แพทย์ชี้กรณี นศ.สาวถ่ายคลิปโชว์สยิวอาจป่วย-เลี้ยงดูมีปัญหาควรรับคำปรึกษาบำบัดได้

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-แพทย์ชี้กรณี นศ.สาวถ่ายคลิปโชว์สยิว อาจเกิดจากอาการเจ็บป่วยทางจิตใจหรือการเลี้ยงดูที่มีปัญหา จนโหยหาความสนใจ ส่งผลให้ขาดการยับยั้งชั่งใจและตัดสินใจผิดพลาด แนะควรพบแพทย์เพื่อรับการบำบัดรักษาให้เลิกพฤติกรรมได้

จากกรณีโซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่บันทึกภาพของหญิงสาวรูปร่างหน้าตาดีคนหนึ่ง ในลักษณะที่เชื่อได้ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวน่าจะเป็นผู้บันทึกภาพคลิปวิดีโอด้วยตัวเอง ซึ่งเริ่มต้นจากการที่หญิงสาวคนดังกล่าวที่สวมใส่ชุดนักศึกษาได้แนะนำตัวเองว่าชื่ออะไร อายุ 21 ปี เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น และกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ แล้วหลังจากนั้นได้สร้างความน่าตกใจอย่างมากเมื่อหญิงสาวคนดังกล่าวได้เริ่มเปิดเผยให้เห็นจุดซ่อนเร้นของตัวเอง จนกระทั่งอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ตลอดจนมีการแสดงท่าทางต่างๆ ที่คล้ายการยั่วยวนทางเพศและช่วยตัวเอง ซึ่งคลิปดังกล่าวมีการแชร์และวิพากษ์วิจารณ์ความเหมาะสมอย่างมาก

เบื้องต้นจากการพยายามติดต่อไปยังมหาวิทยาลัยที่หญิงสาวตามคลิปวิดีโอระบุว่าศึกษาเล่าเรียนอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยแจ้งว่าทางมหาวิทยาลัยไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลและแสดงความเห็นใดๆ ในกรณีนี้ ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงที่น่าเชื่อถือได้ของมหาวิทยาลัย บอกว่า กรณีดังกล่าวนี้ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจและกำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าหญิง ทั้งนี้เบื้องต้นพบว่าอาจจะเป็นนักศึกษาที่เคยเรียนอยู่แต่จบออกไปแล้ว โดยการกระทำลักษณะดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนบุคคล อย่างไรก็ตามทางมหาวิทยาลัยไม่สนับสนุนการกระทำลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด พร้อมขอความร่วมมือให้ลบคลิปหรือยุติการเผยแพร่คลิปดังกล่าว แม้ว่าหญิงสาวในคลิปจะเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยหรือไม่ก็ตาม เพราะเป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่นและผิดกฎหมาย

ขณะที่นายแพทย์ปริทรรศ ศิลปกิจ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลสวนปรุง จังหวัดเชียงใหม่ กรมสุขภาพจิต ระบุว่า การแสดงออกที่ไม่เหมาะสมในเรื่องทางเพศลักษณะดังกล่าวนั้น เบื้องต้นอาจจะมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น การเลี้ยงดูที่อาจจะมีปัญหาจนทำให้ผู้แสดงออกเช่นนั้นมีการตัดสินใจที่ผิดพลาดจากแรงผลักดันบางอย่างที่เก็บกดอยู่ และโหยหาความสนใจ จนกระทั่งมีการแสดงออกโดยวิธีการดังกล่าว หรือบางรายอาจจะเจ็บป่วยหรือมีความผิดปกติทางด้านจิตใจบางอย่าง ทำให้ตัดสินใจไม่ถูกต้องหรือกระทำไปโดยขาดความยับยั้งชั่งใจ ซึ่งจะต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป

นายแพทย์ปริทรรศ บอกด้วยว่า พฤติกรรมดังกล่าวมีความเสี่ยงและน่าจะต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งหากเป็นไปได้แนะนำว่าผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวหรือคนใกล้ชิดควรพาเข้าพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษา และทำการประเมินในเชิงจิตวิทยาว่าเหตุผลที่ทำให้มีการแสดงพฤติกรรมเช่นนั้นเป็นเพราะอาการเจ็บป่วยหรือไม่ หรือว่ามีความบกพร่องใดๆ หรือไม่ อย่างไร ซึ่งโดยทั่วไปแล้วพฤติกรรมดังกล่าวนี้สามารถเยียวยาแก้ไขได้ด้วยวิธีการบำบัดต่างๆ หรือใช้ยาช่วยในการรักษาเพื่อให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าวได้.