จากกรณี"น้องลัลลาเบล" หรือ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ อายุ 25 ปี สาวพริตตี้ชื่อดังซึ่งเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยศพถูกทิ้งไว้บนโซฟาล็อบบี้ของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านรัชดา-ราชพฤกษ์ แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. และหลังจากที่ข่าวแพร่ออกไปโลกโซเชียลได้ถกเถียงกันถึงประเด็นร้อนเรื่องนี้ เบื้องต้นหลังญาติไปรับศพ แพทย์ระบุสาเหตุเบื้องต้น "หัวใจล้มเหลว" ซึ่งทำให้ญาติและคนสนิทต่างคาใจสงสัยตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ก.ย. นายณัฐนัย หอมเทียนทอง อายุ 31 ปี แฟนหนุ่มของ "ลัลลาเบล" ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า "ตอนนี้เห็นใบชันสูตรตามที่ปรากฎเป็นข่าวเหมือนกับทุกคน สภาพจิตใจทั้งของผมและครอบครัวน้องเบลก็แย่ไปหมดอยู่แล้ว ถ้าน้ำอุ่นจะมาก็มาได้ อยู่ที่ว่าเขาจะมารึเปล่า ผมคงไม่ไปทำอะไรเขา แต่ก็คงจะห้ามเพื่อนๆน้องเบลไม่ได้ ก็เป็นไปตามบุญแต่กรรมของแต่ละคน" เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่าน้องถูกกระทำชำเราหรือเปล่า ส่วนตัวผมไม่ทราบว่ามีงานหรือไม่ เพราะผมไม่โอเคกับการรับงานเอนเตอร์เทน มีแต่เพื่อนเขาที่ทราบ เราคุยกันครั้งสุดท้ายในเวลา 14.00 น. เรื่องสุขภาพน้องก็ปกติดี ไม่ได้ป่วยเป็นโลหิตจาง และไม่เคยเมาถึงขนาดน้ำลายฟูมปาก น้องไม่ได้ดื่มเก่งขนาดนั้น คิดว่าดื่มทั้งงานรวมๆเป็น 2 ขวด
"ก็เอะใจจากการติดต่อน้องไม่ได้ จนเวลาประมาณ 20.00น. จึงเริ่มติดต่อแม่และเพื่อนของน้องเบลที่ทราบว่ามีงานที่ไหน เมื่อไปถึงหน้างานก็ไม่เจอตัว ผู้จัดงานก็อ้างว่าไม่เห็นน้องเบล เพราะตัวเองก็เมา โดยภายหลัง น้ำอุ่นก็โทรติดต่อมาทางเจ้าของงานให้เพื่อนเบลไปรับเพราะน้องตัวเย็น ปัสสาวะราดแล้ว จึงได้โลเคชั่นมา" ระหว่างทางที่ไป น้ำอุ่นก็พยายามไลน์มาจี้เพื่อนน้องเบลให้ไปถึงโดยเร็วที่สุด ตอนนั้นผมก็แค่ดีใจที่เจอน้องแล้ว เมื่อไปถึงคอนโดก็เห็นน้องนอนอยู่ที่โซฟา ตามที่เขาแจ้งว่าพาน้องมาวางไว้แล้วนะ โดยที่เขาไม่ยอมลงมาเปิดประตูให้ เราต้องรอคนจะเข้าคอนโดนานกันประมาณ 15-20 นาที จนเราต้องไปตามรปภ.มาเปิดให้
"ตอนเห็นสภาพนั้นก็ทรุด อย่างที่ทุกคนได้เห็นภาพกัน ใครเห็นก็น่าจะรู้ว่าน้องเสียแล้ว จะมาอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ ในใจผมคิดว่าไม่ใช่เพิ่งตายแน่นอน" ซึ่งทางพิสูจน์หลักฐานก็บอกกับเราในวันนั้นว่าคงเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 7-8 ชม. แน่นอน ซึ่งถ้าย้อนเวลาจากตอนนั้้นคือตี2 ไปก็คงจะหลังจากที่มาถึงคอนโดไม่นาน คือประมาณ 1 ทุ่มเท่านั้น ก็เอะใจว่าตามเวลาขนาดนั้น ทำไมไม่ช่วยเลย จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปในห้องเขาตอนตี5 ก็ยังนอนเปิดแอร์สบายใจ "จนมาถึงหลักฐานชิ้นล่าสุดที่จะทำให้ทราบเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ" แต่ต้องขอปรึกษาทางครอบครัวและทางเจ้าหน้าที่ก่อน เนื่องจากอาจจะมีผลต่อรูปคดี ซึ่งผมมั่นใจว่าเป็นหลักฐานในการเอาผิดแน่นอน แต่ก็ยังต้องรอผลชันสูตรก่อน ส่วนทั้งฝ่ายจัดงานหรือใครๆจะพูดอะไรก็ได้อยู่แล้ว เพราะคนตายเขาพูดไม่ได้ ใครจะไปรู้ความจริงถ้าไม่มีหลักฐาน ทั้งนี้ เบื้องต้นหลังจากเรื่องของน้องเบล ก็มีผู้เสียหายรายอื่นๆที่ถูกกระทำในลักษณะนี้ ได้ติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก
"ผมไม่ได้พาดพิงถึงใคร ความจริงก็คือความจริง คุณต้องรู้ว่าเป็นอย่างไร ไม่มีใครหนีความจริงไปได้ ส่วนเรื่องพิธีทางศาสนาตอนนี้ยังไม่มีวันเผาศพน้อง เพราะขอเก็บไว้เพื่อชันสูตรก่อน"…
ข่าวที่เกี่ยวข้อง..
