การสำรวจกำลังซื้อและการค้าขายระดับฐานราก ร้านค้าโชห่วย ซึ่งถือว่าใกล้ชิดกับชุมชน พบว่านอกจากการแข่งขันที่รุนแรงทางธุรกิจและพัฒนาการของเทคโนโลยีซึ่งเป็นที่มาของการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์แล้ว ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมีผลให้ยอดขายร้านค้าโชห่วยลดลงมากกว่าปกติ
โชห่วยถือเป็นร้านค้าหลักสำหรับธุรกิจฐานราก เป็นร้านค้าที่กระจายอยู่ในหมู่บ้าน หรือแหล่งชุมชนระดับชาวบ้าน ซึ่งในอดีตอยากซื้ออะไรก็มาซื้อกันที่ร้านโชห่วยทำให้ยอดขายของแต่ละร้านจะดีตลอดปี แต่ในยุคนี้ยอดขายร้านโชห่วยตกลงอย่างมาก
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงขณะนี้ มีร้านโชห่วยรายเล็กปิดตัวไปแล้วหลักพันราย จากผลกระทบการขายสินค้าออนไลน์ที่ผู้บริโภคต้องการความสะดวก มีการจัดส่งถึงบ้าน ขณะเดียวกันการขยายตัวของร้านค้ารายใหญ่ ที่สมัยใหม่ และผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวยังทำให้กำลังซื้อโดยเฉพาะระดับฐานรากลดลง ผู้บริโภคใช้จ่ายแบบประหยัดมากขึ้น โดยร้านที่ยังพออยู่ได้ก็จะอยู่แบบไม่โตไม่มีการพัฒนาและอยู่ตามแหล่งใกล้ชุมชนในต่างจังหวัด ส่วนกรุงเทพแทบจะสูญพันธุ์เพราะต้นทุนสูงแข่งขันไม่ได้จึงอยากให้ภาครัฐสนับสนุนโชห่วยจริงจังมากกว่าที่ผ่านมา
ขณะที่นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายที่จะดูแลและสร้างความแข็งแกร่งให้กับโชห่วยภายใต้ 2 โครงการที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand