โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

แมลงวันในไร่ส้ม /ข่าวร้าว-เขย่ารัฐบาล ภท. -ปชป. เข้ม ต้อนรับสภาสมัยสอง

มติชนสุดสัปดาห์

อัพเดต 15 พ.ย. 2562 เวลา 07.41 น. • เผยแพร่ 15 พ.ย. 2562 เวลา 07.41 น.
แมลง

แมลงวันในไร่ส้ม

ข่าวร้าว-เขย่ารัฐบาล

ภท. -ปชป. เข้ม

ต้อนรับสภาสมัยสอง

 

ต้อนรับเทศกาลเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญที่สอง ที่เริ่มต้นเมื่อ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และมีระเบียบวาระแรงๆ รออยู่ ด้วยข่าวสั่นสะเทือนรัฐบาล

เรื่องหนึ่ง ได้แก่ กรณีฝ่ายค้านและพรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560

เท่ากับฝ่ายค้านกำลังจับมือพรรคประชาธิปัตย์ ช่วงชิงการนำในการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ทำเอาพรรคพลังประชารัฐเต้น และประกาศว่าตำแหน่งนี้ต้องมาจาก ส.ส.รัฐบาล ตามมาด้วยการโต้แย้งผ่านสื่ออย่างดุเดือด

สำหรับกรรมาธิการดังกล่าว จะตั้งขึ้นตามข้อเสนอตามญัตติของฝ่ายค้าน แต่ญัตติดังกล่าวยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของสภา รอคิวอยู่ในระเบียบวาระการประชุม

อีกเรื่อง คือ ข่าวพรรคภูมิใจไทยแสดงความไม่พอใจแกนนำรัฐบาลบางคนในบางพรรค โดยระบุว่าเป็นผู้ปล่อยข่าว และมีสื่อไปจัดรายการวิพากษ์วิจารณ์ทำให้พรรคและแกนนำพรรคได้รับความเสียหาย

ดังที่ทราบกันว่า เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แกนนำพรรคภูมิใจไทยประกาศฟ้องร้องสื่อมวลชนที่จัดรายการโจมตีรัฐมนตรีของพรรค

โดยระบุด้วยว่า การโจมตีดังกล่าว เชื่อมโยงถึงแกนนำรัฐบาลอีกสายหนึ่ง

เว็บไซต์เนชั่นฯ รายงานเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พาดหัวว่า “ศักดิ์สยาม-ภท. จ่อฟ้องเนชั่น พาดพิงข้อมูลไม่ตรงความจริง”

เนื้อหาข่าวระบุว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้แจ้งต่อที่ประชุม ส.ส. พรรค ถึงกรณีรายการโทรทัศน์เนชั่นทีวี รายการเนชั่นสุดสัปดาห์ ผู้ดำเนินรายการพูดพาดพิงนายศักดิ์สยามและพรรคภูมิใจไทย ถึงประเด็นที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี

โดยนายศักดิ์สยามกล่าวว่า รายการดังกล่าวพาดพิง ให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง เมื่อถอดข้อความทั้งหมด พบว่าพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริง สร้างความเสียหายให้แก่ตนเองและพรรคภูมิใจไทย ถือว่ามีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และการหมิ่นประมาท

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคภูมิใจไทย แถลงหลังประชุมดังกล่าวว่า ทางพรรคจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 คน และบริษัทต้นสังกัด ในฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยนายศักดิ์สยามจะไปแจ้งความที่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมกันนี้หัวหน้าพรรคจะทำหนังสือมอบอำนาจให้ ส.ส.เขตของพรรคทั้ง 39 คน ไปดำเนินการแจ้งความในพื้นที่ของตัวเอง รวมทั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ทั้ง 12 คน ซึ่งรวมถึงตัวนายอนุทิน ก็จะไปแจ้งความด้วยเช่นกัน

เมื่อถามว่า หากฝ่ายค้านหยิบยกประเด็นนี้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายศุภชัยกล่าวว่า เป็นสิทธิที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ขณะนี้มีเพียงกระแสข่าวว่าใครจะถูกอภิปรายเท่านั้น ซึ่งการที่ผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 คนเอาเรื่องที่ไม่เป็นความจริงมาพูด คนที่ไม่รู้ก็อาจจะเชื่อและคล้อยตามได้ ทำให้นายศักดิ์สยามและพรรคเกิดความเสียหาย

