ข่าวปนคน คนปนข่าว
** "แม้ว"ฉาวได้อีก! ถูกยกตัวอย่าง โมเดล “ทักษิณ-มอนเตเนโกร”เป็นกรณีศึกษา เศรษฐีกระเป๋าหนักหนีคดี ใช้เงินทุ่มแลกที่พำนัก ถึงคิว"อียู" ร้องเตือนชาติสมาชิกเข้มงวดออก“วีซ่าทอง”ระบุชัด ถูกฉวยประโยชน์โดยพวกคอร์รัปชัน ฟอกเงิน อาชญากรรมข้ามชาติ
โมเดล แบบ“ทักษิณ ชินวัตร”หรืออาจจะรวมถึง“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”สองพี่น้องที่หนีคดี ใช้เพื่อตระเวนไปในต่างแดน กลายเป็นเรื่องซีเรียส ของยุโรป ควรต้องหันมาเข้มงวดกันจริงจังแล้ว…มีรายงานข่าวว่า "สหภาพยุโรป" (อียู) จะเรียกร้องรัฐสมาชิกเพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมโครงการ"วีซ่าทอง" (Golden Visa)ในแต่ละชาติ โดยเตือนว่าโครงการนี้ได้ถูกฉวยประโยชน์โดยบุคคล หรือ องค์กรอาชญากรรมต่างๆ สำหรับการฟอกเงิน, คอร์รัปชัน และเลี่ยงภาษี …คาดกันว่า รายงานดังกล่าวของอียู จะมีคำแนะนำแก่รัฐสมาชิกในการวางกฎระเบียบโครงการดังกล่าวที่อนุญาตให้ "เศรษฐีกระเป๋าหนัก" ซื้อถิ่นที่อยู่อาศัย หรือความเป็นพลเมืองแลกกับการลงทุน
สัมภเวสีแม้วและน้องสาวมีหนาวแน่ เพราะรัฐสมาชิกอียูกว่า 20 ชาติ ในนั้นรวมถึง สหราชอาณาจักร,ไอร์แลนด์ และ สเปน เขาต้องทบทวนเรื่องนี้จริงจัง เพราะชาติเหล่านี้ มีเรื่องร้องเรียน กรณี"ขายใบอนุญาต" ให้มีถิ่นที่อยู่ หรือ กระทั่ง"ซื้อขายสัญชาติ" คุ้นๆ คล้ายๆ เหมือนกับกรณีของ"ยิ่งลักษณ์"ที่กลายเป็นพลเมืองกัมพูชา ถือพาสปอร์ตเขมร ยังไงยังงั้น … รายงานฉบับร่างยังระบุว่า โครงการมอบสิทธิพลเมืองและถิ่นที่อยู่แก่นักลงทุนได้ก่อความเสี่ยงต่างๆ นานาแก่รัฐสมาชิก และแก่สหภาพยุโรปทั้งมวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงด้านความมั่นคง ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการแทรกซึมเข้ามาขององค์กรอาชญากรรมนอกอียู เช่นเดียวกับความเสี่ยงของการฟอกเงิน, คอร์รัปชัน และ เลี่ยงภาษี
ผลการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะกรรมาธิการอียู พบข้อกังวลจำนวนมาก เพราะไม่รู้ภูมิหลัง ที่ไปที่มาความความร่ำรวยของคนพวกนี้ การออก“วีซ่าทอง”ให้คนพวกนี้เลยอาจจะก่อเภทภัยภายหลังได้ หรือได้ไม่คุ้มเสีย ในรายงานยังยกตัวอย่าง "มอนเตเนโกร" ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งหลบภัยของมหาเศรษฐีกระเป๋าหนัก ได้มอบสิทธิพำนักอาศัยแก่บุคคลต่างๆ ในนั้น รวมถึง"นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ผู้ถูกพิพากษาว่า มีความผิดฐานคอร์รัปชัน หลังหลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนหน้ากรณีทักษิณ ในปี 2008 ก็มี "โมฮัมเหม็ด ดาห์ลาน" อดีตนายกรัฐมนตรีปาเลสไตน์ ซึ่งถูกกล่าวหา ฉ้อโกงเงินหลวง
