โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

แบรนด์ทำอย่างไร ในกระแสการเมืองร้อน กับ #ถอนโฆษณาเนชั่น

Positioningmag

อัพเดต 21 มี.ค. 2562 เวลา 12.31 น. • เผยแพร่ 21 มี.ค. 2562 เวลา 12.10 น.

เป็นกระแสฮอตโซเชียลมา 3 วันต่อเนื่อง กับกรณี “เนชั่นทีวี” เผยแพร่คลิปตัดต่อเสียง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” เมื่อคืนวันอังคาร 19 มีนาคม จนเกิด #เนชั่นโป๊ะแตก สนั่นโลกออนไลน์ ตามด้วยเหตุการณ์โทรศัพท์สัมภาษณ์สด “ธนาธร” ของเนชั่นทีวี ช่วงเที่ยงวันพุธ 20 มีนาคม ที่พูดถึงมาตรฐานการทำหน้าที่ของสื่อในการนำเสนอคลิปเสียงตัดต่อ และการตอบโต้ของผู้บริหารเนชั่นทีวี ที่เห็นว่าคำพูดของ “ธนาธร” สร้างความเสียหายให้เนชั่นทีวี สถานการณ์ที่เคลียร์ไม่จบดังกล่าว ชาวออนไลน์ที่ไม่พอใจต่อการรายงานข่าวของเนชั่นทีวีกลุ่มหนึ่งได้วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเกิดเป็น  #ถอนโฆษณาเนชั่น  ซึ่งได้รับความนิยมในทวิตเตอร์และขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ในประเทศไทย ช่วงเช้าถึงเที่ยงวันนี้ (21 มี.ค.) เนื้อหาของแฮชแท็ก เป็นการกดดันสินค้าและแบรนด์ต่างๆ ที่เป็นสปอนเซอร์รายการช่องเนชั่นทีวี

ในมุม “แบรนด์” ที่ถูกโยงเข้ากับกระแสการเมืองร้อนในช่วงโค้งสุดท้ายนี้กับ #ถอนโฆษณาเนชั่น แหล่งข่าวจากเอเยนซี บอกว่ากระแสโลกออนไลน์ที่กดดันสินค้าและแบรนด์ให้ถอนโฆษณาเนชั่นนั้น ด้วยหลักเกณฑ์การซื้อโฆษณาแล้ว ปกติเป็นการวางแผนและซื้อโฆษณา“ล่วงหน้า” อย่างน้อย 1 เดือน ซึ่งบางรายจะยาวกว่านั้น ดังนั้นโฆษณาที่เห็นหน้าจอทีวีวันนี้ คือ ถูกซื้อและวางแผนล่วงหน้าไปแล้ว การถอนโฆษณาจึงต้องบอกว่า “ลำบาก”  ต่อเมื่อจบแคมเปญแล้ว หากมีกระแสที่ส่งผลต่อแบรนด์โดยตรง ก็อาจมีการ “ทบทวน” การลงโฆษณาใหม่ เพราะวันนี้ต้องยอมรับว่ายังมีทีวีดิจิทัล อีกหลายช่องเป็นตัวเลือกในการลงโฆษณา

แต่หากมีการถอนโฆษณา กันจริง สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับแบรนด์  คือ ชาวออนไลน์ในฝั่งที่กดดันให้ถอนโฆษณาก็จะพึงพอใจ  แต่ก็จะสร้างความไม่พอใจให้เกิดขึ้นกับฝ่ายที่สนับสนุนเนชั่นทีวีได้เช่นกัน อีกทั้งยังกระทบกับคอนเนคชั่นระยะยาวของสื่อ หากดูกระแสออนไลน์วันนี้กับ #ถอนโฆษณาเนชั่น ก็ต้องบอกว่าเป็นแฮชแท็กที่ยังไม่เชื่อมโยงกับแบรนด์โดยตรง ในสถานการณ์เช่นนี้ เชื่อว่า “สินค้าและแบรนด์” จะไม่ออกมาแอคชั่นอะไรมากนัก คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสถานีทีวีกับคู่กรณีเคลียร์กันเอง.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0