ผู้ดำเนินรายการเนชั่นสุดสัปดาห์ กับ 3 บ.ก. ได้แก่ นายวีระศักดิ์ พงษ์อักษร บรรณาธิการบริหาร นสพ.กรุงเทพธุรกิจ นายบากบั่น บุญเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นสพ.ฐานเศรษฐกิจ และนายสมชาย มีเสน ซีอีโอเครือเนชั่น

 

ต่อมาวันที่ 11 พฤศจิกายน มีกระแสข่าวจากพรรคภูมิใจไทย เผยแพร่ในสื่อต่างๆ ว่า กรณีทีวีช่องหนึ่งโจมตีการทำงานของนายศักดิ์สยาม และพรรคภูมิใจไทยได้ฟ้องร้องแจ้งความเอาผิดสื่อดังกล่าว และ ส.ส.ทยอยแจ้งความดำเนินคดีนั้น

ล่าสุดแกนนำพรรคได้แจ้งไปยังพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้วว่า รู้ตัวผู้ปล่อยข่าว ซึ่งอยู่ร่วมในคณะรัฐมนตรีแล้ว อีกทั้งสื่อดังกล่าวมีความใกล้ชิดกับพรรคแกนนำรัฐบาล จึงแจ้งไปยังผู้ใหญ่ในรัฐบาลว่า หากบุคคลดังกล่าวไม่หยุดปล่อยข่าวให้ร้ายพรรคภูมิใจไทย

อาจจะส่งผลกับการยกมือในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลของฝ่ายค้านที่จะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 18-20 ธันวาคมนี้ด้วย

นายศุภชัย ใจสมุทร ในฐานะประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับแจ้งจาก ส.ส.ทั่วทุกภาคของประเทศว่า ได้ทยอยไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนแล้วกว่า 20 คน ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ที่เหลือจะทยอยร้องทุกข์ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้

ก็น่าสนใจว่า ใครจะออกมาทำหน้าที่ “กาวใจ” เยียวยาหรือสมานรอยร้าวที่เกิดขึ้น

เบื้องหน้าเบื้องหลังของกรณีนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่พรรคภูมิใจไทยได้คุมกระทรวงเกรดเอที่มีบทบาทเด่นหลายกระทรวง โดยเฉพาะคือกระทรวงคมนาคม ที่พรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคแกนนำ ก็ต้องการดึงเอาไว้ทำหน้าที่ต่อ

แต่ในการต่อรอง รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำส่งผลทำให้พรรคภูมิใจไทยได้เก้าอี้นี้ไป และเมื่อเข้าบริหารงาน ก็เกิดการจัดระเบียบภายใน และมีแนวทางของตนเองในการดำเนินนโยบาย

ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกับแกนนำรัฐบาลด้วยกัน และบานปลายไปถึงการเสนอข่าวของสื่อ

ข่าวที่เกิดขึ้น สะท้อนว่า เป็นการกระทบกระทั่งที่หนักหน่วงและมีดีกรีรุนแรงอยู่พอสมควร

 

ส่วนปัญหาตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ผ่านสัปดาห์แรกเข้าสู่สัปดาห์ที่สองของการประชุมสภา แต่ก็ยังไม่ลงตัวว่าจะเป็นใคร

สำหรับพรรคพลังประชารัฐในระยะแรก จะเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา ลงชิงตำแหน่ง แต่ในที่สุดเจ้าตัวประกาศถอย

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ยังยืนยันชื่อของนายอภิสิทธิ์

ส่วนพรรคเพื่อไทย ในระยะแรกไม่ขัดข้องที่จะเป็นนายอภิสิทธิ์ แต่ต่อมามีท่าทีจะเสนอชื่อนายโภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค มือกฎหมายชั้นนำอีกคนหนึ่งของพรรค แต่ยังไม่สรุปชัดเจน

กลายเป็นปัญหาทางการเมือง เพื่อชิงความได้เปรียบ ระหว่างฝั่งที่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วยพรรคฝ่ายค้านกับพรรคประชาธิปัตย์ และฝ่ายที่ต้องการใช้การตั้งกรรมาธิการวิสามัญมาศึกษา มาดึงเกมออกไปก่อน

ใครจะพลิกเกมชิงความได้เปรียบ ย่อมมีผลต่อความสำเร็จในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เป็นงานยากสุดๆ ของการเมืองในระยะ 5 ปีนี้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0