วันนี้ (20 ต.ค. 62) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 9 ของฤดูกาล "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ลงทำการแข่งขันเวลา 22.30 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล HD 1 (600)
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
24/02/19 แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
16/12/18 ลิเวอร์พูล 3-1 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
29/07/18 แมนฯ ยูไนเต็ด 1-4 ลิเวอร์พูล (ไอซีซี)
10/03/18 แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
14/10/17 ลิเวอร์พูล 0-0 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
15/01/17 แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด
06/10/19 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
02/10/19 เสมอ อัลค์มาร์ 0-0 (เยือน, ยูโรปา ลีก)
30/09/19 เสมอ อาร์เซน่อล 1-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
25/09/19 เสมอ รอชเดล 1-1 (ชนะจุดโทษ 5-3) (เหย้า,ลีก คัพ)
22/09/19 แพ้ เวสต์แฮม 0-2 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
ลิเวอร์พูล
05/10/19 ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
02/10/19 ชนะ ซัลซ์บวร์ก 4-3 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
28/09/19 ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 1-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
25/09/19 ชนะ เอ็มเค ดอนส์ 2-0 (เยือน, ลีก คัพ(
22/09/19 ชนะ เชลซี 2-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
ความพร้อมล่าสุด
แมนฯ ยูไนเต็ด
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ตกอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝา 3 นัดล่าสุดเก็บได้แต้มเดียวล่าสุดแพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-1 ที่ เซนต์ เจมส์ ปาร์คทำให้ผ่าน 8 นัดมีเพียง 9 แต้มอยู่เหนือโซนตกชั้นแค่แต้มเดียว
ความพร้อมเกมนี้มีเรื่องเซอร์ไพรส์ เมื่อมีชื่อดาบิด เด เคดา โกล์มือ 1 ที่เจ็บโคนขาหนีบจากเกมทีมชาติอยู่ใน 22 คนและเดินทางมาพักที่โรงแรม ลอว์รี่ พร้อมกับทัพนักเตะ "ปีศาจแดง" ชุดที่จะฟาดแข้งกับ "หงส์แดง" เชื่อว่าน่าจะรอเช็กความพร้อมจนนาทีสุดท้ายถ้าไม่ไหว เซร์คิโอ โรเมโร่ นายประตูมือสองชาวอาร์เจนไต์ จะได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงแทน
นอกจากนี้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าชาวฝรั่งเศส กลับมาฟิตอีกครั้ง และมีชื่ออยู่ในทีมด้วย เช่นเดียวกับ อารอน วาน-บิสซาก้า แบ็กขวาตัวเก่ง, เมสัน กรีนวู้ด กองหน้าดาวรุ่ง และ ฟิล โจนส์ กองหลัง อย่างไรก็ตาม ปอล ป็อกบา, ลุค ชอว์ และ เจสซี่ ลินการ์ด ยังคงมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน และไม่ได้ร่วมเดินทางมาด้วย
11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม
ระบบ (4-2-3-1) : เซร์คิโอ โรเมโร่ (ดาบิด เด เคดา) - แอรอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกว์, แอชลี่ย์ ยัง - สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด - อันเดรส เปไรร่า (อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล) , ฆวน มาต้า, ดาเนี่ยล เจมส์ - มาร์คัส แรชฟอร์ด
ลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ พา "หงส์แดง" ทำผลงานสุดร้อนแรงชนะรวด 100 เปอร์เซ็นต์มี 24 แต้มเต็มๆนำเป็นจ่าฝูงโดยทิ้งแมนฯ ซิตี้ 5 แต้มหลังเรือใบสีฟ้าเก็บชัยได้ก่อนเมื่อคืนที่ผ่านมา
ความพร้อมเกมนี้จะได้ ได้ อลิสซง เบ็คเกอร์ โกล์มือ 1 ฟิตกลับมาเฝ้าเสาหลังหายหน้าหายตาไปราว 2 เดือน นอกจากนี้ยังได้ โฌเอล มาติป เซนเตอร์แบ็กตัวหลักที่พลาดการลงเล่นไป 2 เกม ฟิตทันสำหรับแมตช์นี้ด้วย
ขณะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เจ็บจากเกมชนะ เลสเตอร์ ดูแล้วไม่มีปัญหาอะไรพร้อมลงเป้นสามประสานเกมรุกร่วมกับโรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ เช่นเคย ส่วนแดนกลางต้องเดาใจคล็อปป์ว่าจะใช้เจมส์ มิลเนอร์ ที่ได้พักจากเกมทีมชาติหรือ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ที่เพิ่งกรำศึกกับฮอลแลนด์มาลงเป็นตัวจริงร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่
11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม
ระบบ (5-3-2) : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌเอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (เจมส์ มิลเนอร์) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
TNNSPORTS ชี้ขาดผลการแข่งขัน
แดงเดือดหนที่ 203 ผลงานทั้งสองทีมต่างกันโดยสิ้นเชิง แมนฯ ยูไนเต็ด ล่นกันไม่มีทีมเวิร์ค คุณภาพบอลห่วย เกมรุกทื่อไร้มิติเข้าทำจนร่วงไปอยู่โซนล่างของตาราง แถมปัญหาเพียบ ป็อกบา เจ็บ เด เคอา ไม่เต็มร้อย สวนทางกับ ลิเวอร์พูล ที่ทีมเวิร์คลงตัว สภาพทีมสมบูรณ์ แม้ที่ผ่านมา"ปีศาจแดง" มักทำได้ดียามเจอ"หงส์แดง" ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงขาลงหรือขาขึ้นแต่กับเกมนี้มองมุมไหนก็ไร้ช่องทางสู้ ดูแล้วแม้จะมาเน้นรับลึกรอสวนแบบโป้งเดียวจบก็งานยากเมื่อเกมรับไม่แน่นเสียประตูทุกเกม เชื่อว่าเกมนี้การที่หงส์บุกมาต่อเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีก ยังไงก็ต้องเชียร์จะไล่อัดเก็บชัย 18 นัดติดเทียบเท่าแมนฯ ซิตี้ได้แน่อน
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand