โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

แพทย์เตือน! อาหารเป็นพิษอันตรายที่มากับอาหาร

NATIONTV

อัพเดต 28 พ.ค. 2563 เวลา 04.01 น. • เผยแพร่ 28 พ.ค. 2563 เวลา 03.55 น. • Nation TV
แพทย์เตือน! อาหารเป็นพิษอันตรายที่มากับอาหาร
แพทย์เตือน! อาหารเป็นพิษอันตรายที่มากับอาหาร

โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์แนะประชาชนรับประทานอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่ ปรุงอาหารหรือเก็บอาหารให้ถูกสุขอนามัย ล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง หลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ เพื่ออนามัยที่ดีลดเสี่ยงปัญหาสุขภาพ

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า อาหารเป็นพิษเกิดจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส สารพิษจากพืชและสัตว์ สารเคมีที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหาร อาหารกระป๋อง อาหารทะเลที่ปรุงไม่สุกพอ หรืออาหารที่ค้างไว้หลายชั่วโมง 

โดยผู้ที่ได้รับเชื้อส่วนใหญ่จะแสดงอาการภายใน 1 - 2 วัน หรือภายในไม่กี่ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับชนิด ประเภท ปริมาณของเชื้อโรค และสารพิษที่ได้รับ ซึ่งทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง มีอาการสูญเสียน้ำ เช่น เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ กระหายน้ำ เป็นต้น 

ซึ่งอาการส่วนใหญ่มักไม่รุนแรงและหายได้ภายใน 1 - 2 วัน แต่หากเกิดอาการรุนแรงขึ้น เช่น ท้องเสียมาก อาเจียนมาก มีเลือดปนในอาเจียนหรืออุจจาระ แขนขาอ่อนแรง หายใจลำบาก ตามัวมองเห็นไม่ชัด ปวดท้องอย่างรุนแรงร่วมกับมีไข้สูง ควรรีบพบแพทย์ทันที ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจทำให้ร่างกายเสียน้ำและเกลือแร่จนเป็นอันตรายได้ 

ทั้งนี้ อาหารเป็นพิษเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะในประเทศเขตร้อนอย่างประเทศไทยที่เชื้อโรคสามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ดังนั้น จึงควรระมัดระวังการรับประทานอาหารอยู่เสมอเพื่อป้องกันการเกิดภาวะอาหารเป็นพิษ

นายแพทย์สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการอาหารเป็นพิษผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการที่ไม่รุนแรง และดีขึ้นด้วยการดูแลตนเองที่บ้าน โดยปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้ 

1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลร่างกายไม่ให้ขาดน้ำ ดื่มน้ำสะอาดมากๆ หรือจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำจากการอาเจียนและท้องเสีย 

2. ดื่มน้ำผสมผงเกลือแร่ ที่มีเกลือและน้ำตาลกลูโคสเป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อทดแทนน้ำและแร่ธาตุบางชนิดที่สูญเสียไป โดยจิบทีละน้อยตลอดวัน 

3. รับประทานอาหารอ่อน เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม งดอาหารเผ็ดและย่อยยาก 

4. รับประทานยาแก้ท้องเสีย โดยผู้ป่วยควรรับประทานตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย

ทั้งนี้ เราสามารถป้องกันตนเองจากภาวะ "อาหารเป็นพิษ" ได้ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ สะอาด เลือกร้านอาหารที่ไว้ใจได้ หลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ หรืออาหารค้างคืน หากทำกับข้าวเองควรเลือกวัตถุดิบที่เป็นของสดใหม่ เก็บใส่ตู้เย็นแยกเป็นหมวดหมู่ ที่สำคัญคือ การล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง เพียงเท่านี้ก็จะสามารถป้องกันตนเองจากภาวะอาหารเป็นพิษได้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0