แม่ค้าหวิดหิ้ว ‘ยาบ้า’ ถุงใหญ่ บินเกาหลี โล่แจ้งตร. เผย คนจ้างส่งคนมาเอาของคืน
แม่ค้าหวิดหิ้ว ‘ยาบ้า’ ถุงใหญ่ บินเกาหลี / จากกรณีของหญิงสาวรายหนึ่งออกกมาแชร์ประสบการณ์ไม่คาดฝันเกือบต้องกลายเป็นผู้ต้องหา หลังรับฝากครีมเตรียมบินไปเกาหลี แต่กลับพบว่าภายในตลับครีมดังกล่าวที่เตียมจะหิ้วขึ้นเครื่องบินเพื่อไปเกาหลีนั้น มียาบ้าซุกซ่อนอยู่ ตามที่เสนอไปก่อนหน้า
แม่ค้าหวิดหิ้ว ‘ยาบ้า’ ถุงใหญ่ บินเกาหลี / ล่าสุดหญิงสาวคนดังกล่าวได้ออกมาระบุว่า ตนเองนั้นได้เดินทางแจ้งความเรียบร้อยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมโพสต์ภาพใบลงบันทึกประจำวันที่ สน.คันนายาว นอกจากนี้ยังเปิดเผยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้อีกด้วยโดยระบุว่า
ตนรับหิ้วของจากไทยไปให้คนไทยในประเทศเกาหลี และก่อนวันที่แฟนตนจะบินได้มีผู้หญิงคนหนึ่งอ้างว่าอยู่ที่เกาหลี และอยากจะให้พี่ชายที่อยู่ไทยฝากของใช้พวกครีมทาผิว แป้ง และผ้าอนามัยมาให้ ซึ่งตนก็ตกลง วันต่อมาก็มีผู้ชายที่คาดว่าจะเป็นพี่ชายของผู้หญิงคนนี้ติดต่อมาบอกว่าจะเอาของมาส่งให้ แต่จะไม่ส่งทางไปรษณีย์จะจ้างมอเตอร์ไซค์มาส่งให้ เพราะอยู่ไม่ไกลจากที่ตนอยู่
ช่วงกำลังจะแพ็คจัดลงกระเป๋าให้แฟน ตนเห็นกระปุกครีมทาหน้ากระปุกหนึ่งมีครีมเปื้อนออกมาเลยหยิบขึ้นมาเช็ด แต่สังเกตุว่ากลิ่นครีมยี่ห้อนี้มันกลิ่นเพี้ยนๆ ไม่เหมือนกลิ่นครีมปกติทั่วไปเลยแกะกระปุกดู เปิดออกมาเจอทิชชูห่ออยู่เต็ม จึงค่อยๆดึงออกมาดูและเห็นห่อสีดำไม่รู้ว่าคืออะไรเพราะมัดแน่นหนามาก จึงเอามีดกรีดดู ถึงได้เห็นว่าเป็นยาบ้า ซึ่งคาดว่าจะเป็นหลักหลายร้อยเม็ด
ตอนนั้นตกใจมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่แวบแรกตั้งใจกะว่าจะแจ้งความ แต่พี่สาวได้ห้ามเอาไว้เพราะกลัวว่าเจ้าของยาจะไหวตัวทันและตามมาเอาคืนที่บ้าน เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย กลัวจะถูกตามล่าทวงเอาของคืน จึงตั้งสติแล้วโทรกลับไปและโกหกว่าทางตนไม่สามารถหิ้วของไปส่งให้ได้เนื่องจากว่าน้ำหนักกระเป๋าเกิน จึงจำเป็นต้องส่งของคืน
แต่ทางฝ่ายผู้หญิงก็บอกกับตนว่าขอแค่เอาครีมมาอย่างเดียวก็ได้ แต่ตนก็ได้ปฏิเสธกลับไปว่าไม่สามารถทำได้ ผู้หญิงคนดังกล่าวจึงเร่งให้ตนส่งของคืนโดยที่ไม่ยอมให้ที่อยู่แต่ให้มอเตอร์ไซค์มารับของกลับไปแทน
ตนจึงรีบส่งข้อความไปบอกเพื่อนๆ ที่เป็นแม่ค้าด้วยกันว่าอย่ารับหิ้วของผู้หญิงคนนี้ และตัดสินใจยกเลิกเที่ยวบินส่งของคืนลูกค้าทั้งหมด ทั้งนี้เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อมาในตอนแรกก็ติดต่อไม่ได้แล้วส่วนเฟซก็เช่นกัน ไม่ทราบที่อยู่ที่ไทยของผู้ส่ง ทราบแต่ที่อยู่ของผู้รับภายในประเทศเกาหลี ซึ่งวานนี้ (14 ส.ค.) เวลา 20.00 น. ตนเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อความบริสุทธ์ใจแล้ว
เจ้าของโพสต์ กล่าวอีกว่า ก่อนที่ตนจะรับหิ้วหรือฝากของตนจะทำการติดต่อกันผ่านทาง Facebook ซึ่งก่อนที่ตนจะรับก็ได้เข้าไปตรวจสอบดูว่าเป็นเฟซที่เปิดหรือไม่ เปิดมานานหรือยัง มีความเคลื่อนไหวอะไรยังไงบ้าง มีตัวตนอยู่จริงไหม ถึงจะรับ และเฟซของผู้หญิงคนดังกล่าวก็ตรงตามที่ตนได้เช็คดูจึงไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเมื่อไปถึงเกลาหลีจะทำการส่งของผ่านไปรษณีย์ตามที่อยู่เกาหลีที่ลูกค้าให้มา ดังนั้นจะไม่เคยพบลูกค้ามาก่อน
ต่อไปนี้หากจะรับหิ้วของหรืออะไรตนคงต้องคิดให้ดีก่อนจึงจะรับและจะไม่รับหิ้วของที่เป็นการฝากโดยเด็ดขาด จะรับเฉพาะของที่ตนเป็นคนซื้อเองเท่านั้นเพราะไม่อยากเสี่ยงอีก ถ้าเกิดว่าตนไม่เอะใจเปิดดูก่อนแฟนตนอาจจะกลายเป็นผู้ต้องหาค้ายขาข้ามชาติไปแล้วก็ได้
ส่วนกระแสสังคมที่ต่อว่าตนอยู่ในขณะนี้ ว่าตนสร้างเรื่องบ้าง โกหกบ้าง มีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ตนอยากจะขอยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นตามที่ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว เผยว่า ได้ทำการสอบปาก เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน เนื่องจากผู้เสียหายได้มีการส่งคืนของกลางไปแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจำเป็นที่จะต้องทำการสืบหาข้อมูลของคนร้ายในส่วนนี้ต่อไปอีกทั้งยังอยากที่จะแจ้งไปยังกลุ่มแม่ค้า หรือคนที่รับหิ้วคนอื่นๆด้วย ว่าอยากให้ระวังให้ดี เพราะในกรณีนี้หากมีการนำส่งออกนอกประเทศแล้วโดนจับได้ จะมีโทษร้ายแรงมากถึงขั้นประหารชีวิต ซึ่งเคสนี้ถือได้ว่าผู้เสียหายยังโชคดีอยู่ที่รู้ตัวก่อน
ที่มา : เรื่องเล่าเช้านี้ , เฟซบุ๊กผู้เสียหาย
