จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งใน จ.ชัยนาท ได้โพสต์รูปภาพเด็กหญิงวัยประมาณ 2 ขวบเศษ ที่แขนขวามีรอยเขียวช้ำ พร้อมระบุข้อความว่า “ครูป่วยเราพอเข้าใจ แต่คนที่ไม่ป่วยแต่ยังเอาคนป่วยไว้กับเด็กเล็กๆ นี่แหละ ที่เราไม่เข้าใจ” และยังโพสต์ข้อความอีกว่า “อยากรู้จังว่า..ผู้ว่าจะว่าอย่างไรที่คุณเอาครูป่วยทางจิตแถมประเมินไม่ผ่าน มีประวัติทำร้ายเด็กเอามาสอนเด็กสองขวบ”
ล่าสุดวันที่ 23 ส.ค.62 นางกมลชนก บุดดี อายุ 44 ปี เป็นผู้ปกครองของเด็กหญิง 2 ขวบ รวมถึงน้องมาย (นามสมมติ) เด็กที่ได้รับบาดเจ็บ และเป็นผู้โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (19 ส.ค.) ตนได้ไปรับหลานสาวที่ฝากเลี้ยงไว้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองมะโมง อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท เมื่อไปถึงห้อง เห็นหลานสาวนอนคว่ำหน้าอยู่ โดยมีครู 2 คน คอยดูแลเด็ก ๆ อยู่ในห้อง ตนจะเดินเข้าไปอุ้มหลานกลับบ้าน จังหวะนั้นได้มีครูคนหนึ่งที่ถูกระบุว่ามีอาการป่วยทางจิต ได้เดินเข้าไปใกล้หลานสาว เมื่อหลานเห็นครูคนดังกล่าวก็ร้องไห้เสียงดังออกมา และมีอาการหวาดผวา ตนจึงรีบเข้าไปอุ้มหลานกลับบ้าน ตนยอมรับว่าตอนนั้นตกใจที่หลานสาวมีพฤติกรรมที่ผิดปกติ เนื่องจากปกติเป็นเด็กร่าเริงและซน แต่วันนั้นดูซึม
จนกระทั่งมาสังเกตจนพบว่าที่บริเวณแขนขวาของหลานสาวมีรอยเขียวช้ำ 1 แผล ลักษณะคล้ายเหมือนกับถูกบิดอย่างแรง ตนจึงมั่นใจว่าครูคนดังกล่าวจะต้องเป็นคนที่ทำร้ายหลานสาวแน่นนอน เพราะครูคนนี้เคยมีประวัติว่ามักจะเกิดอาการเครียด และทำร้ายเด็กที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมาแล้วหลายแห่ง แต่เมื่อไปสอบถามครูที่ศูนย์ฯ กลับบอกว่าเด็กเล่นกัดกัน ซึ่งจากการที่ตนดูแผลของหลานสาว ตนมองว่าไม่ใช่เด็กกัดกันอย่างแน่นอน และจากการสอบถามผู้ปกครองเด็กบางส่วนจึงทราบว่า เคยมีผู้ปกครองเด็กเห็นครูท่านนี้มีพฤติกรรมหยิกเด็กมาแล้วเช่นกัน
ตนจึงเรียกร้องให้ย้ายครูคนดังกล่าวออกจากศูนย์ฯ เพราะเป็นห่วงว่าหลานสาวและเด็กคนอื่น ๆ จะไม่ปลอดภัย ที่มีครูซึ่งมีอาการป่วยทางจิตมาสอนอยู่ในศูนย์แห่งนี้ โดยได้เข้าร้องเข้าเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาทไว้แล้วด้วย ยืนยันว่าตนไม่ได้ต้องการเอาเรื่องเป็นคดีความกับครู เพราะเข้าใจว่าครูป่วย แต่อยากให้ย้ายครูไปทำงานแผนกอื่น ไม่อยากให้มาอยู่กับเด็กเล็ก ๆ เช่นนี้ ซึ่งหากครูท่านนี้ไม่ออกจากที่นี่ ตนก็จะย้ายหลานสาวไปอยู่ที่อื่น
ด้านนายคณิศร แอแปปัญญะ ปลัดเทศบาลตำบลหนองมะโมง เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครองแล้ว และได้แนะนำให้ไปแจ้งความต่อตำรวจ แต่ในส่วนของเทศบาลตำบลหนองมะโมงนั้น เบื้องต้นจะเรียกครูคนดังกล่าว และบุคลากรที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน ว่าสิ่งที่ถูกกล่าวหามีมูลหรือไม่ เนื่องจากว่าบางกระแสบอกว่าเด็กกัดกัน ไม่มีครูทำร้ายแต่อย่างใด แต่หากพบว่ากระทำผิดจริงก็จะดำเนินการตามขั้นตอนมาตราการลงโทษต่อไป
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยอมรับว่า ครูคนดังกล่าวเคยเข้ารับการรักษาอาการป่วยทางจิตเวชจริง เมื่อประมาณครึ่งปีที่ผ่านมา แต่ตนไม่ทราบผลทางการแพทย์ว่ามีอาการป่วยมากน้อยเพียงใด ซึ่งหากพบว่ามีอาการป่วยจนไม่สามารถสอนเด็กได้ ก็จะต้องพิจารณายกเลิกการจ้าง แต่ตลอดเวลาการจ้างที่ผ่านมาก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้
https://youtu.be/8mIN2dW8KyQ
