แม่เหยื่อสาวกระบี่ ร้องลูกถูกทำร้าย ชิงทรัพย์ จุดไฟเผาทั้งเป็น ตั้งแต่ตอนเรียน ปวส. ที่นครศรีฯ ผ่านมานาน 17 ปี ลูกสาวพิการติดเตียง ผู้ต้องหาได้ประกันแล้วหนี ตอนนี้ยังลอยนวล
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 233 หมู่ 1 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นบ้านของนางกอลิเย๊าะ ศรียาไพ อายุ 63 ปี เนื่องจากนางกอลิเย๊าะ ร้องขอความช่วยเหลือ จากกรณีลูกสาวชื่อ น.ส.วรรณา ศรียาไฃพ อายุ 37 ปี ถูกทำร้ายด้วยการจุดไฟเผาอย่างโหดเหี้ยม จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง เหตุเกิดเมื่อปี 2545 ผ่านมาแล้ว 17 ปี แต่คดีไม่คืบหน้า ไม่สามารถดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดได้ โดยหลังเกิดเหตุ น.ส.วรรณา มีสภาพพิการ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แขนขา ด้านขวามีรอยแผลเป็นจากไฟไหม้ นิ้วมือ นิ้วเท้าหงิกงอ พูดไม่ได้
นางกอลิเย๊าะ กล่าวว่า ตนได้ส่งลูกสาว คือ น.ส.วรรณา ไปเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.นครศรีธรรมราช โดยขณะที่ลูกสาวของตน เรียนอยู่ชั้น ปวส.2 เทอม ขณะนั้นมีอายุ 20 ปี ต่อมา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.45 ลูกสาวของตนถูกคนร้ายทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม โดยคนร้ายใช้ของแข็งตีเข้าที่กกหูซ้าย และจุดไฟเผาทั้งเป็น เหตุเกิดภายในหอพักแห่งหนึ่ง หลังถนนสายอ้อมค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช หลังเกิดเหตุ 3 วัน เพื่อนของลูกสาวไปพบนอนสลบอยู่ในห้องเช่า มีสภาพบาดแผลถูกไฟเผาตามตัว บาดเจ็บสาหัส โทรศัพท์ และเงินจำนวนหนึ่งหายไป จึงได้แจ้งหน้าที่ นำส่ง รพ.มหาราช จ.นครศรีธรรมราช
หลังเกิดเหตุ ตำรวจในท้องที่เกิดเหตุทำงานล่าช้ามาก จนในปี 46 ตนนำเรื่องเข้าร้องเรียนกับ ผวจ.นครศรีธรรมราช ในขณะนั้น และทาง ผวจ.สั่งการให้ พ.ต.อ.ประเสริฐ ริยาพันธ์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ในขณะนั้น ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า ผู้ที่ลงมือทำรายลูกสาวก็คือนายคำรณ หรือหนิด สมญาพิทักษ์ อดีตคนรักเก่าของลูกสาว ลงมือร่วมกับเพื่อนอีก 1 คน หลังก่อเหตุ ตำรวจขออนุมัติศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับ คดีอาญาที่ 141/2546 และทำการจับกุมตัวนายคำรณ ข้อหาพยายามฆ่า และปล้นทรัพย์ เบื้องต้นนายคำรณ ให้การปฏิเสธและได้ประกันตัวไป ก่อนที่จะหลบหนีในชั้นศาล จนถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ จนคดีกำลังจะหมดอายุความในอีก 3 ปีข้างหน้านี้
ทั้งนี้ ตนมีความสงสัยว่าคดี มีเจ้าหน้าที่คอยให้การช่วยเหลือผู้กระทำความผิดอยู่ด้วยหรือไม่ เพราะ พงส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ผู้ทำคดีรับแจ้งเหตุ เมื่อวันที่ 16 พ.ค.45 แต่กลับไปลงบันทึกประจำวันคำร้องทุกข์ในวันที่ 30 ม.ค.46 ต่อมาทราบว่ามีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย และมีการลงโทษทางวินัยไปแล้วด้วย อย่างไรก็ตาม ตนเกรงว่า หากไม่ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ กลัวว่าคดีจะเงียบที่ผ่านมา ตนขึ้นลงโรงพัก และไปร้องเรียนตามหน่วยงานหลายแห่งสุดท้ายคดีก็เงียบ ทุกวันนี้ตนทุกข์ใจมาก เพราะห็นสภาพลูกสาวต้องนอนพิการติดเตียง ขณะที่คนทำผิดยังลอยนวล จึงขอวอนให้เข้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วด้วย.
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath
