ปราการหลัง" แม่โจ้ยูไนเต็ด" จากเชียงใหม่ "ณัฐพงษ์ ขวัญเกิด" ประกาศเอาจริง กับธุรกิจ"รับหิ้วของ" ทั้งเสื้อผ้ากีฬา , ชุดแฟชั่น จนไปถึงรองเท่ากีฬา , รองเท้าแฟชั่น เผย 3 เดือน ที่เข้ามาทำตลาด ในช่วงโควิด 19 ที่ทุกคนอยู่บ้าน ธุรกิจเติบโตอย่างน่าพอใจ มั่นใจรูปแบบงาน"คนกลาง"ทำหน้าที่ให้บริการลูกค้ากำลังมาแรง
ณัฐพงษ์ ขวัญเกิด อายุ 25 ปี ผู้เล่นในตำแหน่งแบ๊กซ้าย หมายเลข 3 ทีมฟุตบอลแม่โจ้ ยูไนเต็ด ( จังหวัดเชียงใหม่ ) ทีมฟุตบอลในไทยลีก 3 กลุ่มภาคเหนือ ฤดูกาล 2020 -2021 ให้สัมภาษณ์กับ " เนชั่น ทีวี" ว่า ในช่วงที่ฟุตบอลลีกอาชีพพักการแข่งขัน เพื่อยับยั้งการระบาดของโควิด 19 คือ นับตั้งแต่มีนาคม จนมาถึงปลายเดือนพฤษภาคม ตลอด 3 เดือน ได้ใช้เวลาที่ว่างจากภารกิจ ทั้งงานประจำ ( รับราชการ )และการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ หารายได้เสริมให้กับตัวเองและครอบครัว
ด้วยการรับงานบริการจัดซื้อสินค้า ( รับหิ้วของ ) ให้กับผู้สนใจ ผ่านทางเฟซบุ๊ค Natthapong Khwankert ซึ่งปรากฏว่า ตลอด 3 เดือน ที่รับงานทางด้านนี้ สามารถสร้างรายได้อย่างน่าพอใจ และเห็นว่าด้วยการเติบโตในธุรกิจทางด้านนี้ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง จึงมีเป้าหมายที่จะเดินหน้า กับการทำธุรกิจแบบระยะยาว กล่าวคือถึงแม้ว่าฟุตบอลจะกลับมาแข่งขัน และต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งอยู่กับฟุตบอล แต่ก็จะไม่ทิ้งงานทางด้านนี้ เพราะเห็นถึงช่องทางของตลาด ที่สามารถเติบโตได้อีกมาก หัวใจสำคัญของงานทางด้านนี้ คือการบริหาร/จัดการเวลาให้ลงตัว ไม่กระทบต่องานส่วนหนึ่งส่วนใด จัดหาสินค้าในราคาที่เหมาะสม สนองตอบต่อลูกค้า ไม่ทำกำไรจนกลายเป็นเงื่อนไข
" ผมศึกษากับงานในวงการรับหิ้วของ มาร่วม 2 ปี ศึกษาในที่นี่หมายถึง ดูรูปแบบความต้องการของตลาด อะไรที่หากซื้อมาแล้ว น่าจะระบายของออกไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้ากีฬา , เสื้อผ้าแฟชั่น , รองเท้ากีฬา, รองเท้าแฟชั่น ในแบบที่ไม่ต้องค้างสต๊อกในเวลานาน เพื่อหลีกเลี่ยงการแบกภาระกับการลงทุน แหล่งของสินค้าจะหาจากตรงไหน เพื่อให้เข้าถึง ผมมีแม้กระทั่งเครือข่ายที่ช่วยเหลือ อยู่กับพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่าย ทั้งเอาท์เล็ท หรือ ซูเปอร์สโตร์ ในกรุงเทพฯ ที่จะส่งต่อสินค้ามาถึงผม เพื่อที่ผมจะส่งไปยังผู้ซื้อ กระทั่งกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จึงมาเดินหน้ากับธุรกิจทางด้านนี้อย่างจริงจัง "
"ซึ่งเป็นจังหวะที่โควิด 19 แพร่ระบาด ทำให้ทุกคนอยู่บ้าน โดยที่ตัวเราทำหน้าที่เป็นคนกลางหาซื้อสินค้า ที่ลูกค้าต้องการ จากนั้นก็ดำเนินการจัดส่งไปยังปลายทาง คือจริงๆ ผมเริ่มทำเพียงเพราะว่า อยากหาเงินเป็นค่ากาแฟในแต่ละวัน คือ ผมเป็นคนติดกาแฟ ทุกเช้าจะต้องแวะซื้อกาแฟก่อนไปทำงานประจำ( รับราชการ ) ก็เลยคิดว่า จะหารายได้อย่างไร ที่จะเป็นค่ากาแฟรายวัน และคิดว่าน่าจะเริ่มจากสิ่งใกล้ตัวที่เรารู้จัก ซึ่งก็คือการหิ้วของนั่นเอง และกลายเป็นว่านั่นคือการเติบโต อย่างน่าพอใจ จากยอดการใช้บริการ"
แบ๊กซ้ายแม่โจ้ ยูไนเต็ด กล่าวว่า ตลอด 3 เดือน ที่ผ่านมา กับธุรกิจรับหิ้วของ หากมองในแง่รายได้รวม เหลือเป็นกำไรสุทธิ ตัวเลขแตะ 20,000 บาท ทำให้เห็นถึงความหวัง ในการที่จะสานต่อเพื่อเป็นอาชีพที่สาม ถัดจากงานประจำ คือ รับราชการ และงานในฟุตบอลอาชีพ ซึ่งทั้งหมดนี้ที่จะเกิดขึ้น ต้องขอบคุณแฟน ที่เข้ามาช่วยเหลือแบ่งเบาภาระต่างๆให้ จนผมเหลือเพียงหน้าที่ในการจัดหาสินค้า และส่งไปรษณีย์ หรือ ส่งสินค้าผ่านทางบริการขนส่งเอกชนเท่านั้น
" ที่ผมวางเป้าหมายกับการเดินหน้าต่อ ในงานทางด้านนี้ เพราะเห็นว่าตลาดหรือความต้องการของผู้บริโภค เติบโต ทุกคนสามารถเลือกหาสินค้าได้ อย่างที่ต้องการผ่านช่องทางต่างๆ จากนั้นก็หาคนที่ซื้อ หาราคาที่เหมาะสม หากเราสามารถหาแหล่งที่เข้าถึงได้กับตัวสินค้า วางราคาขายที่เหมาะสม ผมว่าเราไปได้ นั่นจึงทำให้ผมมีความพร้อม ที่จะเดินหน้ากับธุรกิจทางด้านนี้ เพื่อให้เป็นแหล่งรายได้ต่อไป สถานการณ์จากโควิด 19 มันทำให้เห็นว่า เราต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัว ทำอะไรก็ตามขอให้เป็นงานที่สุจริต มันมีโอกาสเติบโตได้แน่นอน ในช่วงโควิด 19 คนในวงการฟุตบอลใช้เวลาว่างกับการขายของออนไลน์ ด้วยการขายสินค้าในพวกอาหาร นั่นคือกระบวนการปรับตัว เพื่อให้ตัวเองมีรายได้ เช่นเดียวกับผม ที่เลือกงานรับหิ้วของ" ณัฐพงษ์ กล่าว
