โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

แหม่ม วิชุดา ถูกหลอกเจอพิษทำศัลยกรรมหวิดเสียโฉม (คลิป)

ไทยรัฐออนไลน์ - บันเทิง

อัพเดต 20 ม.ค. 2563 เวลา 10.10 น. • เผยแพร่ 20 ม.ค. 2563 เวลา 10.10 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

เป็นอีกคนที่ยืดอกยอมรับว่าไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี สำหรับ แหม่ม วิชุดา พินดั้ม แต่งานนี้กว่าจะสวยเป๊ะเหมือนที่ใครหลายคนเห็น ต้องบอกเลยว่า สาวแหม่มหวิดเสียโฉม เพราะเจอพิษทำศัลยกรรมจากทั้งในไทยและที่เกาหลี โดยสาวแหม่มได้มาเปิดใจพูดคุยแบบหมดเปลือกในรายการ ตัวแม่มาแล้ว ทางช่องไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ว่า

ไม่คิดจะแต่งงานบ้างเหรอ?
ไม่อ่ะ เป็นคนไม่ชอบโมเมนต์แบบขอแต่งงาน ไม่ชอบ บอกแฟนว่าอย่าทำแบบนี้ ไม่เซอร์ไพรส์แบบนี้ ไม่ชอบ ไม่เอา อย่าทำ

แฟนว่าอย่างไรไปทำศัลยกรรม?
ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ชอบให้ผู้หญิงไปทำศัลยกรรม จะบอกว่าแบบนี้ก็สวยอยู่แล้ว ชอบแบบนี้อยู่แล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าไปทำอะไร บอกว่าจะไปเยี่ยมน้องที่เกาหลี เค้าไม่รู้ว่าเราจะไปทำดึงหน้าชุดใหญ่ขนาดนั้น

ทำมาทั้งหมดกี่ครั้ง?
ถ้าเป็นเกาหลีก็ 4 รอบ ยังไม่นับเมืองไทย

หมดค่าหน้าไปเท่าไหร่?
เฉพาะเกาหลีก็ประมาณ 3 ล้านกว่า คือตอนแรกไม่คิดว่าจะทำศัลยกรรมอะไรเลย ตอนสาวๆ คนชอบทักว่าคางสั้น ต้องเติมคางอีกนิดถึงจะสวย แต่เราไม่ได้คิดอะไร พอช่วงอายุ 26 เพื่อนสนิทก็มาบอกว่ามีแบบฉีด ถ้าไม่ชอบก็ดูดออก เราเคยรู้แค่ว่าถ้าทำคางมันต้องกรีดยัดนั่นนี่ใหญ่โต ก็เลยไปทำคางที่ไทย ทำออกมาสวย ยาวออกมานิดๆ กำลังดี

1 เดือนผ่านไป มันเป็นเหมือนหยดน้ำลงมาตรงปลายคาง เค้าบอกว่าเป็นแอนตี้บอดี้ เอาออกได้ ก็บอกให้ดูดออกให้หมดนะ ผ่านไป 1 เดือนเป็นอีก กลับไปด่าหมอเลย เป็นคลินิกดังด้วยไม่ใช่หมอกระเป๋า หลังจากที่ไปเอาออกมาไม่ถึงอาทิตย์ มีข่าวว่าหมอคนนี้ฆ่าลูกค้าตาย ตอนนี้ก็ขอชีวิตไว้ก่อน คางไม่ต้องแก้ ก็ต้องหยุด ถ้าโวยวายเยอะๆ ศพต่อไปอาจจะเป็นเรา

