แบงก์รัฐอัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหนุนรัฐกระตุ้นอสังหาฯ “ออมสิน” ชงบอร์ด 27 พ.ย.นี้ ออกสินเชื่อเคหะตัวใหม่ วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท คิดดอกเบี้ย 2.7-2.9% ต่อปี งัดแคมเปญเด็ด “กู้ล้านผ่อน 10 บาท” เรียกลูกค้า ฟาก “ธอส.” เผยสินเชื่อ ธอส.ประชารัฐดอกเบี้ยต่ำ 2.5% มียอดยื่นขอกู้เข้ามาแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท อนุมัติแล้วเฉียด 4 พันล้านบาท
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 พ.ย.นี้ ธนาคารจะเสนอคณะกรรมการธนาคาร เห็นชอบโครงการสินเชื่อเคหะตัวใหม่ เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) โดยเบื้องต้นเตรียมวงเงินปล่อยสินเชื่อไว้ประมาณ 25,000 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยราว 2.7-2.9% ต่อปี และมีเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ ตั้งเป้าว่าจะเริ่มปล่อยสินเชื่อได้ตั้งแต่เดือน ธ.ค.เป็นต้นไป
“สินเชื่อบ้านตัวใหม่จะเปิดตัวต้นเดือน ธ.ค. ต้องรอเสนอบอร์ดวันที่ 27 พ.ย.นี้ก่อน” นายชาติชายกล่าว
ทั้งนี้ รายงานแจ้งว่า เนื่องจากสินเชื่อเคหะของธนาคารออมสินไม่ได้รับการอุดหนุนดอกเบี้ยจากรัฐบาล จึงไม่สามารถคิดอัตราต่ำระดับ 2.5% ต่อปีได้ อย่างไรก็ดี ธนาคารจะมีเงื่อนไขพิเศษในการผ่อนชำระ อาทิ ผ่อนชำระเพียงล้านละ 10 บาทต่อเดือนในระยะแรก เพื่อให้ประชาชนซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น รวมถึงไม่จำกัดเพดานว่าต้องซื้อบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท แต่จะเปิดกว้าง
นอกจากนี้ นายชาติชายกล่าวด้วยว่า ธนาคารยังมีโครงการสินเชื่อใหม่ที่จะปล่อยกู้แก่ลูกค้าระดับเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเพิ่งเปิดตัวคือ สินเชื่อประชาชน 555 คือ คิดดอกเบี้ย 0.5% ต่อเดือน ผ่อนชำระ 5 ปี ในวงเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย เป็นไปตามนโยบาย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้แบงก์มีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษเพื่อช่วยประชาชนในระดับฐานราก
“สินเชื่อประชาชน 555 นี้ เรียกได้ว่า กู้ 1 หมื่นบาท จะเสียดอกเบี้ยแค่วันละกว่า 1 บาทเท่านั้น” นายชาติชายกล่าว
นายชาติชายกล่าวว่า คาดว่าปีนี้สินเชื่อรวมของธนาคารจะเติบโตราว 3% ต่อปี เท่า ๆ กับการเติบโตของ GDP หรือราว 80,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.19 ล้านล้านบาท โดยจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. ยอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นมาที่ 2.18 ล้านล้านบาทแล้ว ทั้งนี้ เชื่อว่าถึงสิ้นปีจะปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย ส่วนปี 2563 ตั้งเป้าหมายสินเชื่อเติบโต 1-1.5 เท่าของ GDP โดยโฟกัสปล่อยสินเชื่อ 2 ประเภท คือ 1.สินเชื่อเอสเอ็มอีและสตาร์ตอัพ และ 2.สินเชื่อกลุ่มฐานราก ซึ่งเป็นกลุ่มที่ธนาคารต้องการส่งเสริมให้มีศักยภาพ ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก โดยเตรียมวงเงินปล่อยกู้ไว้ประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะส่งผลให้ยอดสินเชื่อคงค้างปีหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 2.27 ล้านล้านบาท
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า หลังจากที่ธนาคารได้เริ่มเปิดให้ประชาชนยื่นขอสินเชื่อ ธอส.ประชารัฐ วงเงินรวม 5 หมื่นล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี มาตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. 2562 ที่ผ่านมา ล่าสุดมีผู้ยื่นขอกู้เข้ามาแล้ว รวมทั้งสิ้น 5,441 ราย วงเงิน 11,110 ล้านบาท โดยธนาคารได้อนุมัติเงินกู้ไปแล้ว 2,140 ราย วงเงิน 3,931 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าวงเงินที่จำกัดในจำนวน 5 หมื่นล้านบาทนั้น จะเต็มในช่วงเดือน ก.พ. 2563
