ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับเรื่องจากผู้ร้องเรียน ระบุว่าลูกสาวอายุ 16 ปี ถูกข่มขืนตั้งแต่ วันที่ 15 มี.ค. 62 ซึ่งมาทราบเรื่อง 20 ก.ค. 62 เพราะลูกสาวตั้งครรภ์ แจ้งความแล้ว จนถึงขณะนี้ฝ่ายชายยังไม่ถูกดำเนินคดี
วันที่ 15 ธ.ค. 62 นางนิ่ม (นามสมมติ) แม่ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองทราบเรื่องว่าลูกสาวถูกข่มขืน เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 62 เพราะลูกสาวไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาล ทราบว่าตั้งครรภ์ ตนจึงโทรหาฝ่ายผู้ก่อเหตุ อีกฝ่ายบอกว่าจะไม่รับผิดชอบ ซึ่งตนรู้ว่าผู้ชายมีภรรยาอยู่แล้ว ตนเดินทางไปแจ้งความทันที จนถึงวันนี้ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ตำรวจบอกให้รอหมายศาลอย่างเดียว ล่าสุด ลูกสาวตนคลอดหลานออกมาเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 62 ผู้ก่อเหตุก็ยังไม่ถูกดำเนินคดี
โดยฝ่ายชายยอมรับกับตนว่า กระทำลูกสาวตน 3 ครั้ง วันที่ 15 มี.ค. 62 ผู้ก่อเหตุพาไปเที่ยว จากนั้นก็พากลับมาส่งที่บ้าน ซึ่งขณะนั้นไม่มีคนอยู่บ้าน สุดท้ายผู้ก่อเหตุเดินตามขึ้นไปบ้าน และมีความสัมพันธ์กับลูกสาวตน จากนั้น 16-17 มี.ค. ฝ่ายชายมาหาลูกสาวตน กระทำชำเราอีก ครั้ง จากนั้น 20 พ.ค. 62 ลูกสาวตนป่วยเข้าโรงพยาบาล หมอบอกว่าอุ้งเชิงกรานติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้ หลังเป็นคดีความ ตนเองเคยเจรจากับคู่กรณีแล้ว ขอให้ชดใช้เงิน 300,000 บาท แต่คู่กรณีขอต่อรอง ขอจ่ายเป็นงวด งวดละ 5,000 บาท/เดือน ตนจึงไม่รับข้อเสนอ และบอกให้ไปเจอกันที่ศาล
“ตอนนี้สภาพจิตใจตนก็แย่ ใจแม่จะสลายเมื่อรู้ว่าลูกถูกกระทำเช่นนี้ ใจตนจะให้ลูกสาวเรียนต่อ แต่พอเกิดเรื่องก็ต้องหยุดเรียนก่อน ยืนยันได้ว่าเด็กที่คลอด เป็นลูกของผู้ก่อเหตุ เพราะลูกสาวตนไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับใคร ตนมั่นใจ 100% พร้อมให้ตรวจดีเอ็นเอ” ซึ่งฝ่ายชายใจดำมาก ตนรับไม่ได้ ขอให้กฎหมายลงโทษ
ด้าน นายณัฐวุฒิ นิลเผือก ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนเองยอมรับผิดในส่วนที่ตนพรากผู้เยาว์ แต่ปฏิเสธว่าข่มขืน เพราะฝ่ายหญิงยินยอม ตนกับผู้เสียหายคุยกัน และตนขอมีอะไรด้วยที่บ้านของผู้เสียหาย ผู้เสียหายก็มีอารมณ์ร่วม ซึ่งตนมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหาย 3-4 ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกตนป้องกัน สวมถุงยางอนามัย ส่วนครั้งหลังตนไม่ได้ป้องกัน ซึ่งมีโอกาสที่จะท้องได้ แต่ทุกครั้งตนก็ไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้ผู้เสียหายกิน
โดยหลังจากที่ตนมีอะไรกับผู้เสียหาย ผู้เสียหายยังคุยกับตนอยู่ และหากตนข่มขืนจริง ทำไมผู้เสียหายเพิ่งไปแจ้งความ หลังจากตนทราบว่าผู้เสียหายตั้งครรภ์ ตนเองเจรจากับผู้เสียหายแล้วว่าจะรับผิดชอบ แต่ขอแบ่งจ่ายเป็นงวด ซึ่งคู่กรณีไม่ยอม จึงต้องส่งฟ้องศาล ตนยืนยันว่าไม่มีเงินจะชดใช้ให้เป็นเงินก้อน ส่วนเรื่องการดูแลเด็ก หากเป็นลูกตนก็พร้อมจะเลี้ยงดู แต่ตนไม่มั่นใจว่าใช่ลูกตนไหม เนื่องจากช่วงที่ผู้เสียหายคุยกับตน ก็คุยกับผู้ชายหลายคนด้วย
https://youtu.be/taAKXESUizk
