วันที่ 17 ส.ค. 62 ความคืบหน้าจากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กหญิงสาวรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ภาพใบหน้าของลูกสาวตัวเองมีรอยเขียวช้ำบนใบหน้า ซึ่งระบุว่าถูกครูตีเนื่องจากคำนวณเลขไม่ได้ (อ่าน : แม่ร้องลูก 7 ขวบถูกครูตีหัว-แก้ม-ตาบวมช้ำ แค่ตอบเลขผิด ผอ.ชี้เคยตักเตือนครูมาแล้ว 2 ครั้ง )
ล่าสุดนางสาวนุชนาฎ ตุลาพันธุ์ อายุ 26 ปี แม่ของเด็ก เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อวัน 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนไปรับลูกสาวที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ช่วงหลังเลิกเรียน ซึ่งขณะนั้นลูกสาวบอกกับตนว่าปวดหัว แต่ตนไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าลูกเรียนหนัก จึงพากลับบ้านแล้วให้กินยานอนพักผ่อน พอตกเย็นลูกสาวตื่นขึ้นมา น้าชายซึ่งเป็นน้องชายของตนเข้ามาจับหัวลูกสาวเล่นตามปกติ บังเอิญไปจับโดนกลางศีรษะแล้วมีลักษณะนุ่ม ๆ ยุบลงไปจึงรู้สึกแปลกใจ และทุกคนพยายามสอบถามว่าลูกสาวไปโดนอะไรมา ซึ่งลูกสาวกลับบอกว่าโดนเพื่อนแกล้งใช้ดินสอตีศีรษะเลย พร้อมย้ำว่า “อย่ามาจับห้ว มันปวด” จนยายอาศัยจังหวะเกลี้ยกล่อมให้บอกความจริง
น้องจึงยอมเอ่ยปากบอกว่า โดนคุณครูเอาไม้ตีหัว เพราะคิดเลขช้า ซึ่งตนยอมรับว่าหลังจากที่ทราบเรื่องทุกคนต่างนอนไม่หลับและเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น จนกระทั่งวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนพบว่าบริเวณหน้าผากลูกสาว และรอบดวงตามีลักษณะบวมแดงขึ้นมาจึงพากันไปหาหมอ ซึ่งหมอได้บอกว่า น้องมีอาการช้ำในเท่านั้น เนื่องจากเลือดคั่ง ให้ประคบร้อนประคบเย็นตลอดเวลา พร้อมให้ยาแก้วปวดมากิน แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว
นางสาวนุชนาฎเปิดเผยว่า หลังจากเกิดเรื่องวันนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนได้ติดต่อกลับมาว่าจะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายการรักษา ยอมรับว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทราบว่าน้องโดนลงโทษด้วยการใช้ไม้ตีที่หัว ก่อนหน้านี้ลูกสาวบอกว่าเคยโดนลงโทษด้วยตบเข้าที่ใบหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวกับเด็กนักเรียนคนอื่น จึงอยากฝากให้ทางโรงเรียนรับผิดชอบ และพิจารณาคุณครูผู้ก่อเหตุพ้นสภาพจากตำแหน่งครูของโรงเรียน และอยากให้ครูออกมาพูดคุยกับครอบครัว เพราะเบื้องต้นครูได้ขอโทษกับคุณยายเด็๋กไปแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นไม่ได้ติดต่อกลับมาอีก มีแค่ผู้อำนวยการที่คอยตามเรื่อง จึงอยากให้คุณครูมีจิตสำนึกมากกว่านี้ เพราะถ้าเกิดเหตุขึ้นกับลูกหลานของตัวเองจะรู้สึกอย่างไร
ด้านนางเพ็ญจันทร์ ตุลาพันธุ์ อายุ 50 ปี ยายของเด็ก เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า เมื่อเช้าวันที่ 15 ส.ค. หลานสาวตื่นมาหน้าเขียวช้ำบวมจนถึงตา จึงพาไปโรงพยาบาล จากนั้นจึงพาหลานสาวไปร้องเรียนถึงเหตุการณ์ดังกล่าวกับผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ผู้อำนวยการติดราชการ
จากนั้นตนได้ไปหาครูนัท (นามสมมติ) ครูผู้ก่อเหตุดังกล่าว เพื่อถามว่าทำอย่างไรหน้าหลานถึงได้บวมขนาดนี้ ครูจะรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไร ซึ่งครูนัทตอบกลับมาว่า “หนูขอโทษ” พร้อมถามว่าอยากให้หลานตนเลื่อนชั้นเรียนขึ้น ป.3 ไหม
เบื้องต้นได้แจ้งความที่ สภ.บาละมุง ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เห็นสภาพหลานตนถึงกับตกใจ และพูดว่า “ใช่หรือที่ครูจะตีแล้วตาเขียวแบบนี้” แล้วหลังจากนั้นตำรวจได้ให้ตนพาหลานสาวตรวจเช็กร่างกายที่โรงพยาบาลอีกรอบ เบื้องต้น ยังอยู่ในช่วงลงบันทึกประจำวัน เพราะอยากจะขอไกล่เกลี่ยกับโรงเรียนให้เรียบร้อยเสียก่อน
https://youtu.be/hDp6B7Mhi1g