วันที่ 21 ม.ค. 62 นางเอ (นามสมมติ) อายุ 36 ปี ชาวบ้าน ม.4 ต.อู่ตะเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ร้องเรียนว่า ถูกเพื่อนบ้านพยายามข่มขืน โดยใช้เชือกรัดคอในยามวิกาล ในเวลาประมาณ 00.30 น. ของวันที่ 14 ม.ค. 62 โดยเบื้องต้น ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หางน้ำสาคร เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ พร้อมอยากวอนขอให้หน่วยงานเร่งนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เนื่องจากรู้สึกกังวลว่าคนร้ายจะวกกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก ซึ่งขณะนี้สามีของผู้เสียหายต้องลางาน กลับมาเฝ้าที่บ้าน เนื่องจากไม่กี่วันมานี้ คนร้ายกลับมาที่บ้านอีก และซุ่มดูอยู่ในป่า ซึ่งทราบว่าคือนายพรรษา อายุประมาณ 25 ปี บ้านอยู่ซอยถัดไป เพิ่งออกจากคุกมาได้ 3 เดือน ในคดีลักทรัพย์ และภายในหมู่บ้านนี้ มีผู้เสียหายเคยถูกนายพรรษาขโมยมาแล้วแทบทุกหลัง
นางเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนไปทำธุระข้างนอกบ้าน โดยไม่ได้ล็อกประตูบ้านไว้ กระทั่งเวลาประมาณ 00.30 น. ตนสะดุ้งตื่นเพราะแสงไฟจากโทรศัพท์มือถือ จากนั้นพบว่า คนร้ายบุกเข้ามาในมุ้ง แล้วใช้มือกดปากไม่ให้ตนร้อง
จากนั้นจึงใช้เชือกไนล่อนสีแดงรัดคอ ตนพยายามดิ้นสู้ขัดขืนสุดกำลัง กว่า 5 นาที จนหมวกโม่งของคนร้ายหลุดออกมา ตนเห็นหน้าชัดเจนว่าเป็นคนในละแวกบ้าน จากนั้นจึงใช้แรงเฮือกสุดท้าย ตะโกนเรียกแม่ว่าโจรขึ้นบ้าน คนร้ายก็วิ่งหนีไป โดยทำโทรศัพท์มือถือหล่นอยู่ข้างที่นอน จากนั้น ตนเข้าไปดูห้องของแม่ พบว่าแม่กุญแจที่คล้องไว้ถูกล็อก และแม่ตนถีบประตูพังออกมา
ทั้งนี้ จากการต่อสู้ ตนได้รับบาดเจ็บบริเวณใต้คาง และใบหน้ามีอาการบวมช้ำ จากการที่คนร้ายใช้มือปิดปาก และเชือกรัดคอ ตอนนี้มีความรู้สึกหวาดกลัวมาก ไม่กล้าเดินเข้าบ้านคนเดียว
ด้าน นางถนอม แม่ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนทราบเรื่องหลังจากคนร้ายออกไปแล้ว ลูกสาวมาเรียกตนที่หน้าห้อง แต่ตนออกจากห้องไม่ได้ เพราะคนร้ายล็อกกุญแจไว้ ตนจึงถีบประตูออกมา ครั้งแรกไม่ออก จึงถีบอีก 3-4 ครั้ง พบว่าลูกสาวเนื้อตัวสั่น พูดอะไรไม่ถูกอยู่หน้าประตู พร้อมวิ่งมากอดตน แล้วบอกว่า “แม่ คนเข้าบ้านมันจะข่มขืนหนู มันเอาเชือกรัดคอและเอามืออุดปาก” ตนรู้สึกหายใจไม่ออก ทั้งแค้น และกลัวมาก ขณะนี้ก็ยังไม่กล้าเดินไปไหนมาไหนไกลบ้าน เนื่องจากหลังเกิดเหตุ คนร้ายยังมาวนเวียนข้างบ้านทุกวัน ทำให้ลูกเขยซึ่งทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ต้องกลับมาเฝ้าดูแล โดยตนต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแวะเวียนมาดูความปลอดภัยมากกว่านี้