แรนดี เพาซ์ ศาตราจารย์ ด้าน ศาสตราจารย์วิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน ในสหรัฐอเมริกา เขาถูกตรวจพบว่า เป็นมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้าย ซึ่งคุณหมอวินิจฉัยว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงปี เขามีภรรยาและลูกเล็กๆที่น่ารักอีก 3 คน
แต่เขาเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความตายอย่างมีความสุข
ประจวบเหมาะกับการที่เขาได้รับการติดต่อให้ขึ้นบรรยายในหัวข้อชื่อว่า “The last lecture” ซึ่งศาตราจารย์ทุกคนจะได้รับเชิญมาปาฐกถา โดยเป็นเรื่องที่ให้เราทุกคนเตรียมตัวคิดถึงเรื่องความตายของตัวเอง
แต่แรนดี้ เพาซ์ ไม่จำเป็นต้องจินตนาการหรือคิดมากก่อนการบรรยาย เพราะเขากำลังเผชิญหน้าอยู่ใกล้ความตายในชีวิตจริง
การบรรยายของเขาเต็มไปด้วยความสนุกและเสียงหัวเราะ เขาต้องการที่จะถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาของเขา โดยเขาไม่ได้เอ่ยถึงวิธีการรับมือสำหรับผู้ที่เป็นมะเร็ง
แต่เขาจุดประกาย และสร้างแรงบันดาลใจสำหรับการใช้ชีวิต สอนให้เราเห็นว่า เราควรใช้ชีวิตอย่างไรให้คุ้มค่าและมีคุณค่า อีกทั้งยังสอนให้เราทุกคนไม่ประมาทกับความตายที่จะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้อีกด้วย
มี 3 หัวข้อที่ขอแบ่งปันคือ
1. หากเราเจอกับเหตุการณ์ร้ายๆที่เกิดขึ้น
เรามักจะคิดว่าเหตุการณ์เป็นตัวกำหนดระดับความร้ายแรงที่เกิดขึ้น
แต่ความจริงแล้ว ตัวเราต่างหากที่เป็นคนกำหนดระดับความรุนแรง เพราะเมื่อเรามีสติ เราก็จะมองปัญหาตามที่เป็นจริง และพยายามแก้ไขมัน เมื่อใดก็ตามที่เราขาดสติ ไม่หาทางแก้ไข ละเลย จนทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ร้ายแรงไปอีก จงจำไว้ว่า เมื่อเกิดอะไรขึ้นจงมีสติก่อนเป็นอันดับแรก
2. เวลา เป็นสิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันหมด
ไม่มีใครมีมากหรือน้อยกว่ากัน แต่การจัดการที่แตกต่างกัน ทำให้ดูเหมือนว่าแต่ละคนมีเวลาไม่เท่ากัน
หลักการบริหารเวลาคือ เราต้องรู้ว่าสิ่งไหนสำคัญที่สุด และควรจะต้องทำเป็นอันดับแรก เราไม่มีทางรู้ว่าเวลาของเราจะหมดลงเมื่อไร เมื่อเราฝันอยากจะทำอะไร ก็ควรจะรีบทำก่อนที่เวลาของเราจะหมดลง โดยไม่รู้ตัว เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเสียใจในภายหลังนั่นเอง
3. การกล่าวคำขอโทษ เมื่อเราได้ทำผิดพลาดต่อผู้อื่นนั้น เป็นสิ่งที่ดีและควรทำ แต่เมื่อใดก็ตาม ที่เรากล่าวคำขอโทษโดยไม่เต็มใจ ก็เป็นเหมือนการดูถูกคนที่เรากล่าวคำขอโทษ แล้วยังทำให้ความบาดหมางที่มีอยู่ เลวร้ายยิ่งกว่าการที่เราไม่กล่าวคำขอโทษ ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เรากล่าวคำขอโทษควรใส่ความจริงใจลงไปด้วย จะเป็นวิธีแก้ไขความบาดหมางที่ดีที่สุด
แรนดี้ เพาซ์ได้เสียชีวิตลง ภายหลังการบรรยาย The last lecture เพียง 9 เดือน
เรื่องราวของเขาคงเป็นพลังและแรงบันดาลใจต่อให้ผู้คนอีกมากมาย
มัดใจ
