นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีโลกออนไลน์ที่อ้างถึงสรรพคุณของใบอังกาบหนูว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งหลายชนิด จนประชาชนจำนวนมากแห่ไปเก็บใบอังกาบหนูที่ จ.สุโขทัย ว่าจากข้อมูลที่มีอยู่ขณะนี้ยังตอบไม่ได้แน่ชัดว่าสรรพคุณของใบอังกาบหนูสามารถรักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือไม่ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข แพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ลงพื้นที่ จ.สุโขทัยเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมว่า ลักษณะการหายจากโรคมะเร็ง ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านนั้นเป็นเช่นใด กินแล้วอาการดีขึ้น ทานข้าวได้ หรือมีการตรวจชิ้นเนื้อทางแพทย์แล้วพบว่ามะเร็งหาย หรือมีค่าลดลง จึงจำเป็นต้องทำการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดก่อนวินิฉัยสรุปผลอีกครั้ง
ทั้งนี้ แม้ว่าทางวิชาการจะยังไม่มีการยืนยันว่าใบอังกาบหนูสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะใบอังกาบหนู ตามสรรพคุณทางยา มีฤทธิ์เย็น มีรสขมเมาเบื่อ ใช้ในการล้างพิษน้ำเหลืองเสีย จึงขอแนะนำ ประชาชนที่จะนำไปต้มดื่มไม่ควรรับประทานต่อเนื่องเกิน 7 วัน โดยให้เว้นช่วงหยุด 3-5 วันแล้วค่อยกลับมารับประทานใหม่ เพราะหากได้รับในอัตราที่มากเกินไปอาจจะเกิดอาการเป็นพิษได้ ส่วนบุคคลที่เริ่มนำไปรับประทานให้รับประทานแต่น้อยและสังเกตอาการของตัวเอง เนื่องจากสภาพร่างกายและอาการป่วยมะเร็งของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน ก่อนจะใช้สมุนไพรชนิดใด จึงอยากให้ใช้อย่างมีความรู้และถูกวิธี เพราะสมุนไพรบางชนิดอาจจะมีปฏิกิริยากับยาปัจจุบันที่กินอยู่ได้ ฉะนั้นการปรึกษาแพทย์จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด