นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา นายกแพทยสภา ระบุว่า ฝุ่นละออง PM2.5 นั้นเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เนื่องจาก ส่งผลกระทบระยะยาวต่อประชาชน โดยเวลานี้ ทางแพทยสภา ได้รวบรวมข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลผลกระทบจากราชวิทยาลัยต่างๆ เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาทั้งในระยะสั้น และ ระยะยาว อาทิ เรื่องการปลูกต้นไม้ เช่น ต้นตะขบ ซึ่งใบจะมีขนจึงดูดซับฝุ่นได้ดี ทั้งนี้ทางแพทยสภา เตรียมที่จะส่งข้อมูลถึงผู้มีอำนาจตัดสินใจ ซึ่งคาดว่าน่าจะเรียบร้อยภายในสัปดาห์หน้า
ด้านนายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ข้อมูลจากทั่วโลกพบว่า 9 ใน 10 ของประชากรที่สัมผัสฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานส่งผลให้เกิดโรคไม่ติดต่อ เป็นสาเหตุอันดับ 2 รองจากการสูบบุหรี่ แบ่งเป็น โรคหลอดเลือดสมอง 24 % ปอดอุดกั้นเรื้อรัง 43% โรคหัวใจขาดเลือด 25% และ มะเร็งปอด 29 %
และในทุกปีประชากรจำนวน 7 ล้านคน จะเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรจากมลพิษทางอากาศ โดยเด็ก 0-5 ปี เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศ 5.7 แสนคนต่อปี และกระทบต่อพัฒนาการและความสามารถในการรับรู้ ทั้งนี้ในปี 2561 พบว่ามีการเสียชีวิตจากมะเร็งปอด 1.8 ล้านคน และพบผู้ป่วยรายใหม่ 2.1 ล้านคน คิดเป็น 11.6% ของผู้ป่วยรายใหม่ทั้งหมด