ก็เลยหยุดไป 9 ปี แต่หลังจากนั้นก็มีอารมณ์เหมือนฉีดโบท็อกซ์ คงไม่ใช่เรื่องรุนแรงอะไร ก็เริ่มกลับเข้ามาสู่วงการศัลยกรรมด้วยการฉีดโบท็อกซ์ หมอมือเบา โบท็อกซ์ฟิลเลอร์เก่ง เค้าบอกว่าตรงคางมันเป็นพังผืด บุ๋มๆ ลงไป หมอบอกให้เติมหน่อยจะได้สวย แต่เราไม่เอา แต่ด้วยความที่ไปฉีดกับหมอบ่อยๆ เริ่มไว้ใจก็เลยยอม ฉีดฟิลเลอร์อีกรอบ ออกมาสวย ก็เลยจะให้หมอคนนี้เป็นหมอประจำ

หลังจากนั้นหมอทักว่าใต้ตาลึก ฉีดไขมันตัวเองเข้าใต้ตา ก็เลยไว้ใจหมอ เอาไขมันจากขามาฉีด ปรากฏว่าผิดพลาด พอเกิดเหตุการณ์หมอก็ไม่คุยกับเราเลย เค้าก็มาฉีดสลาย แต่ฉีดสลายก็ไม่หมด ก็เลยพักไปเกือบ 1 ปี หยุดทุกอย่าง ไม่ทำอะไรเลย ไม่กล้าไปหาหมอที่ไหนอีกแล้ว

แต่สุดท้ายก็มีเป้าหมายจะไปเกาหลี ถ้าพลาดก็จะไม่หยุด จะทำจนกว่าจะหาย หาข้อมูลเยอะมาก ไปทำโรงพยาบาลแรกที่เกาหลี จะแก้ใต้ตา และร้อยไหมถาวร ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก มูลค่าประมาณ 5 แสนกว่าบาท แต่ไปถึงรู้สึกแปลกๆ เป็นห้องผ่าตัดแบบแชร์ ก็คิดว่าที่เกาหลีคงแพง เดินผ่านเขากำลังกรีดตา พยาบาลก็ดันหน้าเราไปอีกทางไม่ให้มอง

ขึ้นเตียงนอนพยาบาลทาเบตาดีน สักพักก็หลับไปเลย ไม่มีวิสัญญีแพทย์ ตื่นมาได้ก็เก่งมากแล้ว ห้องพักบอกเตรียมห้องวีไอพีให้นอนพัก มี 2 เตียง ห้องเล็กๆ ก็ยังคิดบวกว่าที่เกาหลีแพงก็เลยขนาดเท่านี้ พอกลับมาเจอแจ็กพอตเลย โบท็อกซ์ที่ว่าฉีดให้ หน้าก็ยังยับอยู่ ยังเป็นรอยย่น กลับมาเกือบเดือนโบท็อกซ์ก็ยังไม่ออกฤทธิ์

ก็ถามเค้าว่าฉีดโบท็อกซ์ให้เรามั้ย แล้วใต้ตาที่ทำให้ก็ยังเหลือลอดช่องอยู่ ก็ไม่หาย ไหมที่บอกว่าร้อยถาวร หน้าก็ไม่ขึ้น ยังย้อยเหมือนเดิม หมดไป 5 แสนกว่าบาทไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ไม่เฟล ก็จะแก้ให้หาย กลับมาไม่ถึง 6 เดือน หาเอเจนซี่ใหม่ ไม่ท้อแล้ว

อีก 6 เดือนก็ไปใหม่ รอบนี้หาคนรู้จัก คนรู้จักหน้าจะไม่หลอกเรา ก็ติดต่อเค้า พอไปรอบสอง เห็นความแตกต่างของโรงพยาบาล ทุกอย่างทันสมัย ห้องวีไอพีจริงๆ ห้องผ่าตัดเดี่ยวๆ มีวิสัญญีแพทย์ ก็เห็นข้อเปรียบเทียบของ 2 โรงพยาบาล พอได้คุยกับหมอ หมอบอกถ้าไม่กรีดเมื่อ 6 เดือนก่อน ก็ยังมีวิธีแก้ แต่ถ้าจะทำเลย ตามันจะปลิ้น ลอดช่องต้องพักก่อน หมอก็ค่อยๆ ทำให้

