จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก czpem rulats โพสต์เรื่องราวว่า ถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยระบุว่า “เมื่อความรักกลายเป็นความแค้น … เจ็บกายไม่เท่าไหร่แต่เจ็บใจมาก พ่อแม่เห็นน้ำตาแกยังไหล ผิดแค่ไหนพ่อแม่ไม่เคยตีขนาดนี้ ยอมรับว่าผิด แต่มันเกินไปไหม ?” โดยสาเหตุมาจากแฟนหึงหวงนั้น (อ่าน : สาวเหยื่อผัวซ้อมอ่วม เปิดใจ สุดทนถูกจับโขกกำแพง หึงแฟนเก่า โหดขู่จะโยนลงตึก)
วันที่ 15 ต.ค. 61 นางคำปุ่น คำสุข แม่ของแฟนน.ส.ปีม ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาตนไม่ทราบว่าทั้ง 2 ฝ่าย มีปัญหาอะไรกัน มาทราบก็วันเกิดเรื่อง (10 ต.ค.) น.ส.ปีมวิดีโอคอลหาตน ขณะอยู่ที่โรงพยาบาล ตนเห็นใบหน้าบวมเขียว จึงถาม น.ส.ปีมว่าเป็นอะไร ลูกสะใภ้ระบุว่า ถูกลูกชายตนทำร้าย ตนจึงสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกสะใภ้ระบุว่า ตัวเองพาแฟนเก่ามานอนที่ห้องเกิดเหตุ แล้วลูกชายตนกลับมา จึงทำให้เกิดเรื่อง และบอกว่าไม่คิดว่าลูกชายตนจะกลับมาที่ห้อง ตอนนั้นตนก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร ส่วนตัวคิดว่าเด็กสมัยนี้จะรับกันได้หรือ ตนยังคิดว่าใครจะไปทนไหว
นางคำปุ่น กล่าวต่อว่า ลูกสะใภ้เล่าให้ฟังว่า ลูกชายตนมาเคาะห้องแต่ตัวเองไม่ยอมเปิด ลูกชายจึงถีบประตูห้องเข้ามา เห็นแฟนตัวเองและแฟนเก่าอยู่ด้วยกัน จึงลงไม้ลงมือ ทั้งนี้ ส่วนตัวคิดว่าลูกชายคงคุมอารมณ์ไม่ได้ หลังจากนั้น ตนก็ไปตามลูกชาย โดยตอนแรกคิดว่าลูกชายถูกจับ จึงเดินทางไป สน.คลองตัน เมื่อไปถึงจึงทราบว่าลูกสะใภ้เพียงมาลงบันทึกประจำวันเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ไม่ทราบว่าลูกชายไปพักอาศัยอยู่ที่ใด เพื่อนที่ลูกชายสนิทขณะนี้ก็ไปทำงานที่ต่างประเทศ ทำให้ตอนนี้ตนก็ยังไม่ได้คุยกับลูกชาย ติดต่อไปลูกชายก็ไม่รับสาย
ก่อนเกิดเรื่อง วันที่ 8 ต.ค. ลูกชายตนเพิ่งทะเลาะกับ น.ส.ปีม ลูกชายขนเสื้อผ้าใส่กระเป๋ากลับมาที่บ้าน โดยไม่ได้บอกสาเหตุที่ทะเลาะกัน แต่เพียง 1 คืน น.ส.ปีม ก็ตามมาง้อและดีกัน หลังจากนั้น ทั้ง 2 คน ก็กลับไปอยู่ด้วยกัน จนกระทั่งมาทะเลาะตามที่เป็นข่าว ซึ่งตนเข้าใจว่าทั้ง 2 ฝ่าย คงดื่มเหล้าและตีกัน ส่วนตัวสงสารทั้ง 2 ฝ่าย เพราะตนไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องเช่นนี้ เป็นห่วงทั้งคู่ ตนไม่โทษใคร เรื่องนี้ผิดกันทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 คน คบกันมาราว 4 ปี ไม่เคยเห็นเกิดเรื่องแบบนี้ มีทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือแบบนี้
นางคำปุ่น ระบุว่า วันนี้ตนโทรหาลูกสะใภ้เพื่อคุยเรื่องหลาน ที่ผ่านมาตนเป็นคนเลี้ยงหลานมาตลอด ยืนยันว่าตนยินดีจะเลี้ยงหลานให้ แต่หากลูกสะใภ้อยากนำลูกกลับไปเลี้ยงตนก็ยินดี ยอมรับว่าตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เห็นเป็นข่าว ตนยังไม่กล้าดู ไม่ได้โกรธลูกสะใภ้ แต่หากลูกรักใครตนก็รักด้วย อย่างไรก็ตาม ลูกชายเป็นคนทำอะไรไม่ค่อยปรึกษาหรือบอกอะไร เพราะกลัวว่าตนจะคิดมาก จากนี้จะเป็นอย่างไรตนไม่สนใจ ตนก็รักทั้ง 2 คนเหมือนเดิม อยากให้ทั้งคู่คุยกันเองดีกว่า
