เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ม.ค. ที่ บก.ปอท. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) น.ส.ปริยาภัทร เบญจวรรณ อายุ 45 ปี ที่อยู่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี อาชีพ แม่บ้าน เดินทางมาพร้อมนางพิมพ์จันทร์ ปงกันญายืน 66 ปี มารดา เข้าพบ ร.ต.อ.เครือณรงค์ ขมิ้นเครือ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. แจ้งความดำเนินคดีกับสื่อมวลชนออนไลน์ 8 สำนักข่าว
นางปริยาภัทร กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวป้าสมพิศ อายุ 70 ปี ถูกคนร้ายหลอกซื้อข้าวกะเพรา แล้วจ่ายเงินด้วยธนบัตรที่เป็นแบงค์กาโม่ 500 บาท เหตุเกิดที่หน้าโรงเรียนสุพรรณภูมิ เมื่อ 18 ธ.ค.นั้น ต่อมามีสื่อมวลชน นำภาพตนสวมเสื้อสีเหลือง ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ไปเผยแพร่ใน ระบุว่าเป็นคนร้ายก่อเหตุจ่ายค่าข้าวกะเพราดังกล่าว
ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนเองไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องแต่อย่างใดเลย เชื่อว่าภาพดังกล่าวมาจากกล้องวงจรปิดของเทศบาล ซึ่งตนขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปจริง พากันลงข่าวว่าสาวใหญ่ใช้แบงค์กาโม่หลอกยาย
หลังจากนั้นตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้ไปหาตนที่บ้านเชิญมาที่โรงพัก บอกให้ตนรับผิด เรื่องจะได้จบ ตนไม่ได้ทำจริงจึงปฎิเสธ ก็บอกให้สามีมากล่อมให้รับสารภาพ จากนั้นให้ป้าสมพิศมาดูตัวก็ยืนยันไม่ใช่ตน แต่รูปภาพตนมีการเผยแพร่กระจายออกไปทั่วแล้ว สร้างความเข้าใจผิด ถูกคนอื่นดูหมิ่นเกลียดชัง เสื่อมเสียชื่อเสียง
หลังจากนั้นตำรวจได้จับกุมคนร้ายที่ใช้แบงค์กาโม่ตัวจริงมาได้แล้ว ป้าสมพิศก็ไม่เอาความ แต่ความเสียหายกับตนกลับไม่มีใครเยียวยาหรือขอโทษตนเลย สื่อออนไลน์ไม่มีใครสนใจแก้ข่าวให้
ตนได้ไปปรึกษาทนายความอาสาที่ประจำศาลจังหวัดสุพรรณบุรี แนะนำให้แจ้งความ สภ.เมือง สุพรรณบุรี เมื่อ 21 ธ.ค. แล้ว และให้มาร้อง บก.ปอท.ช่วย ในวันนี้
ด้าน ร.ต.อ.เครือณรงค์ กล่าวว่า เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าเป็นความผิดอาญาข้อหา หมิ่นประมาท จึงแนะนำให้ผู้เสียหายกลับไปพบพนักงานสอบสวน สภ.เมือง สุพรรณบุรี แจ้งความเอาผิดเพิ่มกับสื่อออนไลน์ทั้ง 8 สำนัก ที่ลงรูปผู้เสียหาย โดยทาง บก.ปอท.จะช่วยตรวจสอบการนำเข้าสูระบบ เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
