วันที่ 1 มิ.ย. 2563 เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา พร้อมครอบครัวนางสาวออย เดินทางไปสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อทำเอกสารใบมรณบัตรและขอเอกสารอนุญาตให้ขุดศพ เพราะวันที่ 2 มิ.ย. 2563 ครอบครัวจะเดินทางไปเชิญวิญญาณ น.ส.ออยที่จุดพบศพ และ ขุดศพที่สุสานไตรคุณธรรม เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านในจ.เพชรบูรณ์
มูลนิธิกระจกเงา ยัน น้องออยไม่ใช่เหยื่อ ไอซ์หีบเหล็ก
นางเกสร เทียนโสภา แม่น.ส.ออย เปิดเผยว่า ด้านหนึ่งเธอคลายความรู้สึกคับข้องใจ เมื่อทราบว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว และไม่ต้องตั้งใจความหวังกับการตามหาอีกต่อไป แต่ยังกังวลที่คนร้ายที่ฆ่าลูกสาวยังไม่ถูกจับกุม จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามมาดำเนินคดี
ส่วนผู้ต้องสงสัย เพื่อนๆเเละครอบครัวยังสงสัยบุคคลคนหนึ่ง เเต่ยังไม่ขอเอ่ยนามเเละความสัมพันธ์ แต่ก็ระบุว่า เป็นบุคคลที่อยู่กับออยเป็นคนสุดท้าย และเมื่อติดต่อไปผู้ชายคนนี้บ่ายเบี่ยงเเละไม่ตอบคำถาม โดยหลังจากพบศพออย เพื่อนฝันเห็นออยมายืนร้องไห้ และในความฝันออยบอกว่าตายเเล้ว ถูกผู้ชายใจดีฆ่า
ด้านนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา เปิดเผยว่า การติดตามน.ส.ออย เริ่มจากค้นหาข้อมูลว่าคนตายเคยมีถิ่นที่อยู่ หรือ ทำงานที่ไหน ซึ่งพบว่าพื้นที่ชลบุรีคือพื้นที่สุดท้ายที่คนหายไปพักอาศัย และทำงานอยู่ จึงตรวจสอบข้อมูลศพนิรนามในพื้นที่ จ.ชลบุรี ระยอง ก่อนจะพบศพนิรนามเพศหญิง และพบว่ามี 1 ศพหายไปในช่วงเดือน พ.ค. ปี 2557 ซึ่งใกล้เคียงกับข้อมูลของน.ส.ออย จึงประสานไปที่ รพ.ตำรวจ เพื่อขอตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเพราะศพนี้ถูกนำมาผ่าชันสูตรที่นี่ และเนื่องจากศพมีลักษณะของการฆาตกรรมมีการประสานงานไปยังคณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนาม ไปติดตามคดีนี้ ก่อนส่งเปรียบเทียบดีเอ็นเอ ระหว่างพ่อแม่ของคนหายกับศพนิรนามที่พบ ซึ่งผลปรากฏว่าดีเอ็นเอตรงกัน
ส่วนการตามหาตัวคนก่อเหตุ พ.ต.อ.คงศักดิ์ บุญสื่อสุวรรณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองขาม เปิดเผยว่า การสอบปากคำคืบหน้าไปแล้วกว่า 80-90% ทั้งกลุ่มเพื่อนชายที่ใกล้ชิดกับนางสาวออย และเพื่อนหญิงที่ทำงานเป็นโคโยตี้ด้วยกัน เมื่อ 6 ปีก่อน รวม 6ปาก แต่ยังไม่พบพิรุธ
ผู้กำกับการ สภ.หนองขาม ระบุว่า คดีนี้ผ่านมานานมาก การหาตัวคนร้าย ต้องใช้หลักฐาน วัตถุพยานเท่านั้น เพราะการสอบปากคำในเวลานี้ ผู้ต้องหาอาจเตรียมการในการอธิบายไว้ค่อนข้างดี จึงยังไม่พบพิรุธในจุดใดเป็นพิเศษ
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต แพทย์เวรระบุไว้ว่า เสียชีวิตจากระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ตำรวจยังสอบปากคำแพทย์คนนั้นไม่ได้ว่า สาเหตุจากระบบโลหิตล้มเหลวจากอะไร เพราะแพทย์เวรรายนั้นป่วยหนักอยู่ตอนนี้
โดยคดีนี้ตำรวจที่พุ่งเป้าเป็นการฆาตกรรมเพราะว่าพื้นที่พบศพจุดดังกล่าว ไม่น่าเชื่อว่าน.ส.ออย จะมาเสียชีวิตเอง เพราะเป็นพื้นที่เปลี่ยวไม่มีไฟส่องสว่างบนถนน คล้ายกับถูกเคลื่อนย้ายมาจากที่อื่นเพื่ออำพราง ณ จุดที่พบร่าง เพราะในจุดเกิดเหตุที่พบร่างน.ส.ออยไม่พบอะไรบ่งชี้ ถึงบุคคลอื่น และไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย หรืออาจด้วยเพราะสภาพศพที่ค่อนข้างอืด เพราะมาเจอตอนเสียชีวิตไปแล้วประมาณ 4 วัน