ก็เลยทำหมดเเลย ดึงหน้า ปลูกผม ใช้ผมตรงกลางศีรษะ ยกมาทั้งแถบ ตัดมาทั้งแถบแล้วขึ้นทีละเส้น ท้ังหมด 3 พันเส้น อยู่ในห้องผ่าตัดประมาณ 10 ชั่วโมง ยอมรับว่าเจ็บ เพราะเวลานอนต้องนั่งนอนเนื่องจากดันไปดึงหน้าพร้อมกับปลูกผม ไม่รู้จะนอนยังไง

ส่วนดึงหน้าก็ดึงแบบมินิ เค้าจะเลาะตามกรอบหูมาแล้วยกกระชับกล้ามเนื้อ เอาไขมันส่วนเกินออก แล้วเอาผิวหนังส่วนเกินออก ส่วนไหมที่หมอแรกบอกว่าร้อยไหมถาวรให้ มันไม่มี เค้าโกหก เค้าร้อยไหมละลายซึ่งราคามันถูกกว่ากันเยอะ เมืองไทยก็มี

6 เดือนผ่านไปก็ไปเช็กอัพ ใต้ตายังทำไม่ได้ ก็เลยดูดไขมัน แต่สิ่งที่ทึ่งคือหมอบอกว่า ไขมันที่หน้าท้องถ้าดูดอันตราย เพราะมันมี 2 แบบ ดูดผิดท้องจะเสียทรง แล้วก็ทำผิวให้ชุ่มชื้น ตอนนี้มีแค่ฟันที่ยังไม่ได้ทำ อยากจะดัดฟัน ใครจะว่าแหม่มบ้าก็ว่าได้ มันไม่ใช่ข้ออ้าง ถ้าเราทำรอบแรกแล้วมันจบตั้งแต่แรก ก็ไม่ต้องมีรอบที่ 2 รอบที่ 3 เกิดขึ้น รอบล่าสุดที่ไปดูดไขมัน หมอก็บอกให้หยุด ไม่ให้ทำหน้าแล้วนะ ให้พอ

กลัวคนมองว่าเสพติดศัลยกรรมมั้ย?
มันแปลได้หลายความหมายมาก ต้องถามคนที่ถามเราว่าความหมายของเค้าคืออะไร แต่ละคนมองไม่เหมือนกัน แหม่มไม่ได้รู้สึกจะตายถ้าไม่ได้ทำศัลยกรรม ตอนนี้เหลือแค่รูปร่างที่รู้ว่าจะต้องออกกำลังกาย

เจตนาที่มาเล่าเรื่องการทำศัลยกรรมที่ผิดพลาดของแหม่มคือต้องการให้มันเป็นประโยชน์กับคนที่ไม่เคยทำศัลยกรรมเลยแล้วสนใจ กับคนที่ทำแล้วแต่เกิดข้อผิดพลาด เรามีเจตนาที่ดี ที่จะมาบอกให้ฟัง คนที่ไม่สนใจในเรื่องของการทำศัลยกรรม แหม่มไม่อยากให้เค้ามองคนที่ทำศัลยกรรมเป็นตัวประหลาด เป็นตัวตลก บูลลี่เค้า

คนสมัยนี้คิดดังผ่านตัวหนังสือ เราไม่อยากให้คนมาดูถูกความชอบของคนอื่น เพราะฉะนั้นเจตนาดีของเราครั้งนี้ก็หวังว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นทั่วๆ ไป อยากให้ทุกคนมองให้กว้างขึ้นว่าความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่อยากให้คนมาวิจารณ์คนที่ทำศัลยกรรมในทางที่เสียหายหรือว่าลบ

จะทำอะไรเพิ่มอีกมั้ย?
ไม่แล้ว จะออกกำลังกาย ดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร นอนพักผ่อนให้เพียงพอ หมอบอกให้หยุดแล้ว.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0