จากเหตุการณ์ ด.ช.ศุภชัย มีพันธ์ หรือ ตี๋ อายุ 1 ขวบ 1 เดือน ที่ถูกงูกัดจนเสียชีวิต ซึ่งตอนแรกมีร่างทรงทักว่าน่าจะเป็นงูเจ้าที่ ที่จะมาเอาชีวิต ตาและยายของเด็กจึงเกิดความกลัวและกังวล (อ่าน : ตาสุดเศร้า งูเห่าฉกหลาน 1 ขวบดับ เชื่อเป็นงูเจ้าที่อาฆาต หลังเมียเคยฆ่าตายเลยย้อนเอาคืน)
ล่าสุด วันที่ 20 ก.ย. 62 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่เกิดเหตุ เดินสำรวจบริเวณรอบบ้าน และภายในบ้าน อยู่ท่ามกลางป่าหญ้ารก มีแหล่งน้ำตามธรรมชาติ และทุ่งนาล้อมรอบ บริเวณภายในบ้านมีโพรงที่เกิดจากการทรุดตัวของพื้นปูน และเคยมีงูออกมาจากโพรงดังกล่าวด้วย
โดยจุดที่เด็กเสียชีวิต เป็นบริเวณข้างบ้านที่เอาไว้แขวนเสื้อผ้า และมีรถเข็นเด็กตั้งอยู่ ซึ่งในวันที่เกิดเหตุน้องตี๋กำลังจะไปเล่นรถเข็น แต่มาโดนงูกัดเสียก่อน นอกจากนี้ เดินสำรวจรอบบ้านพบมีซากงูสีดำ คล้ายกับงูเห่าแห้งตายคาตาข่ายอยู่ด้วย ซึ่งแม่ของน้องตี๋ก็ยอมรับว่าที่นี่งูเยอะจริง
น.ส.ศิลามณี มีพันธ์ แม่ของเด็กผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนทำงานในช่วงเวลากลางวัน จึงได้ให้แม่ช่วยดูแลลูกชาย วันที่เกิดเหตุ 10 ก.ย. แม่โทรศัพท์มาบอกว่าให้ตนรีบกลับบ้าน รีบพาลูกไปส่งโรงพยาบาล ในอำเภอวิเศษชัยชาญ แพทย์ระบุว่าถูกงูกัด และส่งต่อไปที่โรงพยาบาลอ่างทอง ระหว่างรักษาหัวใจลูกหยุดเต้นหลายครั้ง จนยื้อชีวิตไว้ได้ วันที่ 19 ก.ย. ลูกทนไม่ไหว และเสียชีวิต
ระหว่างการรักษาหลายวัน ครอบครัวทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ลูกหาย รวมถึงการไปหาร่างทรงให้ช่วยขจัดปัดเป่าภัยร้ายออกไป เพราะร่างทรงบอกว่าน่าจะเป็นเจ้าที่ที่บ้าน จึงต้องทำพิธีสะเดาะเคราะห์ แต่ตนไม่เชื่อว่าจะเป็นงูเจ้าที่ เชื่อว่าเป็นงูตามธรรมชาติ เพราะบริเวณรอบบ้านเป็นป่ารก ก่อนหน้านี้งูก็เคยเข้าบ้านหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยกัดใคร แต่ก็มีเรื่องน่าแปลกใจคือ สามีบอกว่าวันเกิดเหตุขับรถกำลังจะไปทำงานอยู่ดี ๆ ก็มีงูสีดำ เลื้อยตัดผ่านหน้ารถไป จึงหยุดรถให้งูผ่านไป ตกเย็นลูกก็โดนงูกัด
และหลังจากลูกเสียชีวิตแล้ว ลูกน่าจะมาหาด้วย เพราะตอนที่ไปรับศพ สามีวางโทรศัพท์เอาไว้ แต่หน้าจอก็เปิดขึ้นเอง ซึ่งภาพหน้าจอที่ตั้งไว้เป็นภาพของลูกชาย