ข้อมูลเมื่อเร็วๆ นี้ จากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ และ โกลบอล วิทเนส พบว่า ตลอดช่วง10 ปีหลังสุด รัฐต่างๆของอียู ทำเงินจากโครงการวีซ่าทองเกือบ 29,000 ล้านดอลลาร์ โดยสหราชอาณาจักร, สเปน และโปรตุเกส อยู่ที่ลำดับต้นๆ ของผู้โกยรายได้สูงสุดจากโครงการนี้ ด้วยพวกเขาแต่ละชาติ ทำการ "ขายวีซ่า" แก่บุคคลต่างๆ มากกว่า 10,000 ราย … เรื่องแบบนี้ ทักษิณ น่าเอาประสบการณ์ตรงมาพูดในรายการ “Good Monday”ให้ฟังบ้าง ก็ดีนะ
** เลิกอึมครึม!! พ.ร.ฎ.เลือกตั้งประกาศแล้ว กกต.เคาะทันที เลือกตั้ง 24 มี.ค. รับสมัคร ส.ส. พร้อมระบุตัวนายกฯ 4-8 ก.พ. "บิ๊กตู่" ยังไม่ชัดเจนจะเอาไง ได้แต่ยิ้ม ปล่อยให้กองเชียร์ "คันหัวใจ" กันเล่นๆ ส่วน "4รมต." คงต้องรีบไขก๊อก เพราะทางเดินข้างหน้าเสี่ยง ที่จะถูกฝ่ายตรงข้ามจ้องเสียบอยู่ ส่วนพรรคการเมือง อีกกว่าร้อยพรรค กำลังเผชิญ "กับดัก" กฎหมายลูก ถ้าไม่เคลียร์ให้เรียบร้อย หมดสิทธิส่งผู้สมัครส.ส.
พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. ประกาศออกมาแล้ว เมื่อช่วงสายวานนี้ (23 ม.ค.) ตกบ่าย "อิทธิพร บุญประคอง" ประธาน กกต. ก็เรียกประชุมด่วน เพื่อกำหนด "ไทม์ไลน์" ต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง แล้วมีมติออกมาว่า ให้ "วันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค.62 เป็นวันเลือกตั้งส.ส.ทั่วประเทศ" เปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต-แบบบัญชีรายชื่อ และ บัญชีผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ของพรรคการเมือง "วันที่ 4-8 ก.พ." จากนั้น "วันที่ 4 -16 มี.ค." เป็นวันเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร "วันที่ 17 มี.ค." เป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้าใน และ นอกเขตจังหวัด ใครที่จะใช้สิทธิล่วงหน้า ทั้งในประเทศ หรือต่างประเทศ ให้ไปยื่นคำขอ ผ่านนายทะเบียนอำเภอ นายทะเบียนท้องถิ่น สถานเอกอัครราชทูต ผ่านช่องทางไปรษณีย์ หรือ อินเตอร์เน็ตได้ ภายใน"วันที่ 28 ม.ค.-19 ก.พ." …จะได้ไม่เสียสิทธิ์
