นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ตอบโต้นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. กรุงเทพฯพรรคเพื่อไทย ว่า “นายจิรายุฯ ได้อภิปรายในสภาฯ เพื่อที่จะกล่าวหาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่ารัฐบาลดีแต่กู้เงินจำนวนมากและตั้งฉายาว่า “ลุงตู่นักกู้แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา” ซึ่งเรื่องนี้ขอยืนยันว่า การกู้มาเพื่อใช้หนี้ใช้สินจากการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เอาเงินมาใช้หนี้ให้ชาวนา และหนี้สินอื่นๆ ที่รัฐบาลในอดีตสร้างหนี้ไว้มากมาย และยังต้องใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่เดือดร้อน เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงในวิฤตโควิด-19
ซึ่งประชาชนที่ฟังการอภิปราย ฝากมาบอกนายจิรายุว่า ” ลุงตู่กู้เพื่อมาช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง ไม่เคยคิดทุจริตเงินภาษีของพี่น้องประชาชนแม้แต่บาทเดียว ทุกบาททุกสตางค์เพื่อประเทศชาติประชาชน มุ่งมั่นดูแลอย่างทั่วถึง ถ้าจะเป็นนักกู้ ก็กู้อย่างจำเป็นและมีเหตุผล กู้เพื่อดูแลประชาชนคนไทย ดีกว่า “นักโกงแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา” ที่บางคนกู้มาโกงแล้วต้องหลบหนีไปแสวงหาความสุขส่วนตัวอยู่แดนไกล แต่กลับทิ้งๆ ขว้างๆ ปล่อยลูกน้องให้ติดคุกติดตะรางโดนคดีมากมายหลายคน ชีวิตครอบครัวบ้านแตกสาแหรกขาด จนเดือดร้อนกันไปทั่ว” นายจิรายุฯ ทำไมไม่สร้างละครหรืออภิปรายในสภาฯ แฉถึง”นักโกงแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา” บ้าง
ส่วนกรณีนายจิรายุฯ เสนอให้นายกฯ เชิญนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นคณะกรรมการกลั่นกรองพรก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทนั้น ส่วนตัวนายกรัฐมนตรี ไม่เคยคิดว่านายทักษิณเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง นายกฯ ไม่เคยโกรธแค้นส่วนตัวอะไรนายทักษิณ แต่ในความคิดเห็นของตน ต้องถามกลับนายจิรายุว่า ก่อนจะเชิญนายทักษิณมาเป็นกรรมการกลั่นกรองชุดนี้ที่นายจิรายุอยากตั้งขึ้นมา นายจิรายุได้พูดคุยปรึกษาหารือกับนายทักษิณตกลงกันเรียบร้อยแล้วหรือยังไม่ทราบ ถ้าตกลงกันได้แล้ว ตนอยากให้นายจิรายุฯ เชิญครบทั้งสามคนเลย ทั้งนายทักษิณ นางสาวยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภา เชิญทั้งสามคนมาให้ครบทีม เป็นกรรมการตามที่คุณจิรายุต้องการ แต่ตนไม่แน่ใจว่า งบประมาณแผ่นดินจะถูกบริหารไปถึงมือประชาชนหรือไม่
