ในค่ำคืนวันนี้ (24 เม.ย.) ศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ยกที่สองของซีซั่นจะได้เวลาบรรเลงเพลงแข้งกันแล้ว โดยมีสังเวียน โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นลานประลองศึกแห่งศักดิ์ศรีในครั้งนี้
ซึ่งในพบกันในครั้งนี้มีเดิมพันที่ค่อนข้างสูง เจ้าบ้านอย่าง ยูไนเต็ด ต้องการ 3 คะแนนเพื่อไล่ล่าพื้นที่ท็อปโฟร์ต่อไป ส่วนฝั่ง ซิตี้ ชัยชนะในนัดนี้ก็เพื่อการกลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงในช่วง 3 นัดสุดท้าย
วันนี้ทาง ขอบสนาม เราเลยขอโหมโรงความมันส์ในเกมนี้กันเสียหน่อย ว่าแล้วเลยขอย้อนกลับไปในอดีตว่าเคยมีนักเตะคนไหนบ้างที่เคยลงสนามมาแล้วทั้งในนาม ซิตี้และยูไนเต็ด จะมีใครกันบ้างติดตามกันได้เลย
ไบรอัน คิดด์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : 1967-1974 (ลงสนาม 203 นัด, ยิง 52 ประตู)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : 1976–1979 (ลงสนาม 98 นัด, ยิง 44 ประตู)
ไบรอัน คิดด์ เริ่มต้นชีวิตกาค้าแข่งกับฝั่ง "ปีศาจแเดง" ก่อนเพราะเขาอยู่มาตั้งแต่ชุดเยาวชนในปี 1963 ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาชุดใหญ่ในปี 1967 โดยเป็นหนึ่งในขุนพลชุดแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ในฤดูกาล 1967-68 อีกด้วย รวมแล้ว คิดส์ ค้าแข้งอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งสิ้น 7 ปี ก่อนย้ายไป อาร์เซน่อล
และเก็บกระเป๋าไปลงสนามให้ แมนฯ ซิตี้ ในปี 1976 ซึ่งเขาก็อาศัยอยู่ที่นั้น 3 ปี ก่อนกลายเป็นแข้งพเนจรในที่สุดซึ่งหลังแขวนสตั๊ด ไบรอัน คิดส์ ก็ได้เขามาเป็นผู้ช่วย เซอร์ อเล็กซ เฟอร์กูสัน ระหว่างปี 1991-1998 ก่อนจะย้ายไปเป็นผู้ช่วยกุนซือทีมเพื่อนบ้านในปี 2009 เป็นต้นมา
แอนดี้ โคล
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : 1995-2001 (ลงสนาม 195 นัด, ยิง 93 ประตู)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : 2005-2006 (ลงสนาม 22 นัด, ยิง 9 ประตู)
ดาวซัลโวอันดับ 3 แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยจำนวน 187 ประตู ซึ่งเขาใช้เวลา 6 ปีกับ ยูไนเต็ด กระหน่ำไป 93 ประตู ก่อนคว้าแชมป์ลีกไปอีก 5 สมัย และที่สร้างชื่อคงเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 1999 ส่วนความทรงจำกับ "เรือใบสีฟ้า" เขามีเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้นกับการซัด 9 ประตู จากการลงสนาม 22 นัด ซึ่งเกิดขึ้นในซีซั่น 2005-06 และหลังจากนั้น 3 ปี เจ้าตัวก็ประกาศแขวนสตั๊ดในที่สุด
ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : 1991-1999 (ลงสนาม 292 นัด)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : 2002-03 (ลงสนาม 29 นัด)
ชื่อของ ชไมเคิ่ล ส่วนใหญ่หลายคนคงนึกภาพแต่การที่เขาเฝ้าปากประตูให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากฝั่งสีแดงแห่ง แมนเชสเตอร์ ทั้ง 5 แชมป์ลีก, 1 แชมป์ยุโรป และ 3 แชมป์ เอฟเอ คัพ แต่หลังออกจาก โอล์ด แทรฟฟอร์ด ในปี 1999 ชไมเคิ่ล ไปเฝ้าเสาให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมในลีกโปรตุเกส ก่อนกลับมาที่อังกฤษกับ แอสตัน วิลล่า และมาปิดฉากชีวิตการค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาล 2002-03
โอเว่น ฮาร์กรีฟส์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : 2007-2011 (ลงสนาม 27 นัด, ยิง 2 ประตู)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : 2011-12 (ลงสนาม 1 นัด, ยิง 0 ประตู)
16 ล้านปอนด์คือจำนวนเงินที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมจ่ายเพื่อเป็นค่าตัวของ ฮาร์กรีฟส์ ในการสู่ขอจาก บาเยิร์น มิวนิค แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่คอยเล่นงานเจ้าตัวอยู่บ่อยครั้งทำให้ตลอด 4 ปีในเครื่องแบบ "ปีศาจแดง" ฮาร์กรีฟส์ ได้โอกาสลงสนามไปเพียง 27 นัดเท่านั้น แต่หนึ่งในนั้นคือเกมประวัติศาสตร์นัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อปี 2008 ซึ่งหลังจากหมดสัญญากับ ฝั่งสีแดง โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ก็มาจรดปากกากับ ฝั่งสีฟ้า ต่อในทันที แต่ด้วยอย่างที่พอไปข้างต้นเมื่อร่างกายมันไม่เอื้ออำนวยก็ไม่ควนฝืนต่อไป สัญญา 1 ปีในถิ่น เฮติฮัด เขาได้ลงสัมผัสสนามเพียงนัดเดียวเท่านั้น ก่อนประกาศแขวนสตั๊ดในที่สุด
คาร์ลอส เตเบซ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : 2007-2009 (ลงสนาม 63 นัด, ยิง 19 ประตู)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : 2009-13 (ลงสนาม 113 นัด, ยิง 58 ประตู)
ในเหล่าบรรดา 5 คน เตเบซ น่าจะเป็นคนที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ย้อนกลับไปในช่วงที่เขาถูกยืมไปยัง ยูไนเต็ด 2 ฤดูกาล เขาคือตัวหลักของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาตลอด และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้ง 2 แชมป์ลีก และ 1 แชมป์ยุโรป แต่พลันที่หมดสัญญายืมตัว 2 ปี ป๋าเฟอร์กี้ ไม่ยอมที่จะซื้อขาดแบบถาวรเพราะต้องจ่ายเงินไปแล้วถึง 10 ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่ายืม และต้องมาเสียอีก 35 ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่าตัว ป๋า เซย์โนในทันทีก่อนที่ เตเบซ จะย้ายไปสวมเสื้อ "เรือใบสีฟ้า" และได้กลายเป็นศัตรูกับแฟนบอลปีศาจแดงในทันที แต่เขาเองก็ประสบความสำเร็จอยู่ไม่น้อยเพราะ 4 ปี มี เตเบซ สามารถเป็นแกนหลักและคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และเอฟเอ คัพ อีก 1 สมัยมาครอบครอง
