หลังประกาศเปิดตัวเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการได้ไม่ทันไรก็เจอดราม่าเล่นงานทันที สำหรับคู่ของนางร้ายหน้าสวย เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร และนักธุรกิจหนุ่ม บิ๊ก-อัครวัชร คงสิริกาญจน์ เจ้าของโชว์รูมรถหรู ที่ถูกสาวปริศนารายหนึ่ง อ้างว่ามาจากคนใกล้ตัวของ หนุ่มบิ๊ก ออกมาแฉว่าแท้จริงแล้ว สาวเมย์ ฉกฝ่ายชายมาจากแฟนสาวที่คบหากันมาสิบกว่าปี จนทำให้ทั้งคู่ต้องรีบออกมาโพสต์ข้อความเพื่อชี้แจงทันที
ล่าสุด เมย์ พิชญ์นาฏ ก็ได้มีโอกาสออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกถึงประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น ระบุว่า “ตนอธิบายไปหมดแล้ว และไม่อยากพูดหลายรอบ ตนไม่ชอบโกหก เหมือนตอนที่บอกว่าไม่อยากมีแฟน ตอนนั้นรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แต่วันหนึ่งที่เรามี เราก็อยากจะบอกทุกคนว่าเรามีแล้วนะ เราไม่อยากจะโกหกว่าคบแบบซ้อนๆ และแอบมีไง เราไม่อยากมีอะไรปิดบัง ไม่ได้อยากอวด และไม่ได้อยากเวอร์ ไม่ได้คิดว่าตัวเองสวย ที่พูดวันนั้นคือประชด คือรำคาญ อยากอยู่แบบสงบๆ บ้าง เพราะดาราก็เป็นคน ก็อยากคบกัน อยากมีแฟนปกติ และนี่ก็แก่แล้วด้วย เพื่อนมีลูกหลายคนแล้ว นี่แค่มีแฟนเอง”
“ตอนนั้นตนได้ถามฝ่ายว่า ใครอะ ทำไมเขาบอกเป็นลูกน้อง อีกฝ่ายก็กดเข้าไปดูถึงรู้ว่าคนนี้เป็นเด็กที่ร้านเก่าที่ออกไปเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว อายุ 19 มีลูก 2 คน กับสามี 2 คน ไม่รู้ว่าชีวิตเขาเป็นยังไง เขาอาจจะคิดว่าเราเหมือนเขามั้ง”
“ถามว่ารู้สึกแย่ไหม พอเปิดตัวปุ๊บก็ดราม่าปั๊บ ก็ถือว่าซวย ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ก็ไม่ได้กลัวอะไร ความจริงก็คือความจริง รู้สึกว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ก็ไม่อยากไปพาดพิงอดีตอะไรเขา บางทีเขาอาจจะไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย สงสารเขา อย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่า”
“ตนไม่ไม่จำเป็นต้องยืนยันอะไร ความจริงก็คือความจริง อยากให้ไปเช็ก เช็กกันได้เต็มที่เลย ร้านสูท ร้านโชว์รูม ร้านตน ร้านเพื่อน สังคมของเรา แต่เช็กคนที่มีตัวตนและอยู่กับเราจริงๆ ไม่ใช่ว่าออกไปนานมากแล้ว และจะพูดอะไรก็ได้ แต่การแชร์มากกว่าที่อยากจะให้ดูก่อน เช็กก่อน เดี๋ยวนี้โซเชียลมันแรง คนด่าขึ้นมา 1 คน อีก 3 คนแชร์ไปก็กระจายเป็น 30 คน 300 คน จนถึง 3,000,000 คน และก็มารุมด่าเรา”
“ตัวเราไม่เท่าไหร่ เราอยู่มานานแล้ว เราชิน แต่ไม่ชอบที่ต้องให้คนที่รักเราเป็นห่วงเราว่าโดนหลอกหรือเปล่า พ่อแม่จะคิดยังไงว่าลูกโดนหลอกเหรอ เขามีแฟนอยู่แล้ว เราไปแย่งเขาเหรอ เราก็ไม่อยากให้เขาผิดหวังในตัวเรา อยู่มาขนาดนี้แล้ว”
“ไม่กลัวว่าจากนี้จะมีคนออกมาแฉและขุดคุ้ย ขุดเลย ยิ่งขุดยิ่งดีเลย จะได้รู้ว่ามันไม่จริง มันไม่มีอะไรอยู่แล้ว แต่แบบว่า….ไม่มีงานทำกันเหรอ”
“ตอนนี้คนที่ว่าเขาน่าจะรู้ตัวแล้ว ว่าเขาเข้าใจผิดและมโนไปเอง ที่ได้ยินมาคือเขาก็ขอโทษเจ้านายเขาแล้ว ถึงจะรู้สึกว่าทำไมไม่ขอโทษเรา แต่ก็ช่างมันเถอะ เขาคงเด็ก ไม่มีวุฒิภาวะ แต่สำหรับบางเพจที่อยากได้ยอดไลก์ หรือหน้าบางด่าเราไว้เยอะและอยากด่าต่อ ก็แล้วแต่ แต่ผู้จัดการนั่งอยู่ตรงนั้นก็หงุดหงิดนะ ตัวสั่นอยู่ ถือเอกสารรวบรวมข้อมูลให้ ปอท. ก็อยู่ที่เขา เราไม่ยุ่งเรื่องนี้ดีกว่า ให้ฝ่ายกฎหมายและผู้จัดการวินิจฉัยเอาว่าอยากทำอะไร”
“อยากจะบอกให้เห็นใจกันหน่อย ลองมาอยู่ตรงที่ที่เราอยู่ เราอยากเป็นคนธรรมดา และเราไม่เคยโกหก ไม่เคยผิดศีลธรรม อยู่มาขนาดนี้แล้ว กอดคานมาแน่นมากเลย”
“ตอนนั้ยังไม่ได้คาดหวังอะไรกับความรักครั้งนี้ คาดหวังแค่ว่าจะไม่มีใครมากวนใจมากกว่า น่าเบื่ออะ”
