในกรรมการให้คะแนนคือ อเลจานโดร โรชิน นั้น เป็นชาวเม็กซิกัน ที่โอนสัญชาติเป็นสหรัฐอเมริกา เกรงว่าจะตัดสินเอนเอียงไปทางนักชกชาติเดียวกันคือ เอสตราดา โดยกรรมการที่ทำหน้าที่ศึกนี้ทั้งหมด ได้แก่ มร.ปีเตอร์ อับดุล ทำหน้าที่สักขีพยาน,เอ็ดเวิร์ด โคลลานเตส จากสหรัฐ เป็นกรรมการห้ามบนเวที และกรรมการให้คะแนนได้แก่ อเลจานโดร โรชิน จากเม็กซิโก, เครก เมคาลเฟ จากแคนาดา และ เจอรัลด์ ริตเตเตอร์ จากสหรัฐ เป็นกรรมการชายทั้งหมด

ส่วนอัตราต่อรองก่อนชกของร้านรับแทงพนันถูกกฏหมายในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะที่ลาสเวกัส ชาวไทยในลาสเวกัส แจ้งว่า บ่อนยังยกให้ ศรีสะเกษ เป็นต่อ เอสตราดา อยู่ แต่ราคาสูสีเหลือระดับ 11-8 เท่านั้น นอกจากนั้นมวยคู่นี้ทางสภามวยโลก (WBC) แจ้งด้วยว่า ทั้งคู่ต้องทำตามกฏการคุมน้ำหนักใหม่ของ WBC คือ 30 วันก่อนชก น้ำหนักเกินพิกัดได้ 30%,14 วันก่อนชก เกินได้ 5%,7 วันก่อนชกเกินพิกัดได้ไม่เกิน 3% และวันชก น้ำหนักต้องเกินพิกัดไม่เกิน 10% ทำให้ทั้งคู่ต้องชั่งน้ำหนักตัวอีกครั้งในห้องแต่งตัวนักมวยก่อนขึ้นเวทีทำศึก

 

 

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0