บรรยากาศการเข้าสู่ "โหมดเลือกตั้ง" คึกคักขึ้นมาทันที "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ก็มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทั้งวัน เจอหน้านักข่าวก็บอกว่า ตอนนี้คนที่อยากเลือกตั้ง คงได้เลือกตั้งสมใจแล้ว แต่พอถามถึงเรื่องบัญชีนายกฯ ว่าได้ตกลงปลงใจ จะไปอยู่กับ"พรรคพลังประชารัฐ" หรือยัง ก็ได้แต่ยิ้ม ไม่ยอมบอก แต่นักข่าวก็ไม่ได้คาดคั้นอะไร เพราะรู้ว่า "อมพะนำ" ไปได้ไม่เกินวันที่ 8 ก.พ. ก็รู้แล้ว ปล่อยให้คนของ "พปชร." เขาร้อนใจกันบ้าง เพราะถ้ายังไม่ชัดเจน เวลาไปพบปะประชาชน จะพูดจา หาเสียง ลำบาก ยิ่งถ้าบิ๊กตู่ เกิด "ไม่โอเค" ขึ้นมาละก็ หงายหลังกันเป็นแถบๆ แน่ …
ถ้าว่ากันถึงสถานะของรัฐบาล หลังมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ก็ยังคงมีอำนาจเต็ม ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ จะพิจารณาอนุมัติ แต่งตั้งโยกย้าย ไปครม.สัญจร จ้อหน้าจอทีวี ในคืนวันศุกร์ หรือจะใช้ มาตรา 44 ในฐานะหัวหน้า คสช. ก็ยังได้เหมือนเดิม… แต่โดยกติกา มารยาท และที่สำคัญคือ หลุ่ม บ่อ กับดัก ใน "รัฐธรรมนูญ"ฉบับใหม่นี้ จะพูด จะทำอะไร ก็ต้องระมัดระวังกันพอสมควร อย่าได้เสี่ยงกับเรื่อง "คาบเส้น-ล้ำเส้น" เพราะฝ่ายตรงข้าม ก็จ้องอยู่ ซึ่ง "บิ๊กตู่" ก็พอจะรู้ตัว ถึงได้ออกมาพูดดักคอไว้เมื่อวันก่อนว่า พรรคการเมือง ก็อย่ามุ่งแต่เอารัฐธรรมนูญ มาเป็นเครื่องมือในการ "เอาชนะคะคาน" กัน…แต่เชื่อเถอะ ถึงเวลาเปิดศึก" ชิงบ้านชิงเมือง" อย่างนี้ อย่าพลาดก็แล้วกัน … มีแต่คนจ้องจะเสียบ !! … ในส่วนของ "4รัฐมนตรี" ที่สวมหมวกสองใบ เพราะไปเป็นผู้บริหารพรรค พปชร. อยู่ด้วย ยิ่งต้องระวัง แต่เมื่อวานนี้ รองนายกฯ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" ก็เรียก "อุตตม สาวนายน กับ "สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" 2 คีย์แมนสำคัญ ไปหารือแล้ว คาดว่าอีกวันสองวัน ก็คงจะไขก๊อก
อีกเรื่องที่เป็นเหมือน "กับดัก" ที่พรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคเล็ก กำลังปวดหัวกันอยู่ก็ คือ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ระบุว่า พรรคที่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งได้ ไม่ว่าพรรคเก่า พรรคใหม่ จะต้องจัดตั้ง สาขาพรรคการเมือง หรือ ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด อย่างน้อย 1 แห่ง ในจังหวัดนั้นๆ จึงจะส่งผู้สมัครส.ส.ได้ ถ้านับจากวันนี้ไปถึงวันสุดท้าย ที่เปิดรับสมัคร คือ วันที่ 8 ก.พ. ก็มีเวลา "เพียง 16 วัน" เท่านั้นที่ต้องไปจัดการให้เรียบร้อย ซึ่ง กกต.ก็แจ้งมาแล้วว่า พรรคการเมืองทั้งหมด 104 พรรคนั้น ตอนนี้มีเพียง ประชาธิปัตย์ เพียงพรรคเดียวเท่านั้น ที่ทำตามกติกาได้ครบถ้วน นอกนั้น "ยัง"… รู้ตัวแล้วก็รีบไปจัดการกันเสียด้วย ประเทศชาติจะได้ไม่ต้องเสียโอกาสที่จะได้ "คนดี มีความสามารถ" เข้ามารับใช้บ้านเมือง
